Home
|
ข่าว

“เอ็งค์-ออร์กิล” แชมป์โลก ONE ป้ายแดง ผู้ใช้ทุกโอกาสขับเคลื่อนตัวเอง

Featured Image
“เอ็งค์-ออร์กิล” ยอดนักสู้พลังแกร่ง แชมป์โลก ONE  MMA รุ่นแบนตัมเวต ป้ายแดง ผู้ใช้ทุกโอกาสขับเคลื่อนตัวเองสู่เส้นทางแห่งการพลิกชีวิต

 

เอ็งค์-ออร์กิล บาร์ทาคู ยอดนักสู้ MMA พลังแกร่ง ฮีโร่ของชาวมองโกเลีย ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในชั่วข้ามคืน เมื่อสามารถทำเซอร์ไพรส์ปราบ ฟาบริซิโอ อานดราเด จากบราซิล ฉกเข็มขัดแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ในวัย 36 ปี

 

 

“เอ็งค์-ออร์กิล บาตาร์คู” เติบโตจากดินแดนทุ่งหญ้าสเตปป์ในเมืองคอฟด์ ประเทศมองโกเลีย เขาหลงใหลการต่อสู้ตั้งแต่วัยเยาว์ จากการดูโทรทัศน์และปล้ำสนุกกับเพื่อนบ้าน ก่อนความชอบจะพาเข้าสู่การฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง แม้เคยตั้งเป้าคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเทควันโด แต่เมื่อเส้นทางไม่เป็นใจ เขาจึงมองหาความท้าทายใหม่ จนได้ค้นพบศาสตร์ MMA ในปี 2552 และได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ นารันตุงกาลัก จาดัมบา อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต

 

 

จากนั้น “เอ็งค์-ออร์กิล” พัฒนาฝีมืออย่างก้าวกระโดดด้วยสไตล์ดุดัน เกมปล้ำแข็งแกร่ง และมีความอึดทนตามแบบฉบับนักสู้มองโกล จนคว้าชัยต่อเนื่องในระดับท้องถิ่นและภูมิภาค สลับกับการทำงานในเหมืองแร่ ที่แทบไม่มีเงินติดตัว ทำงานวันละ 12 ชม. และต้องแบ่งเวลามาซ้อมอีก 3 ชม. ก่อนได้โอกาสโชว์ฝีมือในเวทีค้นหาดาวรุ่ง Road To ONE มองโกเลีย ซีซันแรก และเขาก็สามารถฝ่าทุกด่านจนกระทั่งพิชิตสัญญา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 3.2 ล้านบาท)  เข้าสู่สังกัด ONE อย่างเป็นทางการ

 

 

 

ตลอดเส้นทาง เอ็งค์ ออร์กิล เปิดตัวในศึก ONE ลุมพินีเป็นครั้งแรก โดยพิสูจน์ความเหนือชั้นให้เห็น ด้วยการโชว์ออกอาวุธหลากหลายและเดินหน้ากดดันคู่ต่อสู้แบบต่อเนื่อง จนเก็บชัยสองไฟต์ติดเหนือ “อาโดนิส เซวิลเลโน” และ “ร็อคกี แบคโทล” สองตัวแทนจากฟิลิปปินส์

 

 

หลังจากนั้น “เอ็งค์ ออร์กิล” แจ้งเกิดบนเวทีใหญ่อย่างสวยงาม ในศึก ONE Fight Night 13 เมื่อเดือน ส.ค. 66 ซึ่งแม้จะถูกซัดร่วงลงพื้นถึงสองครั้งในยกแรก แต่เขายังพลิกเกมกลับมาเอาชนะซับมิชชัน “จันโล มาร์ค ซานเกียว” อีกหนึ่งนักสู้แถวหน้าจากฟิลิปปินส์ได้ในยกที่สอง พร้อมคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.6 ล้านบาท) เข้ากระเป๋าด้วย

 

 

ผลงานชนะรวด 3 ไฟต์ เป็นจุดเริ่มต้นให้ “เอ็งค์ ออร์กิล” ได้ฝันไต่เต้าสู่การเป็นแชมป์แบบจริงจัง แต่ไฟต์ต่อมาในศึก ONE Fight Night 18 เมื่อเดือน ม.ค. 67 เขากลับต้องสะดุดแพ้เป็นครั้งแรกในรายการของ ONE เมื่อโดน “อาร์เทม บีลัคฮ์” คู่ต่อสู้จากรัสเซีย ระดมสับศอกและฟาดหมัดเข้าใส่อย่างหนัก จนตกเป็นฝ่ายพ่ายทีเคโอในยกสอง

 

 

แม้ฟอร์มสะดุดแต่ฉุดหัวใจนักสู้ไม่ได้ “เอ็งค์ ออร์กิล” กลับมากู้ฟอร์มเก่งได้ทันควันในศึก ONE Fight Night 24 ภายในปีเดียวกัน โดยเป็นฝ่ายไล่ต้อน “คาร์โล บูมินาอัง” จากฟิลิปปินส์ ได้อย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายเขาใช้ท่าล็อกคอและไหล่ Arm Triangle Choke (อาร์ม ไทรแองเกิล โช้ก) จนอีกฝ่ายหมดสติ และกลายเป็นคนแรกที่ปิดเกม “คาร์โล” ได้

 

ไฟต์ต่อมาในศึก ONE Fight Night 27 เมื่อเดือน ม.ค. 68 “เอ็งค์ ออร์กิล” ตัดสินใจลองขยับน้ำหนักไปสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) และยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อโชว์ท่าล็อกแขนแล้วบิดข้อไหล่คู่ต่อสู้ Kimura Lock (คิมูระ ล็อก) อันเป็นเอกลักษณ์เข้าใส่ “อารอน คานาร์เต” จากเอกวาดอร์ จนทนความเจ็บไม่ไหว ต้องตบพื้นขอยอมแพ้ไปในช่วงกลางยกแรก

 

การซับมิชชันที่รวดเร็วปานสายฟ้าครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “เอ็งค์ ออร์กิล” ไม่ใช่นักกีฬาที่ดีแต่ใช้กำลัง แต่เขายังมีการวิเคราะห์อ่านเกมที่แม่นยำ ทำให้สามารถเลือกออกอาวุธได้แบบมีประสิทธิภาพ จากผลงานปิดเกมติดต่อกันสองไฟต์ ทำให้ “เอ็งค์ ออร์กิล” เข้าใกล้โอกาสได้ชิงแชมป์โลกไปอีกขั้น

 

 

และในศึก ONE Fight Night 29 เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา “เอ็งค์ ออร์กิล” กลับมาพิสูจน์ฝีมือในรุ่นแบนตัมเวต โดยมีเป้าหมายล่าตั๋วในการชิงแชมป์โลกอย่างชัดเจน และทำภารกิจสำเร็จอย่างสวยงาม เมื่อเป็นฝ่ายคุมเกมม้วนเดียวตลอดทั้งสามยก ก่อนเอาชนะ “เจเรมี ปาคาทิว” ผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ จากฟิลิปปินส์ ไปได้ด้วยคะแนนเอกฉันท์

 

 

ส่งให้เขาทะยานขึ้นมารั้งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต และได้โอกาสชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต กับ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” เจ้าของบัลลังก์สอง

 

ไฟต์ดังกล่าว “เอ็งค์-ออร์กิล” ทำผลงานน่าจดจำ ด้วยการใช้ท่ารัดคอจากด้านหลัง “Rear Naked Choke” (เรียร์ เนกเกด โช้ก) เผด็จศึกเอาชนะ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” ได้อย่างสวยงามในยก 4 ผงาดเป็นแชมป์โลกคนใหม่ พร้อมคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.6 ล้านบาท) ไปครอง

 

ส่งผลให้ “เอ็งค์-ออร์กิล บาร์ทาคู” กลายเป็นแชมป์โลกชาวมองโกเลียคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ONE ต่อจากอดีตแชมป์โลก ONE ที่เขายกให้เป็นต้นแบบ “จาดัมบา” โดยหลังจบการแข่งขัน เอ็งค์-ออร์กิล ได้เปิดใจว่า

 

“ตอนนี้ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ยังไง มันสุดยอดจริง ๆ และต้องขอชม ฟาบริซิโอ คุณเก่งมาก ๆ เล่นผมซะเหนื่อยเลย ตลอดการเป็นนักสู้ MMA ผมไม่เคยเจ็บหนักขนาดนี้มาก่อน”

 

“ผมอยากขอบคุณโค้ชและ จาดัมบา เขาเคยเป็นแชมป์โลกเมื่อ 11 ปีก่อน วันนี้ผมได้เป็นแชมป์ มันมีความหมายมาก ผมอยากขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่มอบโอกาสยิ่งใหญ่นี้ให้ผม และอยากขอบคุณพี่น้องชาวมองโกเลีย รวมถึงขอบคุณ คุณชาตรี มากด้วย”

 

เรื่องราวของ “เอ็งค์-ออร์กิล บาร์ทาคู” คือหลักฐานชัดเจนว่าชัยชนะไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการไม่ปิดประตูให้กับโอกาสใด ๆ ที่ผ่านเข้ามา จากเหมืองแร่สู่สังเวียนระดับโลก แม้ต้องเหนื่อยจนแทบหมดแรง แต่เขายังคงก้าวต่อไป และคว้าโอกาสทุกครั้งราวกับเป็นครั้งสุดท้าย ความสำเร็จของเขาวันนี้จึงไม่ใช่เพียงการได้ครองเข็มขัดแชมป์โลก แต่คือการพิสูจน์ว่าชีวิตสามารถพลิกได้เสมอ หากเรา “เปิดรับ” และกล้าที่จะเดินเข้าหามัน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube