เตือนรถยนต์ไฟฟ้า EV จมน้ำนานเสี่ยงไฟไหม้!?
ท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ สิ่งหนึ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของรถ โดยเฉพาะผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพราะถ้าหาก ต้องจอดรถแช่น้ำเป็นเวลานาน ระบบต่างๆ จะเสียหายหรือไม่ และยังสามารถขับขี่ต่อไปได้อย่างปลอดภัยรึป่าว วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีรับมือเบื้องต้นกัน
ผศ.ดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห์ คณะกรรมการสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ประธานฝ่ายอบรมและการศึกษา ( WG2 ) กล่าวถึงเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์จมน้ำ เสียหายมากกว่า 1 หมื่นคันโดยเบื้องต้นรถยนต์ไฟฟ้า EV มีประมาณ 10% และแม้ว่าแบตรถ EV ส่วนใหญ่ จะมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IP67 ซึ่งสามารถทนต่อการแช่น้ำได้ลึกถึง 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที หากลุยน้ำลึกราว 40–50 เซนติเมตร หรือระดับล้อ หรือระดับปริ่มขอบประตูด้านล่างน้ำจะไม่สามารถเข้าไปภายในแบตเตอรรี่ได้
แต่กรณีน้ำท่วมหาดใหญ่ ระดับน้ำท่วมสูงมิดหลังคารถหลายคัน และรถจมน้ำเป็นเวลานาน อาจมีน้ำเข้าไปภายในแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่เสียหาย เสี่ยงต่อการช็อตและเพลิงขึ้นได้ ดังนั้น จึงควรเคลื่อนย้ายรถไปจอดให้ห่างจากอาคาร บ้านเรือน หรือทรัพย์สินอื่นๆ อย่างน้อย 15 เมตร เพื่อป้องกันเพลิงลุกลามเสียหาย ที่สำคัญห้ามขับและห้ามชาร์จเครื่องเด็ดขาด
เช่นเดียวกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หากจมน้ำนานหลายวัน ไม่สามารถซ่อมแซมแบตเตอร์รี่ได้ ดังนั้นแบตเตอรี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่ถูกน้ำท่วมจึงมีสภาพเป็นขยะได้อย่างเดียว เพื่อป้องกันความเสียหายจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดเพลิงคลุ้งขึ้นได้ จึงแนะนำให้เจ้าของถอดแบตเตอร์สกู๊ตเตอร์ออกไปไว้จุดอื่น ที่อยู่ห่างไกลจากทรัพย์สินอื่นๆ
ขณะนี้สมาคมฯ ได้ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้เปิดศูนย์รวบรวมช่างและกระจายงาน ตรวจสอบสภาพความเสียหายของรถ รวมถึงรวบรวมแบตเตอร์รี่รถสกู๊ปเตอร์ ที่จมน้ำเสียหาย เพื่อส่งไปกำจัดอย่างถูกต้องและเหมาะสม
นอกจากนี้ ผศ.ดร.ชนะ ยังกล่าวอีกว่า “รถยนต์ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไหร่ แต่สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วม เจ้าของบ้านอาจจะปล่อยทิ้งเป็นขยะ ซึ่งมีโอกาสลุกไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงต้องพยายามจะแยกออกมาเพื่อความปลอดภัย”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





