Home
|
อาชญากรรม

“ปวีณา” พายาย-ป้า เด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าพบ รอง ผบ.ตร.

Featured Image
“ปวีณา” พายาย-ป้า เด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าพบ รอง ผบ.ตร. ติดตามความคืบหน้าคดีถูกแม่พาไปค้าประเวณีในญี่ปุ่น เผยรู้สึกคลายกังวลลง อยากให้หลานกลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า

 

วันที่ 24 พ.ย.68 เวลา 15.00น.ที่ ตร.นางปวีณา หงสกุล พายายและป้าของเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าพบพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เด็กหญิงวัย 12 ปี ถูกแม่พาไปค้าประเวณีที่ร้านนวดในญี่ปุ่น ขณะที่ผู้เป็นยายเผยกินไม่ได้นอนไม่หลับ ห่วงหลานจับใจ ด้านปวีณาเผย เด็กอยู่ในการคุ้มครองของทางการญี่ปุ่นแล้ว ส่วนแม่ถูกจับในไต้หวันในข้อหาค้าประเวณีและอยู่เกินกำหนด

 

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้นำยายและป้าของเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าพบและประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ติดตามและดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด

 

การเข้าพบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากครอบครัวในไทยแสดงความเป็นกังวลอย่างมาก ยายและป้าเป็นห่วงหลานสาววัย 12 ปีอย่างมาก หลังสื่อญี่ปุ่นเผยแพร่ข่าวว่าเด็กถูกแม่พาไปค้าประเวณีในร้านนวดที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่แม่ของเด็กถูกจับกุมที่ไต้หวันในข้อหาอยู่เกินกำหนดและค้าประเวณี ทำให้ครอบครัวไม่ทราบข้อมูลว่าขณะนี้หลานสาวอยู่ที่ใดและมีสภาพจิตใจอย่างไร

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ยายและป้าอุ้มหลานชายวัย 11 เดือนที่เกิดในญี่ปุ่น เดินทางจากจังหวัดเพชรบูรณ์มาร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณาฯ ทั้งน้ำตา เล่าว่าหลังทราบข่าวจากสื่อญี่ปุ่นก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่รู้ชะตากรรมหลานสาววัย 12 ปี และลูกสาวของตนเอง

 

โดยนางปวีณา บอกว่า หลังได้รับเรื่องได้ประสานไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และได้รับแจ้งว่า เด็กหญิงวัย 12 ปี ปลอดภัยแล้ว อยู่ในความดูแลของทางการญี่ปุ่น พร้อมเผยว่าสื่อญี่ปุ่นหลายสำนักได้มาสัมภาษณ์มูลนิธิถึงประเด็นนี้ และสอบถามความคิดเห็นต่อกฎหมายญี่ปุ่นเกี่ยวกับการค้าประเวณี ซึ่งปวีณาได้ย้ำแนวทางของไทยที่มุ่งฟื้นฟูผู้หญิงที่เป็นเหยื่อ พร้อมเอาผิดผู้ซื้อบริการ

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก เป็นเด็กที่อายุน้อยมากที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น การช่วยเหลือผู้หญิงที่ผ่านมาจากประเทศต่างๆ อายุประมาณ 20 ปี

 

หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ประสานตำรวจไทยทันที จนนำไปสู่การเข้าพบติดตามความคืบหน้าคดีร่วมกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันนี้ โดยทางครอบครัวหวังว่าจะได้รับรู้ความจริงทั้งหมด พร้อมให้หน่วยงานรัฐช่วยเหลือหลานสาววัย 12 ปีอย่างเต็มที่ ทั้งด้านความปลอดภัยและสภาพจิตใจ

 

"ปวีณา" พายาย-ป้า เด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าพบ รอง ผบ.ตร.

 

ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย บอกว่า ตอนนี้เด็กอยู่ในความดูแลของประเทศญี่ปุ่นปลอดภัยดีสามารถออกไปไหนมาไหนตามที่ร้องขอ มีเจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่นพาไป โดยทั่วไปเด็กสามารถปรับตัวได้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนการพาตัวเด็กกลับประเทศไทยจะต้องรอให้ทางการญี่ปุ่นสอบสวนขยายผลเรียบร้อยก็จะส่งตัวเด็กกลับมา

 

ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับตั้งแต่วันแรกให้เดินทางไปญี่ปุ่นขอให้มีการส่งตัวเด็กกลับประเทศไทยให้เร็วที่สุดเพื่อกลับมาสู่ครอบครัวโดยเร็วที่สุดและได้มีการแจ้งกับทางการญี่ปุ่นไปแล้ว เมื่อเร่งรัดดำเนินคดีเรียบร้อยแล้วจะรีบส่งตัวเด็กกลับมา ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา 1-2 เดือน

 

ด้านป้าและยายของเด็กผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เพราะมีนักข่าวประเทศญี่ปุ่นไปสัมภาษณ์ที่บ้านในจังหวัดนครนายก ตอนแรกก็รู้สึกมีความกังวลเพราะเป็นห่วงหลานสาวเป็นอย่างมาก แต่พอมี ทางมูลนิธิปวีณาฯ และตำรวจเข้ามาช่วยดำเนินการในการช่วยเหลือหลานสาว ก็รู้สึกอุ่นใจและคลายความกังวลไปได้มาก

 

เมื่อได้รู้ว่าหลานสาวอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นแล้ว จึงขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ช่วยหรือดำเนินการ ตอนนี้ต้องการแค่เพียงว่าอยากให้หลานสาวกลับมาเมืองไทยโดยเร็ว เพราะคิดถึงและเป็นห่วงอยากเจอกันมาก

 

ป้าของเด็กยังระบุว่าแม่ของเด็กเคยเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานนวดแผนไทยก่อนตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศเพื่อหารายได้ กระทั่งพาหลานสาววัย 12 ปี ไปญี่ปุ่นเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่าจะให้ช่วยเลี้ยงน้องชายที่เกิดใหม่ แต่ต่อมาได้ฝากหลานไว้กับเพื่อนที่ร้านนวด และเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน ก่อนถูกจับกุมในที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube