ทนายอั๋นร้อง DSI เอาผิดพยานกลับคำให้การคดีฮั้ว สว.
ทนายอั๋น ร้องดีเอสไอ ขอให้ดำเนินคดีพยานคดีฮั้ว สว.ที่กลับคำให้การ พร้อมเปิดหลักฐานเส้นเงินในคดีอ้างโยงเจ้าหน้าที่ กกต. 8.6 แสนบาท
วันนี้ (14 พ.ย. 68) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทนายอั๋น บุรีรัมย์ (ภัทรพงศ์ ศุภักษร) ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีทางกฎหมายกับพยานปากเอก ในคดีฮั้วเลือกตั้งสว. ที่กลับคำให้การ โดยอ้างว่าคำให้การเดิมถูกเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่บังคับให้ซัดทอดถึงพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งการกลับคำครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา
นอกจากประเด็นการกลับคำให้การของพยานแล้ว ทนายอั๋นยังได้เปิดเผยแผนผัง “เส้นทางการเงิน” ที่อ้างว่าเป็นหลักฐาน ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับขบวนการฮั้วเลือกตั้งสว. ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยหลักฐานดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่กกต. รายหนึ่งชื่อย่อ ส. ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นพนักงานสืบสวนและไต่สวนประจำกกต. โดยถูกกล่าวหาว่าได้รับเงินโอนจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายฮั้วเลือกตั้งสว. ในพื้นที่อำนาจเจริญ ซึ่งระบุว่าเป็นมือขวาของ “ขาใหญ่” ในพื้นที่ ที่มีสายสัมพันธ์กับพรรคการเมือง
จากการเปิดเผยพบว่า เจ้าหน้าที่กกต. รายนี้ได้รับเงินโอนรวมทั้งสิ้น 13 ครั้ง เป็นจำนวนเงินรวม 860,000 บาท โดยมียอดโอนสูงสุดถึง 520,000 บาท ในวันที่ 1 มิ.ย. 67 โดย ทนายอั๋น ตั้งคำถามต่อความโปร่งใสของกกต. ว่าเพราะอะไรเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการจึงมีเงินโอนเกือบหลักล้านบาทจากผู้ถูกกล่าวหาในคดีที่ตนเองรับผิดชอบ
ทนายอั๋น ยังได้มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่กกต. รายนี้ถูกร้องเรียนให้สอบวินัยไปก่อนหน้านี้ แต่คณะกรรมการกกต. กลับมีคำสั่ง “ยกคำร้อง” โดยอ้างว่าไม่มีเอกสารหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจน ซึ่งขัดแย้งกับหลักฐานที่ทนายอั๋น นำมาเปิดเผยในวันนี้ นอกจากนั้นทนายอั๋นยังกล่าวถึงคดีอาญาในชั้น DSI และคดีวินิจฉัยในชั้นกกต. ว่ามีแนวโน้มที่จะ “ถูกล้ม” หรือยุติการพิจารณาภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมในคดีสำคัญที่สังคมให้ความสนใจนี้กำลังถูกถ่วงอย่างชัดเจน ภายหลังการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมือง
ทนายอั๋น กล่าวยืนยันในตอนท้ายว่า หลักฐานเส้นทางการเงินที่นำมาแสดงในวันนี้ เป็นเพียง Ep. แรกเท่านั้น และเตรียมที่จะเปิด Ep.2 ต่อไป และตนเองมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่ เปิดโปงหลักฐานทั้งหมดสู่สาธารณะต่อไป หากหน่วยงานรัฐยังคงนิ่งเฉย และปล่อยให้คดีสำคัญนี้ถูกยุติลงโดยไม่มีความโปร่งใส
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
