ปชช.หวั่นลต.69 เกิดความขัดแย้งซ้ำรอยเดิม ชี้ 5 พรรคพร้อมแล้ว
“สวนดุสิตโพล” เผยประชาชนหวั่นการเลือกตั้งปี 69 เกิดความขัดแย้งซ้ำรอยเดิม ชี้ 5 พรรคพร้อมลงสนามแล้ว
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความพร้อมของพรรคการเมืองกับการเลือกตั้ง” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,174 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2568
พบว่า เมื่อถามประชาชนมีความพร้อมมากน้อยเพียงใดสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 โดยร้อยละ 56.81 ค่อนข้างพร้อม ร้อยละ 26.58 พร้อมมาก ร้อยละ 13.80 ยังไม่ค่อยพร้อม และร้อยละ 2.81 ไม่พร้อมเลย
ส่วนประชาชนคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2569 พบว่า ร้อยละ 53.15 กังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งหรือการเมืองซ้ำรอยเดิม ร้อยละ 43.44 อยากให้กติกาและระบบเลือกตั้งยุติธรรม ร้อยละ 36.29 เชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ร้อยละ 30.41 ระบุพรรคการเมืองและผู้สมัครมีการเตรียมความพร้อมกันมากขึ้น และร้อยละ 28.11 ต้องรอดูว่าจะมีเลือกตั้งวันใด ต้องกาบัตรอะไรบ้าง
ขณะที่ประชาชนอยากเห็นพรรคการเมืองเตรียมตัวเลือกตั้งอย่างไร พบว่า ร้อยละ 56.39 มีทีมงานมืออาชีพ พร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง ร้อยละ 50.43 เตรียมนโยบายที่ชัดเจน เน้นแก้ปัญหาประชาชนได้จริง ร้อยละ 47.36 ใช้งบประมาณเลือกตั้งอย่างโปร่งใส ร้อยละ 46.25 รับฟังความคิดเห็นและปรับนโยบายให้ตรงกับความต้องการของประชาชน และร้อยละ 40.29 ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะช่วงหาเสียง
และเมื่อถามว่า “5 พรรคการเมือง” ที่ประชาชนคิดว่ามีความพร้อมในการเลือกตั้ง พบว่า อันดับ 1 ประชาชน ร้อยละ 18.99 อันดับ 2 ภูมิใจไทย ร้อยละ 16.87 อันดับ 3 เพื่อไทย ร้อยละ 15.25 อันดับ 4 กล้าธรรม รอยละ 13.97 และอันดับ 5 ประชาธิปัตย์ ร้อยละ 9.54
ดร.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น แต่ยังมีเงาความไม่ไว้วางใจต่อการเมืองไทยอยู่ไม่น้อย โดยกังวลว่าจะเกิดสถานการณ์ซ้ำรอยเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านมา
จึงอยากเห็นกติกาและระบบเลือกตั้งที่ยุติธรรมและเคารพเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ พรรคการเมืองควรจัดทัพเตรียมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมทำงานจริงหลังการเลือกตั้ง และพิสูจน์ให้ได้ว่าพร้อมจริง ไม่ใช่แค่คำพูด
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิริมา บุญมาเลิศ อาจารย์ประจำโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต วิเคราะห์ว่า จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความพร้อมที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในต้นปี 2569 แต่ที่ตัวเลขยังไม่สูงมากนักเนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้การเมืองเกิดการพลิกผันอย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งการเลือกตั้งปี 2566 ที่พรรคประชาชนได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งแต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
และมีการสลับขั้วเปลี่ยนข้างกันเกิดขึ้น โดยอ้างถึงการปลดล็อคทางการเมือง มาในครั้งนี้แม้จะมีการทำ “บันทึกข้อตกลง” (Memorandum of Agreement : MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชนว่าจะผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและยุบสภาภายใน 4 เดือน
และนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล จะให้ไทม์ไลน์คร่าว ๆ ไว้ว่าประมาณสิ้นเดือนมกราคม 2569 จะยุบสภาแล้วก็ตาม แต่พรรคภูมิใจไทยก็มีเบื้องหลังหลายคดีที่ต้องสะสาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮั้ว สว. และเขากระโดง รวมทั้งท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาก่อนหน้านี้ และการพยายามสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ตามวลีของพรรคคือ “พูดแล้วทำ”
พร้อมกับการเดินเกมเตรียมความพร้อมเลือกตั้งกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคกล้าธรรม การดึงเกมยุบสภาและการมีดีลลับทางการเมืองอาจเกิดขึ้น จนทำให้เกิดการพลิกผันทางการเมืองอย่างไม่คาดคิดอีกครั้งก็เป็นได้

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





