ปล่อย 18 เชลยเขมร แล้วไงต่อ? “ปราสทตาควาย เปิดด่าน ปราบสแกมเมอร์”
กองทัพไทย ยืนยันหนักแน่นมาตลอดว่า การปล่อยตัวเชลยศึก จะเกิดขึ้นได้เมื่อฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ข้อ “ถอนอาวุธหนัก-เก็บกู้ทุ่นระเบิด-ร่วมปราบสแกมเมอร์-แก้ปัญหารุกล้ำเขตแดน”
กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทยโดยสิ้นเชิง หลังนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกุล ไปลงนามข้อตกลงกับกัมพูชา ที่กัวลาลัมเปอร์ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ล่าสุด จะปล่อยเชลยศึกแล้ว ในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี โดย”สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รัฐมนตรีต่างประเทศ ยอมรับเป็นไปตามเงื่อนไข ไม่ได้มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรใหม่ และไม่มีแรงกดดันจากต่างชาติ ขณะที่ “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รัฐมนตรีกลาโหม บอกไม่ฟันธง เป็นเพียงการคาดการณ์ ต้องมาดูว่าถอนอาวุธเฟส 1 ที่วางไว้สำเร็จหรือไม่ ถ้าถอนไม่หมด ก็ไม่ปล่อยเชลยศึก
ก่อนหน้านี้ คนไทย และอินฟลูเอ็นเซอร์ โดยเฉพาะในจังหวัดสุรินทร์ มีการเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ทวงคืนปราสาทตาควาย แต่”นายกฯหนู”ออกมาปรามว่าทำได้ แต่อย่าทำผิดกฏหมาย ส่วน “พล.อ.ณัฐพล” มีท่าทีขึงขังแบบไม่คยเป็นมาก่อน โดยระบุว่า “ปราสาทตาควาย”อยู่ในอธิปไตยไทย หากเจรจาทวงคืนไม่สำเร็จอาจจำเป็นต้องใช้กำลังในการเอาคืนมา
โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 เคยให้ความเห็นเอาไว้ว่า “ปราสาทตาควาย” ยังไงก็ต้องกลับมาเป็นของไทย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด อยู่ที่ช้าหรือเร็ว หากเร็วก็ต้องรบ ส่วนอีกคนที่ส่งสัญญาณ และค่อนข้างมีพลั คือ “แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง อดีแม่ทัพภาค 2 ยืนยันจะมีการทวงคืน “ปราสาทตาควาย” แน่นอน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลและกองทัพ โดยมองว่า ควรจะเริ่มจากมาตรการเบา คือการพูดคุยกัน ส่วนใช้กำลังคงเป็นวิธีสุดท้าย
อีกประเด็นที่ต้องจับตาในปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา คือเรื่องเปิดด่าน ก่อนหน้านี้”นายกฯหนู” ย้ำมาตลอด จะฟังเสียงประชาชน ต้องถามประชาชนก่อนตัดสินใจ พูดหนักแน่นถึงขั้นถ้าประชาชนไม่ให้เปิด “สุนัขตัวไหนจะกล้าไปเปิด” สอดรับกับคำพูดล่าสุดของ “พล.อ.ณัฐพล”ที่ยืนยัน จะไม่เจรจาเรื่องเปิดด่านเด็ดขาด ใครจะมาคุยเรื่องเปิดด้านไม่ต้องมาคุยกันตนเอง ส่วนทางฝั่งกัมพูชา ผู้นำสูงสุด “สมเด็จ ฮุนเซน” ก็ส่งสัญญาณชัด จะไม่ขอให้ไทยเปิดด่าน โดยโพสต์ ครั้งล่าสุด ระบุว่า “นับตั้งแต่วันที่ไทยตัดสินใจปิดพรมแดนฝ่ายเดียว กัมพูชาไม่เคยร้องขอให้ไทยเปิดพรมแดนอีกเลย
หากไทยต้องการจะปิดต่อไปอีก 100 ปี หรือแม้กระทั่ง 500 ปี ก็เป็นการตัดสินใจของไทยทั้งหมด ดังนั้นคนไทยน่าจะมั่นใจได้ว่า รัฐบาล”อนุทิน” จะไม่เปิดด่าน เพื่อง้อ หรืออ้อนวอนเขมรอย่างแน่นอน
ประเด็นสุดท้าย แต่โด่งดังระดับโลก คือ”สแกมเมอร์” ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เงื่อนไข ข้อตกกลงกัวลาลัมเปอร์ 2 ฝ่ายต้องร่วมมือกันปราบแก๊งสแกมเมอร์ ที่ทั่วโลกรังเกียจ และเกลียดชัง
เพราะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง ได้ดำเนินการไปแล้วหลายคดี อายัดเงินหลายหมื่น หลายแสนล้านแล้ว แต่ในประเทศไทย รัฐบาล”นายกฯหนู” ประกาศเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ตั้งคณะทำงานไปหลายชุดแล้ว “สิริพงษ์ อังคะสกุลเกียรติ” โฆษกรัฐบาลก็ยืนยันแล้ว 38 วันของรัฐบาล จัดการแสกมเมอร์ไปแล้วจับกุมได้ถึง สามหมื่นห้าพันล้าน แต่ก็ยังถูกตั้งคำถาม จากฝ่ายค้าน และสังคม เมื่อไหร่จะอายัดบัญชีสแกมเมอร์ เมื่อไหร่จะปราบสแกมเมอร์อย่างจริงจัง จะปราบสแกมเมอร์กี่โมง พร้อมกับผูกโยงไปว่า ประเด็นสแกมเมอร์นี้ จะเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้รัฐบาลถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และจะทำให้มีการยุบสภาก่อนกำหนด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
