Home
|
อาชญากรรม

“เสรีพิศุทธ์” ร้อง ผบ.ตร.เอาผิด “ฮุนเซน” ปมสั่งฆ่า”ลิม กิมยา”

Featured Image
‘เสรีพิศุทธ์’ บุก ตร. ร้องดำเนินคดี ‘ฮุน เซน’ ปมสั่งฆ่านักเคลื่อนไหวในไทย – ย้ำผิดกฎหมายชัด แจงต้องมีอัยการสูงสุดร่วมสอบสวน

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เข้าพบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อยื่นหนังสือแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรี) จากกรณีมีหลักฐานว่าเป็นผู้ออกคำสั่งให้สังหารนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทย

 

การร้องทุกข์ครั้งนี้มีจุดเริ่มจากการเปิดเผยคลิปเสียงโดยสำนักข่าวอัลจาซีรา ซึ่งอ้างว่าเป็นคำสั่งของสมเด็จฮุน เซน ให้ “เกียง ฮวด” รองผู้ว่าการกรุงพนมเปญ ดำเนินการร่วมกับตำรวจไทยฝ่ายเสื้อแดง สังหาร “ลิม คิมยา” นักเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลกัมพูชาที่อยู่ในไทย แม้ทางการกัมพูชาจะออกมาปฏิเสธว่าเป็นเสียงที่ถูกสร้างขึ้นด้วย AI แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียืนยันว่าเสียงดังกล่าวเป็นของฮุน เซนจริง

 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังระบุถึงกรณี “พร พันนา” นักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชาอีกคน ซึ่งลี้ภัยในไทยตั้งแต่ปี 2565 และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจาก UNHCR ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อ 22 ส.ค. 2566 ที่ จ.ระยอง โดยคนร้าย 3 คนที่พูดภาษากัมพูชา ส่งผลให้เขาได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและหน้าอก

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้ำว่า แม้การสั่งการจะมาจากต่างประเทศ แต่เมื่อการกระทำเกิดในไทย ย่อมเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายไทย โดยเฉพาะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 85 ที่ระบุว่า ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศให้ผู้อื่นกระทำความผิดที่มีโทษจำคุกเกิน 6 เดือน จะถือว่าเป็นตัวการร่วมในการกระทำนั้น พร้อมระบุตนเองเป็นอดีตตำรวจ ไม่มีอำนาจเรียกใครมาสอบ แต่เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจทำได้ ขอแค่ตั้งคณะทำงาน เชิญอัยการสูงสุดมาเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนร่วมด้วย เพราะนี่คือคดีอาญาระดับประเทศ

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจไทยสามารถดำเนินคดีในกรณีนี้ได้จริงหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันว่า หากมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอ ก็สามารถออกหมายจับได้ และไม่ควรดูแคลนความสามารถของตำรวจไทยในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำ

 

สำหรับกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง แจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) จากกรณีคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่า เป็นการ “แก้เกี้ยว” ไม่ใช่การดำเนินคดีเอาผิดฮุน เซน อย่างแท้จริง และตนกำลังติดตามรายละเอียดในส่วนนั้นเพิ่มเติม

 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าเรื่องนี้อาจเชื่อมโยงกับการปราศรัยในกิจกรรมชุมนุมวันที่ 28 มิ.ย. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีในระดับระหว่างประเทศที่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และยังระบุว่า ไม่ได้กดดันเจ้าหน้าที่เรื่องระยะเวลา เพราะกระบวนการมีหลายขั้นตอน แต่หากไม่ดำเนินการใด ๆ ก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งตนจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้มาเพื่อเสนอแนะในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้ตำรวจไทยได้แสดงศักยภาพในการพิทักษ์หลักนิติธรรมของประเทศ

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube