Home
|
อาชญากรรม

ยื่น 5.3 หมื่นรายชื่อให้กกต.ทำประชามติ เอา-ไม่เอา กาสิโน

Featured Image

 

ภาคประชาชนหยุดพนัน  ส่งด่วน 53,900 รายชื่อมอบ กกต. เรียกร้องทำประชามติฟังเสียงประชาชน เอา-ไม่เอา “กาสิโน”

 

วันนี้ (12 มิถุนายน 2568) ภาคประชาสังคมกว่า 100 คนพร้อมขบวนไรเดอร์นำส่ง 53,900 รายชื่อประชาชนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตรวจสอบรายชื่อเพื่อขอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบจัดทำประชามติ “เอา-ไม่เอากาสิโน”  ตามพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ

 

นายธนากร  คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันกล่าวว่า “การจัดประชามติเพื่อให้ประชาชนเจ้าของประเทศเป็นผู้ตัดสินใจว่า “เห็นชอบหรือไม่กับการจะเปิดให้มีกาสิโน และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” จะเป็นผลดีต่อหลายฝ่าย   ข้อแรก จะเป็นผลดีต่อรัฐบาลด้วย เพราะนโยบายนี้ถูกติติงว่า มีความเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายสำคัญหลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเพราะอาจจะขัดต่อแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหว รวมทั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จึงเสี่ยงต่อสถานะของรัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทั้งหมดหากตัดสินใจเดินหน้าเรื่องนี้ ฉะนั้น หากมีการทำประชามติแล้วประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบกับนโยบายนี้ ก็เท่ากับรัฐบาลได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน

 

ข้อ 2 จะเป็นผลดีต่อนักลงทุน เช่นเดียวกับรัฐบาล หากมีการทำประชามติแล้วประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบกับการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ก็จะทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับการต่อต้านจากมวลชนในพื้นที่ต่าง ๆ ในอนาคต จึงเป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน

 

และข้อสุดท้าย เป็นผลดีต่อประชาชน การทำประชามติถือเป็นวิธีการลดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้มีความเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ เพราะเป็นการตัดสินของคนส่วนใหญ่อย่างชอบธรรม ผลการประชามติย่อมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โอกาสจะเกิดความแตกแยกในสังคมจากนโยบายนี้จึงมีน้อย หากจะมีผลเสียบ้างก็คงเป็นเพียงการยืดระยะเวลาการตัดสินใจที่อาจจะทอดยาวไปอีกระยะ และการเสียงบประมาณในการจัดทำประชามติ แม้จะมีต้นทุนที่ต้องจ่ายแต่ก็มีความคุ้มค่า”

 

นางสาววศิณี  สนแสบ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนันกล่าวว่า “การตัดสินใจจะมีกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายหรือไม่ในวันนี้ คือการส่งมอบมรดกบาปให้แก่คนรุ่นหลัง จึงควรรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเด็กเยาวชนที่จะต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปอีกนาน  รัฐบาลจะอ้างสิทธิว่าส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนแล้วการลงมติของส.ส.เท่ากับมติของประชาชนคงไม่ได้

 

สำหรับการรวบรวมรายมือชื่อเพื่อประชามติครั้งนี้ ภาคประชาชนใช้เวลารวม 120 วัน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคมกว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ตามข้อกำหนดของพ.ร.บ.ว่าด้วยออกเสียงประชามติ  ขั้นตอนต่อจากนี้ กกต.จะตรวจความครบถ้วนของรายชื่อทั้งหมดให้เสร็จภายใน 30 วัน  หากรายชื่อทั้งหมดครบถ้วน กกต.จะนำส่งรายชื่อทั้งหมดต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเท่ากับได้ส่งถึงมือรัฐบาล”

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube