3 ทหารสายบู๊กองทัพภาค2-ผู้นำสู้ “ศึกเขมร”-ชนะโดยไม่ต้องรบ
เปิดบทบาทแม่ทัพนักรบแห่งกองทัพภาคที่ 2 ในศึกชายแดนไทย-กัมพูชา
โมงยามนี้ที่ “คนไทย”นอกจากจะ สามัคคี ติดแฮทแท็ก “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ให้กำลังใจ กำลังพลและผู้นำหน่วยรบ“ทหารไทย”ทั้งหน่วยงานกำลังรบ ของ “กองทัพภาคที่2” กองทัพบก นำโดย ที่อยู่ “หน้างาน”ขายแดนไทย-กัมพูชา ภายในกระบวนยุทธ์ “ชนะโดยไม่ต้องรบ” ที่เห็นผลจากมาตรการเฉียบขาดการปิดด่านชายแดน และพร้อมยกระดับ ตัดเน็ต ตัดไฟเขมร ที่ทำให้แม้แต่บรรดาฝ่ายค้านที่เป็นไม้เบื่อไม้เบากับทหารมาตลอดยุคลุงตู่ ไม่ว่าจะเป็น “พิธา”หรือ“โรม”ยังยอมรับกับความหมาย “ทหารมีไว้ทำไม” นั่นคือการทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยทำให้น่าสนใจไปส่องดู ผู้นำของกองทัพภาค2 กัน
ไล่เรียงตั้งแต่ “พล.ท.บุญสิน พาดกลาง”หรือ “แม่ทัพกุ้ง”แม่ทัพภาคที่2 ที่ดูแลพื้นที่ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด และท่ามกลางเหตุการณ์ที่ตึงเครียดและไม่แน่นอน “แม่ทัพกุ้ง”ถือเป็นผู้นำที่ทั้งออกมาส่งสัญญานไปยังรัฐบาลและคนไทยรับรู้ว่า สถานการณ์ครั้งนี้ไม่ธรรมดา
จนทำให้ฝ่ายการเมืองจับตากระทั่งมีข่าวจะเปลี่ยนแม่ทัพกลางศึกแต่ก็มีประชาชนคนไทยออกมา เป็นกำแพงเหล็กให้กำลังใจ และ ในฐานะผู้บังคับบัญชา “แม่ทัพกุ้ง”ยังต้องสร้างขวัญกำลังใจ สร้างความเชื่อมั่นต่อเหล่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ รวมไปถึงประชาชนในประเทศที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ ไม่ว่าการลงไปนอนค้างกับทหารที่ช่องบก และ การย้ำเสมอ ว่า “ปราสาทตาเมือนธมนี้ อยู่กับพี่น้องประชาชนคนไทย มาตั้งแต่ตั้งประเทศไทย เพราะฉะนั้น ที่นี่เป็นที่มั่นของพวกเรา ถอยไม่ได้”
‘พล.ท.บุญสิน’ เตรียมทหาร รุ่น 26 จปร. รุ่น 37 เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ‘ผบ.ปู’ หรือ ‘พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์’ ทั้งคู่เติบโตต่างหน่วยต่างพื้นที่กัน โดย พล.อ.พนา เติบโตจากหน่วย ร. 31 รอ. “บิ๊กกุ้ง” โตในพื้นที่ ทภ. 2 เป็น ‘ทหารเลือดอีสาน’ ผ่านตำแหน่งต่าง ๆ เช่น ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22, เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 3, รองแม่ทัพภาคที่ 2, แม่ทัพน้อยที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อครั้งเป็น ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 22 ในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 เคยไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ช่วงปี 2555-2557
โดย “แม่ทัพกุ้ง” เป็น ทหาร‘สายบู๊’ โดย ใน“ศึกเขมร” ข้อมูลข้อเท็จจริงจากเขาทำให้ “บิ๊กปู”ผบ.ทบ.ต้องตัดสินใจเสริมกำลังทหารแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ ก.พ. 68 หลังเกิดเหตุที่ ‘ปราสาทตาเมือนธม’ จนมาถึงเหตุการณ์ ปืนลั่น ที่ช่องบก 28 พ.ค.68 ที่ “ฮุนเซน”ยกเป็นประเด็นสำคัญในกรณีพิพาทดินแดนไทย
ทหารสายบู๊หน้างานอีกรายที่ถูกจับตาบทบาท จาก “ศึกเขมร”ครั้งนี้ คือ “พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์” รองแม่ทัพภาค 2 หนึ่งในผู้ที่ “แม่ทัพกุ้ง”ไว้ใจให้ไปเจรจาฝั่งเขมร หลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ (6มิ.ย.) ที่ไม่มี “บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม”รมว.กลาโหม อยู่ร่วม ที่สรุปใช้ใช้มาตรการตอบโต้เขมรด้วยการปิดด่านชายแดนจน “รัฐบาลฮุนมาเนต”ดิ้นพล่าน สั่งให้ “พล.ท.สรัย ดึ๊ก” รองผบ.ทบ.และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ประสานมาที่ “แม่ทัพกุ้ง”เพื่อขอเจรจา โดย “บิ๊กณัฎฐ์”และ ไปเจรจากระทั่งเขมรมีการถอนกำลัง ที่ “พล.ต.ณัฏฐ์” ได้โพสต์ภาพและข้อความ ไว้ใน Facebook (8 มิ.ย. 68) ว่า “คุยกันอย่างลูกผู้ชาย ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่เสียความสัมพันธ์ ไม่เสียเศรษฐกิจ” โดย “พล.ต.ณัฏฐ์”
สำหรับ “พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์” เป็นนายทหารลูกชาวนา ในจังหวัดสุรินทร์ ที่อยากจะเป็นทหาร และสามารถสอบเข้าได้เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 27 และรับราชการในกองทัพภาค 2 สายกองกำลังสุรนารีมาโดยตลอด เขาถือเป็นดาวเด่นของทหารอีสาน เป็น ทหารนักรบอีสานใต้ ที่เดินมาแล้วแทบทุกตารางนิ้วชายแดนไทย-กัมพูชา และผ่านสมรภูมิสำคัญ ๆ โดยเฉพาะกรณีพิพาทเขาพระวิหาร จนเป็นที่จดจำ รู้จักของทหารเขมร และรู้เท่าทันกลเกมของทหารเขมร เขาเพิ่งรางวัลเกียรติยศจักรดาว ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารดีเด่น สาขาการทหาร การันตี ถึงการยอมรับในฝีมือด้านการทหาร ที่สถานการณ์ “ศึกช่องบก”ครั้งนี้ทำให้เขาถูกจับตาว่าหลังการเกษียณ ของ “แม่ทัพกุ้ง” ปีนี้เขาจะได้รับการพิจารณาขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 2 หรือไม่
ส่วนนายทหารอีกท่านคือ “พล.ต.สมภพ ภาระเวช” ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ที่มีส่วนสำคัญ ในการประกาศปิดด่านไทยเขมร ที่นอกจากจะร่วมทีมเจรจาพร้อม รองแม่ทัพภาค 2 แล้ว ยังถูกจดจำจากคลิป เหตุการณ์ระหว่างการพูดคุยเจรจากับ นายทหารระดับสูงของฝ่ายเขมร จากประโยคคำพูดเด็ดขาดที่พูถึง ปราสาทตาเมือนธม ว่า “ท่านเคยเจอผลแล้วปี 54 อย่าให้เป็นแบบนั้นอีก”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews