“สัตว์ปีก” ปีทองครองเเชมป์

 

อีกหนึ่งสีสันของบทสรุปการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาล 2024-2025 ที่ทั้งเข้มข้นและลุ้นระทึก คือความบังเอิญ อย่างน่าประหลาด เพราะสโมสรแห่งเกาะอังกฤษที่คว้าถ้วยรางวัลได้ คือ 4 สัตว์ปีกสโมสรเหล่านั้น ได้แก่ ลิเวอร์พูล ในตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของอังกฤษ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในตำแหน่งแชมป์ลีก คัพ หรือ “คาราบาวคัพ” คริสตัล พาเลซ ในตำแหน่งแชมป์เอฟเอ คัพ ฟุตบอลถ้วยอันเก่าแก่ของเกาะอังกฤษ และทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในตำแหน่งแชมป์ยูโรปาลีก

 

 

ความบังเอิญของทีมทั้ง 4 คือ พวกเขาล้วนยึดโยงเกี่ยวข้องกับมี “สัตว์ปีก” ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะในฐานะ สัญลักษณ์หรือฉายาของสโมสร เป็นความบังเอิญอย่างน่าประหลาดที่ชวนให้คิดว่า หรือเทพีแห่ง โชคชะตาได้เลือกข้างแล้วว่าจะให้ 4 สัตว์ปีก จาก 4 สโมสรสมหวัง

 

วันนี้ มาดูกันว่าสัตว์ปีกทั้ง 4 มีอะไรบ้าง ได้เเชมป์อะไรบ้าง เเละได้เงินรางวัลเเต่ละเเชมป์เท่าไหร่กัน เริ่มจาก ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของ อาร์เนอ สลอต แบกรับความคาดหวังอย่างสูงช่วงต้นฤดูกาลหลังเขามาสานต่องานจากเยอร์เก้น คลอปป์ ที่ตัดสินใจอำลาทีมไป ต้นฤดูกาลแฟนบอลต่างคาดหวังให้ ทีมติดแค่ท็อป 4 ในการไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเท่านั้น กลับกลายเป็นว่าทัพหงส์แดงกลับคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกแบบไม่ยากเย็น ทิ้งห่างอันดับ 2 อาร์เซนอล หลังเหลือการแข่งขันในศึกพรีเมียร์ลีก
ตั้งแต่เหลือ 4 นัด

 

โดยเงินรางวัลที่ล่าสุดมีการเปิดเผยเงินรางวัลที่ลิเวอร์พูล จะได้รับหลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก แบ่งเป็นส่วนแบ่ง เท่ากันทุกสโมสร 95 ล้านปอนด์ ประมาน 4.25 พันล้านบาท, ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด 56.4 ล้านปอนด์ ประมาน 2.52 พันล้านบาท, โบนัสจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในต่างประเทศ 8.1 ล้านปอนด์ ประมาน ราว 362.5 ล้านบาทรวมเป็นยอด 177 ล้านปอนด์ ประมาน 7.92 พันล้านบาท ทั้งนี้ หากเทียบกับปีก่อน ลิเวอร์พูลได้เงินมากกว่า แมนฯซิตี้ ซึ่งเป็นแชมป์ในซีซั่น 2023-2024 อยู่ที่ 1.1 ล้านปอนด์ ประมาน 49.2 ล้านบาท โดยมูลค่าทีมของลิเวอร์พูลที่เว็บไซต์ “สปอร์ติโก” เว็บไซต์ด้านธุรกิจกีฬาชื่อดังได้เผยว่า ลิเวอร์พูลมีมูลค่าทีมอยู่ที่ 5.11 พันล้านดอลลาร์ ประมาน 1.88 แสนล้านบาท

 

นิวคาสเซิล แชมป์ในรอบ 70 ปี นิวคาสเซิล ภายใต้การนำทัพของเอ็ดดี้ ฮาว กำลังทำทีมดีขึ้นเรื่อย ๆ การไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าอยู่ในกำมือของพวกเขา ถ้าเกมนัดสุดท้ายสามารถเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้ ก็การันตีไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกทันที ส่วนการคว้าแชมป์คาราบาวคัพ เป็นการคว้าแชมป์ในรอบ 70 ปีของสโมสร หลังชนะทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างลิเวอร์พูล 2-1 ถ้าเสริมทัพดี ๆ ฤดูกาลหน้าพวกเขาอาจเป็นม้ามืดในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย โดยเงินรางวัลของแชมป์คาราบาวคัพอยู่ที่ 100,000 ปอนด์ ประมาณ 4.3 ล้านบาท

 

คริสตัล พาเลซ แชมป์เอฟเอคัพครั้งแรกของสโมสร คริสตัล พาเลซ โค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ในนัด ชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ เอาชนะไปได้ 1-0 ผงาดคว้าแชมป์รายการนี้เป็นหนแรกของสโมสร หลังก่อนหน้านี้ จบด้วยรองแชมป์ 2 หน เมื่อปี 1989-1990, 2015-2016 รวมถึงได้โควตาไปเล่นในศึกฟุตบอลยูโรป้าลีก ซีซั่นหน้าอีกด้วย โดยแชมป์รายการนี้ได้รับเงินรางวัลรวม 3.91 ล้านปอนด์ ประมาณ 172 ล้านบาท

 

ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ คว้าแชมป์ในรอบ 17 ปี ศึกนัดชิงชนะเลิศ ยูโรป้าลีก มีโควตาแชมเปียนส์ลีกเป็นเดิมพัน ปรากฏว่า ไก่เดือยทอง เชือดนิ่มๆ ปีศาจแดงไป 1-0 คว้าแชมป์มาครองในรอบ 17 ปีได้สำเร็จ แถมยังเป็นแชมป์แรกของกัปตันอย่าง ซน ฮึง มิน อีกด้วย อดีตกองหน้าระดับตำนานอย่างแฮร์รี่ เคน ก็เพิ่งคว้าแชมป์แรก ได้ในฤดูกาลนี้ เป็นเรื่องที่สุดจะแฮปปี้ของแฟนไก่เดือยทอง โดยแชมป์ในรายการศึกยูโรป้าลีกจะได้รับเงินรางวัลรวม 21.6 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 950 ล้านบาท แต่สิ่งที่สำคัญกว่าถ้วยแชมป์ หรือเงินรางวัล นั่นคือการไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ที่จะได้เงินจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ดึงดูดผู้เล่นชั้นนำมาร่วมทีม ยกระดับทีมไปอีกขั้นเพื่อต่อกรกับทีมหัวตาราง หรือจากลีกอื่นอีกด้วย โดยมูลค่าทีมของทัพตราไก่อยู่ที่ 3.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประมาน 1.289 แสนล้านบาท

 

สำหรับ บทสรุปแล้วสำหรับฟุตบอล 5 ลีกใหญ่ยุโรป พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แชมป์คือลิเวอร์พูล ลาลีกา สเปน แชมป์คือบาร์เซโลน่า บุนเดสลีกา เยอรมัน แชมป์คือบาเยิร์น มิวนิก ส่วนลีกกัลโช เซเรียอา เป็น นาโปลี ทั้งนี้ ยังมีอีก 2 ถ้วยใหญ่ของยุโรปที่ยังต้องลุ้นกัน นั้นก็คือ ศึกคอนเฟอเรนซ์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ เรอัล เบติส จากสเปน มีโปรแกรมทำ พบกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จากอังกฤษ ในวันที่ 28 พ.ค. นี้ เเละ ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน ตัวแทนจากเซเรีย อา อิตาลี พบ เปแอสเช
ตัวแทนจากลีก เอิง ฝรั่งเศส ในวันที่ 31 พ.ค.นี้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

 

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews