สิ้นสุดการรอคอย “คดีแตงโม” ศาลยกฟ้องข้อหาประมาท 3 คนบนเรือ
คดีการเสียชีวิตของนักแสดงสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ตั้งแต่ช่วงปี 2565 เป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง เพราะมีความกังวลว่า คดีนี้เป็นเรื่องของอุบัติเหตุ หรือ เป็นเรื่องของการฆาตกรรม เนื่องจากกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ไม่ชัดเจนในช่วงแรกจึงทำให้สังคมเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับคดีนี้ ตั้งแต่กระบวนการสอบสวน การตั้งข้อกล่าวหา การดำเนินคดีของกระบวนการยุติธรรม เพราะกังวลว่า หากแตงโม ถูกทำให้เสียชีวิต จะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโม เกิดขึ้นในคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 แตงโม พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต ชื่อ “จันทร์หอม” บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานพระราม 7 ขณะล่องเรือกับกลุ่มเพื่อนรวม 5 คน ได้แก่ ปอ ตนุภัทร , โรเบิร์ต ไพบูลย์ ,แซน วิศาพัช, กระติก อิจศรินทร์, และจ๊อบ นิทัศน์ โดยเพื่อนทั้งหมด หายไป หลังเกิดเหตุ ไม่อยู่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในคืนเกิดเหตุ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่พบร่างของแตงโม ลอยอยู่ห่างจากจุดตกเรือ ประมาณ 1 กิโลเมตร ผลชันสูตรระบุว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจเนื่องจากจมน้ำหลังจากนั้น กลุ่มเพื่อนที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ต่างเดินทางให้ข้อมูลกับตำรวจ และถูกแจ้งข้อหาครบทุกคนมีข้อหา ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ควบคุมเรือโดยไม่มีใบอนุญาต, และแจ้งความเท็จ ทำลายหลักฐาน โดยแจ้งข้อหาตามฐานความผิดของแต่ละคนที่ปรากฎในพยานหลักฐาน และนายภีม ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเข้ามาอีก 1 คนในสำนวนคดีนี้ ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมเป็นวงกว้าง เรียกร้องให้มีการสืบสวนคดีของแตงโม อย่างตรงไปตรงมาและคณะรถทัวร์จากภาคสังคมโซเชียล ลงกลุ่มคนบนเรืออย่างถาโถม
กระทั่ง นางภนิดา แม่ของแตงโม ปรากฎตัวผ่านสื่อ และ ให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับเงินที่แตงโมควรจะได้รับถ้าหากยังมีชีวิตอยู่และทำงานในวงการบันเทิง คงจะหาเงินได้ถึง 30 ล้านบาท จนกระแสสังคม โหมกระหน่ำแม่ของแตงโม ว่า อยากให้โฟกัสในเรื่องคดีเป็นหลัก แม้กระทั่ง มีบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่คนในครอบครัว พยายามจะรื้อฟื้นคดีแตงโมขึ้นมาใหม่ นางภนิดา บอกอยากให้เรื่องจบเร็วเพราะรู้สึกเหนื่อยแต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือ ถ้ามีหลักฐานใหม่ในการรื้อคดีได้จริง
คดีนี้อัยการจังหวัดนนทบุรี ได้ยื่นฟ้องคดี และนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลจังหวัดนนทบุรีโดยนายโรเบิร์ต และ นายปอ ได้ให้การรับสารภาพ ในข้อหา ประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต โดยศาลมีคำพิพากษา ไปแล้วก่อนหน้านี้ ให้จำคุกนายปอ 2 ปี 9 เดือนปรับเป็นเงิน 64,000 บาท และให้รอการลงโทษเป็นระยะเวลา 3 ปี ส่วนนายโรเบิร์ต ศาลสั่งจำคุก เวลา 2 ปี 2 เดือนปรับ 54,000 บาท และให้รอการลงโทษเป็นระยะเวลา 3 ปี
ส่วนอีก 4 คนคือ แซน กระติก จ๊อบ และภีม ขอต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยมีการสืบพยานจำเลยในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ถึงกุมภาพันธ์ 2568 ในระหว่างที่มีการสืบพยานในชั้นศาล มีกลุ่มบุคคลอย่าง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และ นายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่พยายามเรียกร้องให้มีการรื้อคดีการเสียชีวิต ของแตงโม ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง เพราะมีหลักฐานเชื่อว่า แตงโม น่าจะ ถูกฆาตกรรม ไม่ใช่คดีอุบัติเหตุ
โดยนำคำพิพากษา ในคดี ที่นายอัจฉริยะ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 27 นาย แจ้งความดำเนินคดี ข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่น กรณีกล่าวหาเรื่องการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม มิชอบ โดยคดีนั้น ศาลพิพากษายกฟ้อง แต่มีเนื้อหาในคำพิพากษาที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับคดีแตงโม จนเป็นที่มาของการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาทำการสอบสวนคดีนี้ ตั้งแต่การลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม โดยการจำลองเรือและสืบสวน โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เลเซอร์สแกนเพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติของพื้นที่เกิดเหตุและเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเรือด้วย
ส่วนอีกคน ที่ถูกกระแสสังคม เรียกร้องให้ ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้อง แตงโม บ้าง นั่นคือ เบิร์ด แฟนหนุ่มของแตงโมเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น เบิร์ด ไม่ค่อยมีบทบาทอะไรมากนัก กระทั่งล่าสุด ที่ออกมาให้ข้อมูลกับดีเอสไอและเปิดเผยความในใจครั้งแรกว่า ที่ผ่านมา รู้สึกเสียใจและการแสดงออกต่อความเสียใจของแต่ละคนไม่เท่ากันที่ผ่านมา ไม่ออกมาพูดอะไร ไม่ใช่เขาไม่เสียใจ แต่เขาเจ็บปวดจึงไม่อยากออกมาพูดอะไรก็เท่านั้น และแล้วช่วงเวลา 3 ปี ที่หลายฝ่ายรอคอย ก็มาถึง ล่าสุด ศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำพิพากษายกฟ้องในความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ต่อจำเลยทั้ง 4 คน คือ แซน กระติก ภีม และจ๊อบ
ส่วนนายจ๊อบ มีความผิดฐานให้การเท็จ พิพากษาจำคุก 4 เดือน ปรับ 16,000 บาท ส่วนข้อหาทิ้งสิ่งปฏิกูลลงน้ำ พิพากษาจำคุก 2 เดือนปรับ 8,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี แซน วิศาพัช กล่าวย้ำว่าหลังศาลพิพากษายกฟ้อง ก็ปลดล็อคความรู้สึกในใจได้นิดนึง แต่ว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีความกังวลในเรื่องนี้อยู่แล้ว หลังจากนี้ ก็คงจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องใครกลับแล้ว เพราะมาศาลมันเหนื่อย แต่ก็ต้องดูว่า จะมีใครที่ไม่จบ พูดต่ออีกหรือไม่ สำหรับคดีนี้ คู่กรณียังสามารถใช้สิทธิ์ที่จะยื่นอุทะรณ์ และฎีกา ได้ตามลำดับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





