Home
|
ข่าว

รูปคู่IG “ยิ่งลักษณ์-นายกอิ๊งค์” อันตรายการเมือง

 

ไม่แค่ว่าจะเป็น จังหวะบังเอิญเชิง สัญลักษณ์หรือไม่ ที่คำสั่งของ “ศาลปกครองสูงสุด” เมื่อวาน (22พ.ค.68) ในคดี “จำนำข้าว” ให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้เงินหมื่นล้านบาท เพราะประมาทเลิ่นเล่อในการบริหารจำนำทำให้เกิดการทุจริตเสียหายต่อโครง ดันไปตรงกับวันครบ11ปีที่ยิ่งลักษณ์ถูกยึดอำนาจ จนเกิดการรัฐประหาร ในวันที่ 22พ.ค.57 ที่ปรากฏผู้คนในเพื่อไทย รวมถึงแวดวงนักกฎหมายปกครอง ไม่ว่าจะเป็น อ.ปิยะบุตร แสงกนกกุล ไพศาล พืชมงคล ออกมาโพสต์ Facebook ไม่เห็นด้วยเชิงหลักการข้อกฎหมาย

 

ขณะที่เจ้าตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เองก็ออกมาโพสต์ Facebook ถึงการถูกกระทำมาตลอด 11 ปีแบบไม่รู้จบ โดยบอกว่า ตลอดเวลา 11 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 57 สิ่งที่ตนจำต้องพบเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือยึดอำนาจ ยัดคดี อายัดทรัพย์ และเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องมาบังคับให้ใช้หนี้ ถึงกระนั้นตนก็จะเรียกร้องต่อสู้ เพื่อความเป็นธรรมในชีวิต จนถึงที่สุดตามกฎหมายที่พึงกระทำได้ และว่า ถ้านายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ยังไม่อาจเข้าถึงความยุติธรรมที่แท้จริง ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ สำหรับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเช่นกัน

 

หากแต่มีประเด็นที่จะกลายเป็นปัญหาลุกลาม อันเกิดจากอาการ  “นายกอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร”เองที่ไปโพสต์ภาพคู่กับ “ยิ่งลักษณ์” พร้อมข้อความ ระหว่างที่ไปราชการที่ ยุโรปและแวะไปเยี่ยมยิ่งลักษณ์ในห้วงที่ศาลจะมีคำสั่งให้ยิ่งลักษณ์ ต้องจ่ายหมื่นล้านพอดี ที่ทำเอาผู้คน โดยเฉพาะ “นักจับสัญญานการเมือง” และ “ฝ่ายตรงข้าม” และรอบนี้อาจอันตรายกว่าที่คิด เพราะนายกอิ๊งค์ ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และเดินทางไปเจอยิ่งลักษณ์ ที่หนีหลายคดีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วไม่ดำเนินการ อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเลยลามไปถึงผลกระทบต่อตัวนายกเอง

 

อย่างที่ “เทพไท เสนพงศ์” โพสต์ Facebook ว่า อุ๊งอิ๊ง-ยิ่งลักษณ์ พบกัน อันตราย? โดยบอกว่ายิ่งลักษณ์เป็นนักโทษหนีคดี 5ปี ภาพคู่นี้สุ่มเสี่ยงอาจถูกร้องเอาผิดได้ แม้สถานะจะเป็นอาหลานแต่นางสาวแพทองธารเอง เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ และยิ่งลักษณ์เป็นนักโทษหนีคดีที่ทางการไทยต้องการตัวนำมาลงโทษ เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐได้พบกับผู้หนีคดีโดยไม่ดำเนินการใดๆ ไม่ว่าการจับกุมบังคับโทษ หรือชี้เบาะแสให้หน่วยงานราชการไทย นำตัวมาลงโทษ อาจจะเข้าข่ายความผิดในฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือมีความผิดตามประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วยหรือไม่ หรือมีการนำเรื่องนี้ไปดำเนินการร้องเรียนต่อหน่วยงานใดหรือไม่

 

เช่นเดียวกับ “ไทกร พลสุวรรณ” นักเคลื่อนไหวทางการเมืองให้ความเห็นว่า การไปเจอและถ่ายรูปคู่ระหว่างที่นายกฯ ไปราชการต่างประเทศอยู่ในยุโรป หลังศาลมีคำพิพากษาให้ชดใช้เงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากกรณีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ว่าอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หากเป็นการไปพบกันในขณะที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้เงินภาษีประชาชน เดินทางไปภารกิจต่างประเทศ ได้พบและถ่ายร่วมกัน โดยไม่จับกุมจำเลยหนีคดี โดยเฉพาะในฐานะที่ควบคุมกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีความผิดชัดเจน ผิดทั้งกฎหมายอาญาผิดทั้งประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง

 

ในจังหวะที่การเมืองภายในรัฐบาลก็อยู่ในโหมดขัดแย้ง ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับ เพื่อไทย อยู่แล้ว ที่แม้ดูภูมิใจจะเหมือนเพลี่ยงพล้ำ ผ่าน ปม“คดีฮั้วเลือกตั้งสว.” ที่กลายเป็นไฟลามทุ่ง ขยายจาก “138สว.”สีน้ำเงิน เข้าไปในรั้วที่ทำการ พรรคภูมิใจไทยทั้งตัว อนุทิน ชาญวีรกูล และ ไชยชนก และแบบที่มี 2นักร้อง อย่าง “ณัฐพร” และ “กุสุมาลวตี ” ออกมาร่วมด้วยช่วยขย่มเดินเกมยุบพรรคภูมิใจไทยหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดยุ่งกับ DSI

 

หากแต่ปรากฎการณ์คู่ขนานเชิงสัญญานการเมืองจากฝ่ายอำนาจที่ผ่านมาทั้งคดี “คนชั้น14” ที่ในวันที่ 13 มิ.ย.ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัด ทักษิณมาไต่สวน ที่ผ่านมารวมถึงล่าสุดกรณี คดีจำนำข้าวในศาลปกครอง มีคำสั่งให้จ่ายหมื่นล้าน ถูกมองฝ่ายแดงที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำจิตวิญญาณตกเป็นรองมากกว่ากับทิศทาง ผลลัพธ์ที่ปลายทางที่ถูกมองจะ ซ้ำรอยเหมือนดีลลับต่างๆในอดีต แลพยิ่งมามาเจอประเด็นรูปคู่ใน IG ถูกมองเป็นปมใหม่ที่อาจถูกมัดรวมระหว่าง “ศึกน้ำเงิน-แดง”ที่ว่ากันว่า เกมการต่อรองแตกหักพูดกันไปถึงเรื่องการเปลี่ยนตัว “นายกฯ” กันแล้วด้วย

 


 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube