อิตาเลียนไทยฯ – ไชน่าเรลเวย์ จ่อเยียวยาเหยื่อตึก สตง. กว่า 95 ล้าน
รมว.ยุติธรรม ร่วมกับ บ.อิตาเลียนไทยฯ – ไชน่า เรลเวย์ฯ เตรียมเงินเยียวยากว่า 95 ล้านบาท ช่วยผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุตึก สตง. ถล่ม หากเอกสารครบพร้อมจ่ายทันที
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ ร่วมกันประชุมหารือข้อเสนอแนวทางการเยียวยาด้านมนุษยธรรมผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อาคารสำนักงาน สตง. ถล่ม กับนายเกรียงศักดิ์ ผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และตัวแทนจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การหารือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีการช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บที่ได้รับผลกระทบเหตุการณ์อาคาร สตง. พังถล่ม เป็นการช่วยเหลือเงินด้านมนุษยธรรมที่ไม่ได้เกี่ยวกับคดีอาญาหรือคดีแพ่งและไม่มีผลผูกพันธ์กับคดีแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า การช่วยเหลือครั้งนี้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้นว่าจะช่วยเหลือผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรายละ 2 แสนบาท โดย 2 แสนบาทนั้นไม่รวมค่ารักษาพยาบาล ส่วนกรณีคดีอาญานั้นก็ดำเนินไปตามกฏหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว แต่ผู้ต้องหาก็มีสิทธิที่จะต่อสู้คดี
นายเกรียงศักดิ์ ตัวแทนจากบริษัทอิตาเลียนไทยฯ ยืนยันว่า บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการที่หน้างาน เพื่อรับเรื่องจากทางญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งมีรายชื่อและมีการเยียวยาเบื้องต้นแล้ว โดยมอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพให้กับในรายที่นิติเวชได้พิสูจน์ทราบแล้ว โดยช่วยเหลือค่าทำศพไป และช่วยเหลือผู้ที่บาดเจ็บไปแล้ว แต่ส่วนนี้เป็นเงินที่จะช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรม โดยเกณฑ์การช่วยเหลือ จะต้องพิจารณาว่าญาติของผู้เสียชีวิตที่จะได้รับเงินนั้น ผู้ใดคือคนที่เหมาะสมที่ได้รับ เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนมาแอบอ้างสิทธิ เพื่อขอรับเงินเยียวยา หากพิสูจน์ยืนยันทางเอกสารได้ พร้อมจ่ายในทันที
เบื้องต้นผู้เสียชีวิตรวมผู้สูญหาย 94 รายนั้น และผู้บาดเจ็บ 9 ราย รวมทั้งสิ้น 103 ราย บริษัทจะรับผิดชอบทั้งหมด อย่างไรก็ตามจะต้องเข้าหลักเกณฑ์ขั้นตอนผ่านทางสภาทนายความเพื่อช่วยกันกลั่นกรองในส่วนของเอกสารพิสูจน์ทางกฎหมาย ซึ่งจะต้องไปดูตามพฤตินัย
ขณะที่ นายวิเชียร นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า เอกสารที่ต้องนำมาให้กับสภาทนายความเพื่อรับเงินเยียวยานั้น อาทิ สำเนาบัตรประขาชนของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทะเบียนบ้าน บันทึกประจำวันที่ไปแจ้งความไว้ ใบมรณบัตร หรือใบรักษาพยาบาล รวมถึง เอกสารที่ยืนยันความผูกพันทางกฎหมาย เนื่องจากมีบางกรณีที่ผู้เสียชีวิตไม่ได้หย่าร้างกับภรรยาเก่า แต่มาอยู่กินกับภรรยาใหม่โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็จะพิจารณาตามข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังมีการประสานความร่วมมือกับสถานทูตไทยที่เมียนมา ให้ญาติผู้เสียชีวิตหรือผู้สูญหายไปพิสูจน์ดีเอ็นเอหรืออัตลักษณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้อีกทาง
ทั้งนี้ในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลตั้งไว้ที่นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.สมควร ระบุว่า ศพที่ยืนยันได้เป็นร่างทั้งหมด 60 ร่าง ส่วนอีก 5 ศพ นั้นเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ โดยในจำนวนนี้สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ 54 ราย และมีการคืนศพไปให้ญาติแล้ว 43 ราย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





