พนักงานและผู้จำหน่ายของ “เฮอร์บาไลฟ์” พร้อมใจกันอุทิศเวลากว่า 3,200 ชั่วโมงเพื่อตอบแทนชุมชนทั่วเอเชียแปซิฟิก เนื่องในเดือนแห่งจุดมุ่งหมายสากล

เฮอร์บาไลฟ์ (Herbalife) เผยผลการดำเนินงานของโครงการ “เดือนแห่งจุดมุ่งหมายสากล” (Global Month of Purpose) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกว่า ช่วงเดือนเม.ย.ถึงมิ.ย.ที่ผ่านมานั้น พนักงานและผู้จำหน่ายอิสระของเฮอร์บาไลฟ์ได้ทุ่มกำลังและเวลากว่า 3,200 ชั่วโมง เพื่อเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสิ่งแวดล้อม ตอบแทนชุมชนทั้งในออสเตรเลีย กัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม

สตีเฟน คอนชี ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและจีนของเฮอร์บาไลฟ์ กล่าวว่า โครงการเดือนแห่งจุดมุ่งหมายสากลได้เข้ามาเสริมทัพโครงการด้านการบริการชุมชนที่แข็งแกร่งของเรา ซึ่งช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้พนักงานและผู้จำหน่ายอิสระของเราได้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเพื่อการกุศล พนักงานและผู้จำหน่ายอิสระของเราต่างพยายามเดินหน้าสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวกอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาชุมชนและโลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นการอุทิศเวลาให้กับการเป็นอาสาสมัครในโครงการคาซา เฮอร์บาไลฟ์ (Casa Herbalife) ในท้องถิ่น การสนับสนุนครัวปรุงอาหารในละแวกใกล้เคียง หรือเก็บขยะจากชายหาด

การเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครของพนักงานและผู้จำหน่ายอิสระของเฮอร์บาไลฟ์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายความรับผิดชอบระดับโลก (Global Responsibility) ของบริษัท ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลลัพธ์ในเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 

เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจกรรมจิตอาสาเหล่านี้ เฮอร์บาไลฟ์ให้สิทธิ์พนักงานใช้เวลางานออกไปทำกิจกรรมเพื่อชุมชนโดยยังได้รับค่าจ้างตามปกติเป็นจำนวน 16 ชั่วโมงต่อปี

ในช่วงเดือนแห่งจุดมุ่งหมายสากลประจำปีนี้ กิจกรรมส่วนใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือชุมชนด้อยโอกาส เช่น การเตรียมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและเล่นกีฬากับเด็ก ๆ จากครอบครัวด้อยโอกาสที่โครงการคาซา เฮอร์บาไลฟ์ ดูแลอยู่ ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น (Herbalife Nutrition Foundation)

นอกจากนั้นยังมีงานอาสาสมัครอื่น ๆ โดยในเวียดนาม พนักงานและผู้จำหน่ายอิสระของเฮอร์บาไลฟ์ได้เยี่ยมเยือนโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ขณะเดียวที่อาสาสมัครของเฮอร์บาไลฟ์ในฟิลิปปินส์ยังได้อุทิศเวลาเพื่อช่วยเหลือองค์กรไรส์อะเกนสต์ฮังเกอร์ (Rise Against Hunger) ในการทำอาหารปรุงสุกใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทั้งสิ้น 2,500 คนด้วยกัน