ฟังจากปาก! “แพทริคอนันดา” อดีตแฟนสาวแฉทำร้ายร่างกาย-จิตใจ จนเข้า รพ.
ฟังจากปาก! “แพทริคอนันดา” อดีตแฟนสาวแฉทำร้ายร่างกาย-จิตใจ จนเข้า รพ. อยากให้อีกฝ่ายออกมาชี้แจงความจริง
จากรณีที่มีสาวรายหนึ่งออกมาโพสต์รูปและคลิป พร้อมอ้างว่า ถูก นักร้องหนุ่ม “แพทริคอนันดา” ทำร้ายร่างกายและจิตใจตลอดระยะ2ปีที่ผ่านมาจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณือย่างหนัก จนเกิดแฮชแท็ก #แพทริคอนันดา พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์
ล่าสุด “แพทริคอนันดา” พร้อมต้นสังกัด ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยอมรับเคยคบหากันจริง แต่ยืนยันไม่เคยทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย

“แบ่งเป็น 3-4 ส่วน ส่วนแรก เรื่องการคบหากับอีกฝ่าย สองเรื่องคลิปกับการทำร้ายร่างกายที่เขาพูดถึงที่โพสต์ และสาม และเรื่องการทำร้ายจิตใจ…เรื่องแรกเคยคบหากันจริง เป็นเรื่องจริง เคยคบหากันจริงโดยที่ไม่เคยปิดบังเลย คบหากันช่วงเรียนมหาลัยน่าจะปี 2017 – ปลายปี 2020 เกือบ 4 ปีที่คบหากัน เพื่อน ครอบครัวทราบดี แต่ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมาที่เขาพูดถึง เราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน มีหลายช่วงมากสลับกันไป มีหลายอย่างเกิดขึ้น”
“ส่วนที่สองน่าจะสำคัญที่สุด ในเรื่องของการทำร้ายร่างกายหรือคลิปที่อีกฝ่ายลง ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องจริง คลิปเกิดขึ้นนานแล้ว เป็นคลิปเก่า ณ วันนั้นผมไม่ได้อยู่ที่นั่น ทำเพลงอยู่ที่สตูดิโอ ไม่ใช่เหตุการณ์สดๆร้อนๆ เกิดขึ้นคนละเวลา ไม่มีความรุนแรง ไม่มีความทำร้ายร่างกายกัน คลิปนั้นมีแค่ 2 วิ มันมีเหตุการณ์มากกว่านั้น ผมไม่ได้ใช้ความรุนแรง ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาเลย ขอชี้แจงว่า ทางฝ่ายเขามาหาที่คอนโด อยากพูดคุยด้วย ตอนเช้าตี 5-6โมง ผมก็ถามว่าทำไมไม่นัด เพราะง่วงนอน มันไม่ใช่เวลาที่จะตื่น”
“ และที่มีการถ่ายหรือการปัดกล้อง เพราะผมเอากุญแจรถเขามา เพราะผมไม่อยากให้เขาขับรถเอง เพราะเขาอยู่ในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการขับขี่ ก็ขอกุญแจและไม่อยากให้ขับรถ เพราะเขาไม่พร้อมจะขับรถ ขอโทรหาคุณแม่ให้มารับแล้วถึงจะคืนกุญแจให้ ก็มีปากเสียงกัน เพราะเขาไม่ได้อยากให้คุณแม่มารับหรือรู้ตรงนี้ แต่ผมยืนยันไม่อยากให้เขาขับเอง ก็เลยมีความไม่พอใจและทะเลาะกัน แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว และคุณแม่ก็มารับเขากลับ ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายเขาเลย ไม่เคยทำร้ายร่างกายใครทั้งสิ้น และผมไม่สนับสนุนความรุนแรง”
“ก่อนจะลงคลิปนั้นเขาทักมาหาว่ามีของจะส่งคืนให้ ขอที่อยู่ ก็ได้ให้ไป ด้วยความที่ไม่ได้คุยกันมานานแล้ว ก็ถามสารทุกข์สุขดิบด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เขาก็บอกว่าช่วงนี้เหนื่อย ผมก็พูดอย่างหนึ่งที่อยากพูดกับเขา เลยพูดถึงเรื่องเก่าๆที่เคยคบกัน บอกว่าเขาเป็นคนเก่งมากรู้ตัวไหม เพราะเขาเป็นคนเข้าใจเรื่องมาก เพลงอินกับเพลงมากๆ เป็นคนน่ารัก มุ่งมั่น ผมจำรายละเอียดจำไม่ค่อยได้ แต่ชื่นชมเขาในหลายๆอย่างและยังบอกงว่าเขาเป็นแฟนที่ดีในตอนนั้น แค่เขารู้สึกว่าผมทำให้เขารู้สึกดีและให้ความหวัง เขาบอกว่าเขายังรู้สึกไม่โอเคเลย ทำไมมาพูดแบบนี้ ก็นึกว่าที่เขาทักมาเขาโอเคแล้ว ทำใจได้แล้ว ก็ถือว่าผมคิดไปเอง ผมก็รู้สึกผิดเหมือนกัน ผมไม่ได้อยากเล่นความรู้สึกของเขา หรือง้อให้เขากลับมา ผมเข้าใจว่าเรื่องความรู้สึกมันพูดยาก ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เขารู้สึกแย่หรือให้ความหวังเขาเลย”

“คือต่างคนต่างมีคนใหม่ไปแล้ว แต่เราก็ยังวนมาเจอกันอยู่ดี และผมก็พูดแบบนั้นจริงๆ ผมอาจจะเคยเป็นคนอารมณ์ร้อนในวัยเด็ก แต่ ณ วันนี้ผมไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่ตอนนั้นการทะเลาะกัน ไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขา หรือกับใครเลย หรือไม่ว่าจะกับผู้หญิงคนไหนก็ตาม คิดว่าเขาคงน่าจะมีเหตุผลของเขา เขาเป็นคนไม่ได้มีสภาพจิตใจที่แข็งแรง อาจจะเปราะบางมากๆ แต่เขาก็เป็นคนน่ารักมากๆคนหนึ่ง แต่อาจจะเป็นเพราะคำพูดของผม ผมมั่นใจว่าไม่มีหลักฐานในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ผมไม่เคยทำร้ายร่างกาย ลงไม้ลงมือกับเขาเลย ไม่ว่าจะทะเลาะกันหนักแค่ไหนก็ตาม”
“หลังจากที่เกิดเรื่องก็ได้คุยกับเขาด้วยความใจเย็น ไม่ได้คิดว่าเรื่องราวจะมาไกลขนาดนี้ ไม่ได้โกรธเขา แต่สับสนและเสียใจว่าทำไมถึงทำแบบนั้น เขาก็บอกว่าเจ็บมาเยอะแล้วกับการให้ความหวังของผม จะเป็นการทำลายชื่อเสียงมั้ย ผมคิดแทนเขาไม่ได้ครับ ผมขอให้เขาลบ แต่ว่าเขาบอกว่าเดี๋ยวลองดูอะไรประมาณนั้น”
“ตอนคบหากัน 4 ปีที่ผ่านมา และเลิกกันไป 2 ปี ตอนคบหาความสัมพันธ์ ถ้าถามผม เรียกว่าเขาเป็นแฟนคนแรกๆก็ได้ที่คบกัน และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสมัยเรียนมหาลัย ใช้ชีวิตด้วยกัน 24 ชั่วโมง เป็นความรักที่ดีแต่ไมได้เฟอร์เฟก ผมยังไม่ได้มีประสบการณ์ด้านความรักขนาดนั้น แต่เขาก็เป็นความรักดีๆจริงๆ ก็มีทะเลาะกัน แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือ ตอนจบกันต้องยอมรับว่าจบกันไม่ดีเท่าไหร่ จบกันด้วยการทะเลาะกัน มีปากเสียงกัน ผมเป็นคนขอแยกทาง เขาก็มีมาง้อผมบ้าง และมีช่วงที่ไม่ได้ง้อแล้ว แต่ผมก็ไปง้อเขากลับมาคุยกัน เป็นช่วงเวลาที่สับสนมากๆ เราอยู่กับคนหนึ่งมา 4 ปี ตั้งแต่ผมอายุ 19-322 ผมเป็นคนขอเลิกก็จริง แต่ผมก็มีความสับสน เขามีบทบาทกับชีวิตผมมากๆจริงๆ”
“ถามว่าอยากให้เขาขอโทษไหม ผมคิดว่าเขาควรออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมเข้าใจว่าเขาอาจจะโมโหผม เลยลงรูปลงคลิปแบบนั้น ความจริงในคลิปมันมีมากกว่า 2 วิอยู่แล้ว และผมสามารถยืนยันว่าผมไม่เคยทำร้ายร่างกาย ที่นั่นเป็นที่พักของผม มียาม มีคนที่อยู่ในคอนโดที่สามารถยืนยันได้ว่าผมไม่เคยทำร้ายร่างกายเขา”
“ผมก็รู้สึกเสียใจ ที่มีคนมีต่อว่า คิดว่าผมเป็นแบบนั้นแบบไม่ค่อยได้นอนแล้วกันครับ เพราะเราอ่านคอมเมนต์ต่างๆ ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนครับ”


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news





