fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“เต้ มงคลกิตติ์” ให้ปากคําเพิ่ม โครงการเปลี่ยนป้าย 33 ล้าน

Featured Image
เต้ มงคลกิตติ์ ให้ปากคำเพิ่มเติม ปปป.กรณีร้อง ให้สืบสวนตรวจสอบโครงการจัดทำป้ายชื่อ 33 ล้านของ รฟท.

 

 

วันนี้ (26 ม.ค.66) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ภายหลังจากก่อนหน้านี้ มีการมาร้องขอให้ตรวจสอบกรณีโครงการจัดทำป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 33 ล้านบาท

 

 

นาย มงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนนัดมาให้เขียนคำให้การเพิ่มเติม เกี่ยวกับป้ายสถานีกลางบางซื่อเป็น สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมาย จากหน่วยงานของรัฐผู้ใด

 

 

โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือไม่

 

ซึ่งอำนาจการสืบสวนสอบสวนจะเริ่มนับแต่วันนี้ ตนได้แจ้งพนักงานสอบสวนไปแล้วว่าก่อนครบกำหนด 30 วันที่จะต้องส่งให้ ป.ป.ช.จะต้องขอรายละเอียดในการจัดซื้อจัดจ้างของการรถไฟฯ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น คำสั่งในการวินิจฉัยให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ว่ามีใครวินิจฉัยให้ใช้แบบ 2 (4) บ้าง อันอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่ อย่างไร และต้องดูว่าคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ตรวจรับมีใครบ้าง ซึ่งตรวจรับน่าจะยังไม่มีเพราะได้ยกเลิกชะลอไปก่อนแล้ว

 

ซึ่งทางการรถไฟฯ ได้ออกมายืนยันว่าทำถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ตนเข้าใจเพราะตัวเองทำเองก็จะต้องบอกว่าทำถูกแล้ว จะไปบอกว่าตัวเองผิดได้อย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ที่บอกว่าตัวเองถูกนั้นส่วนใหญ่มักจะติดคุก เรื่องนี้ก็ว่ากันไปตามเกม รอดูพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะได้เอกสารจากการรถไฟฯ ภายใน 30 วันหรือไม่ จากนั้นก็ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเองหรืออาจจะส่งกลับมาให้ บก.ปปป.สอบสวนเพิ่มเติมก็ได้

 

การที่เรามายื่นร้องที่ บก.ปปป.เพราะพนักงานสอบสวนจะต้องรับคดี ถ้าไปยื่น ป.ป.ช.เลยอาจจะไม่รับก็ได้ ส่วนจะถูกหรือผิดก็ว่ากันไป ไม่ว่าจะเรื่องราคากลางตัวอักษร ค่ารื้อถอน ค่าติดตั้งใหม่ รวมแล้วมันจะถึง 33 ล้านบาทหรือไม่ ตนถามจากเพื่อนที่เป็นผู้รับเหมา ตัวอักษรนี้เขาประเมินไว้ที่ 4 ล้านบาท ค่าติดตั้งและถอดถอนอีกประมาณ 8 ล้านบาท รวมแวตแล้วไม่เกิน 15 ล้านบาท

 

 

ซึ่งราคานี้เขามีกำไรอยู่แล้ว 15% ส่วนการรถไฟฯ จ้างในราคา 33 ล้านไม่รู้ว่าเป็นค่าอะไรบ้าง การใช้เจ้าเดิมทำแบบนี้ตนมองแล้วเอากำไรเยอะเกินไป แค่ครึ่งเดียว 15 ล้านบาทก็มีกำไรแล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรกันนักหนา เงินที่เหลือเอาไปทำอะไรอื่นได้อีกเยอะแยะ เรื่องนี้มีคนได้ประโยชน์อยู่แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube