รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องพึ่งพาสถานีชาร์จ: โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ให้การเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องพึ่งพาสถานีชาร์จ: โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เขียนประวัติศาสตร์ใหม่ให้การเดินทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกยังถกเถียงกันเรื่อง “ความอัจฉริยะ” “การยกระดับพรีเมียม” และคำถามว่า รถยนต์ไฟฟ้าลดการปล่อยคาร์บอนหรือไม่
ในเดือนธันวาคม ปี 2025 โรงแรม ชาเทรียม ริเวอร์ไซด์กรุงเทพมหานคร SOLARKY—แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นรายแรกของโลกที่เข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์—ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มพรวัฒน์ (Prawit Automotive Group) หนึ่งในกลุ่มตัวแทนจำหน่ายยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทย โดยไค หยิน (Kai Yin) ประธานและซีอีโอของ SOLARKY กล่าวไว้ว่า
“เราเลือกประเทศไทยเป็นตลาดหลัก เพราะเราต้องการสร้างการเดินทางสีเขียวที่เท่และใช้งานง่ายที่สุดสำหรับผู้บริโภคชาวไทย—ด้วยต้นทุนการซื้อที่ต่ำ และต้นทุนการใช้งานที่เป็นศูนย์อย่างแท้จริง ผ่านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เสริม”
แก่นแท้ทางธุรกิจ
รถรุ่นแรกที่ผลิตเชิงพาณิชย์ของ SOLARKY สำหรับตลาดโลก ในเชิงเทคนิคคือ “รถยนต์ไฟฟ้าแบบขยายระยะด้วยไฟฟ้า (electric-electric range-extended EV)” รถรุ่นนี้ไม่ได้ไล่ตาม “ฟีเจอร์ซ้อนทับ” หรือ “การวางตำแหน่งหรูหรา” แต่เลือกเจาะปัญหาจริงของประเทศไทยอย่างแม่นยำ
ในประเทศไทย:
* มอเตอร์ไซค์คือแรงงานหลัก ผู้ขี่ต้องเผชิญกับความร้อนฝน และความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
* รถยนต์สะดวกสบาย—ราคาสูง และค่าน้ำมันก็แพง
* รถ EV จากจีนดูน่าสนใจ—โครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จยังไม่หนาแน่นพอในทุกพื้นที่
แต่ประเทศไทยมีสิ่งหนึ่งที่อุดมสมบูรณ์คือแสงแดด
รถรุ่นแรกของ SOLARKY คือ sunV รถขนาดเล็กระดับA00 มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต) ขนาด 10.2 kWh ให้ระยะทาง 150 กม. ตามมาตรฐานNEDC เมื่อรวมกับแผงโซลาร์เซลล์ TOPCON แบบโมโนคริสตัลไลน์ที่ช่วยเติมพลังงานแบบเรียลไทม์ จะสามารถเพิ่มระยะทางได้สูงสุดอีก 50 กม. ทำให้ระยะทางรวมสูงสุดประมาณ 200 กม.—เพียงพอสำหรับทดแทนการเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้จำนวนมาก
วัสดุของรถมากกว่า 90% สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ตัวถังมีน้ำหนักเบามากจนสามารถเข็นได้ด้วยมือหลังลงจากรถ และด้วยราคาที่ใกล้เคียงกับมอเตอร์ไซค์นำเข้าจากญี่ปุ่นในไทย ผู้บริโภคชาวไทยสามารถได้สัมผัสความสบายของรถยนต์ หลังคา ประตู การป้องกันแดด กันฝนและอื่น ๆ
นี่คือเจตนารมณ์ดั้งเดิมของรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ SOLARKY: ไม่ได้สร้างเพื่อเป็น “ฮาโลแบบบูกัตติ” หรือคัดลอกโมเดล EV ของจีนมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เลือกฝังตัวอยู่ในความเป็นจริงของแต่ล่ะประเทศ การสร้างเส้นทางใหม่ที่ใกล้กับความต้องการของผู้ใช้จริง
ทำไมต้องประเทศไทย?
เป็นคำถามที่ทุกคนถาม ไค หยิน (Kai Yin) ผู้ก่อตั้งSOLARKY เริ่มต้นอาชีพหลังจบปริญญาโทที่ CIMC (China International Marine Containers) โดยเขาเป็นผู้นำด้านการพัฒนาธุรกิจต่างประเทศของ CIMC Vehicles ขับเคลื่อนการควบรวมกิจการข้ามพรมแดน การขยายโรงงานและการเติบโตระดับโลก จนธุรกิจขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในเวลาอันสั้น
เมื่อถูกถามว่า “ทำไมต้องประเทศไทย” เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนตอบว่า
“ผมเหยียบแผ่นดินแห่งนี้ครั้งแรกเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมมีความทรงจำพิเศษ และสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับประเทศไทยในฐานะตลาดหนึ่ง
ในฐานะศูนย์กลางการผลิตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศไทยมีประชากรราว 70 ล้านคน อัตราการเป็นเมืองประมาณ 55% และกรุงเทพฯ ติดอันดับเมืองที่รถติดที่สุดในโลก มอเตอร์ไซค์ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือ ‘เส้นเลือดเหล็ก’ ที่หล่อเลี้ยงซอยและถนนย่อย กว่า 70% ของการเดินทางระยะสั้นพึ่งพามอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ส่งของบางคนขี่รวมระยะทางต่อเดือนเทียบเท่าการวิ่งรอบโลก

แต่เบื้องหลังความคึกคักนั้นคือแรงกดดันสองด้าน: พลังงานและสิ่งแวดล้อม ราคาน้ำมันในไทยยังสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับผู้ขี่จำนวนมาก ค่าน้ำมันอาจกินสัดส่วนมากกว่า 30% ของรายได้ต่อเดือน และด้วยมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์กว่า 20 ล้านคัน การปล่อยฝุ่นจากรถสองล้อจึงเป็นส่วนสำคัญของมลพิษจากการจราจร
การเปลี่ยนผ่านไม่ง่าย แม้ไทยจะมีนโยบาย ‘30-30’ ตั้งเป้าการผลิต EV 30% ภายในปี 2030 แต่สถานีชาร์จไฟยังคงกระจุกตัวในกรุงเทพฯ และพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานยังชัดเจน และที่สำคัญคือความสามารถในการซื้อ รถใหม่หนึ่งคันอาจเท่ากับรายได้ 5–7 ปีของครอบครัวทำงาน ขณะที่รถพลังงานใหม่หลายรุ่นมีราคาสูงจนผู้ซื้ออาจเลือกซื้อรถน้ำมันมือสองได้ถึงสองคัน
แต่ความหวังเกิดขึ้นจากการเริ่มทดลองจุดชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ และนวัตกรรมจากฐานรากกำลังเกิดขึ้นประเทศไทยมีทรัพยากรแสงแดดอุดมสมบูรณ์ เฉลี่ยราว2,500 ชั่วโมงต่อปี—มากกว่าจีนประมาณ 1.4 เท่า
นี่คือเหตุผลที่เราก่อตั้ง SOLARKY: เพื่อผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามาถเดินทางสะดวก ราคาจับต้องได้แทบไม่เสียค่าใช้จ่าย ชาร์จที่บ้านได้ และชาร์จพลังจากแสงอาทิตย์ได้”

เทคโนโลยีและคุณค่า – ชาร์จที่บ้าน และ ชาร์จพลังจากแสงอาทิตย์
หัวใจของโซลูชันคือการบูรณาการระบบจากชิ้นส่วนที่พิสูจน์แล้ว: แบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ รวมกับแผงโซลาร์เซลล์ TOPCON แบบโมโนคริสตัลไลน์ และโครงสร้างอะลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา กุญแจสำคัญคือการปรับระบบให้เหมาะกับการใช้งานจริงในพื้นที่
sunV มีพื้นที่แผงโซลาร์บนหลังคา 3.2 ตร.ม. โมดูลTOPCON และระบบควบคุมพลังงาน EDC ที่พัฒนาเองของ SOLARKY อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม ให้พลังงานสูงกว่าระบบทั่วไป สามารถเพิ่มระยะทางจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้สูงสุด 50 กม. ต่อวัน เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ 10.2 kWh เพียงจอดรถกลางแจ้งก็รองรับการใช้งานต่อวันกว่า 200 กม. ในสภาพอากาศที่เหมาะสม
ด้วยน้ำหนักที่เบา: “อะลูมิเนียม” 640 กก.
ถนนในไทยแออัดและซับซ้อน ทุกการลดน้ำหนัก 100 กก. ช่วยลดการใช้พลังงานและยืดอายุยางได้อย่างมีนัยสำคัญ
SOLARKY ใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมอัลลอยร่วมกับแผงคอมโพสิต แทนโครงเสร้างหล็กแบบเดิม ทำให้น้ำหนักรถอยู่ที่ราว 640 กก.—เบากว่ารถ EV ขนาดใกล้เคียงกัน 30–40%—ขณะเดียวกันยังผ่านการทดสอบและการรับรองตามมาตรฐานที่เข้มงวด อะลูมิเนียมสามารถรีไซเคิลได้มากกว่า 90% ช่วยรักษาการยืดเวลาของรถในระยะยาว
KD 2.0: การประกอบแบบโมดูลาร์เพื่อการขยายตัวทั่วโลก
แนวทาง KD แบบโมดูลาร์ของ SOLARKY ช่วยให้การผลิตทั่วโลกง่ายขึ้น:
* สร้างเร็ว: ตั้งแต่ผังโรงงานถึงการเดินสายการผลิต ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
* ลงทุนน้อย: ประมาณ 10% ของโรงงานรถยนต์แบบดั้งเดิมในต่างประเทศ
* ประสิทธิภาพสูง: ใช้แรงงานและพื้นที่น้อย แต่ให้ผลผลิตสูง
* ทำซ้ำได้ง่าย: ลดขั้นตอนหลักจาก 4 เหลือ 2 เพื่อการฝึกอบรมและขยายตัวที่รวดเร็ว
ด้วยซัพพลายเชนแบบโมดูลาร์ โมเดลนี้รองรับการขยายแบบ Asset-light ลงทุนต่ำ ทดลองเร็ว และมุ่งสู่ความสามารถทำกำไรได้ไว
การจัดการพลังงานดิจิทัล: ทำให้ไฟฟ้า “เป็นทางเลือก”
EDC (Energy Domain Controller) ที่พัฒนาเอง รวมMPPT, BMS และ VCU ไว้ในระบบเดียว ปรับการไหลของพลังงานจากโซลาร์-แบตเตอรี่-มอเตอร์อย่างต่อเนื่อง
ในวันที่แดดน้อย ระบบจะให้ความสำคัญกับการขับขี่ ลดภาระที่ไม่จำเป็น เช่น ระบบแอร์ที่ใช้พลังงานสูง เมื่อแดดแรง สามารถจ่ายไฟออกภายนอกได้ ทำให้รถกลายเป็น“แหล่งกักเก็บพลังงานเคลื่อนที่”

มาตรฐานใหม่ด้านความเข้าถึงได้
ในประเทศไทย รถ Toyota Corolla ใหม่มีราคาราว1,009,000 บาท รถมือสองก็ยังมีราคาสูง รถ EV ขนาดเล็กจากแบรนด์จีนหลายรุ่นอยู่ที่ประมาณ 390,000 บาท
ในทางกลับกัน sunV ตั้งเป้าราคาขายปลีกประมาณ269,000 บาท—ใกล้เคียงกับราคามอเตอร์ไซค์อย่างHonda Forza—แต่ให้หลังคา แอร์ การป้องกันสภาพอากาศ และความสบายใกล้เคียงรถยนต์เต็มรูปแบบ มีศักยภาพจะเป็น “รถคันแรก” ของคนรุ่นใหม่จำนวนมากในไทย
* 8 เมษายน: SOLARKY sunV ผ่านการทดสอบความปลอดภัยภาคบังคับของสหภาพยุโรปครบทั้ง 11 รายการยืนยันสมรรถนะตามมาตรฐาน EU รถล็อตแรกได้ส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เริ่มกระบวนการปรับให้เหมาะกับแต่ล่ะประเทศและตรวจสอบความสม่ำเสมอการผลิตในประเทศไทย
* 19 ธันวาคม: SOLARKY ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Prawit Automotive Group ณ โรงแรม Chatrium Hotel Riverside Bangkok เพื่อนำ sunV เข้าสู่ตลาดไทยโดยกลุ่มพรวัฒน์จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลัก ดูแลการสร้างแบรนด์ การตลาด เครือข่ายจำหน่าย และบริการหลังการขาย หลังความคืบหน้าในอินโดนีเซีย นี่คืออีกก้าวสำคัญของ SOLARKY ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
*ปัจจุบัน SOLARKY กำลังเร่งขยายผลิตภัณฑ์ในอินโดนีเซีย ไทย แอฟริกาใต้ และแทนซาเนีย และเตรียมเข้าสู่เฟสการเติบโตระดับโลก โดยตั้งเป้าจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ในปี 2026
ลองจินตนาการกรุงเทพฯ ยามรุ่งอรุณ หลังค่ำคืนแห่งแสงนีออน รถ SOLARKY ที่ติดแผงโซลาร์บนหลังคาเคลื่อนผ่านถนนราวกับเครื่องเก็บเกี่ยวพลังงาน ผู้คนขับไปทำงานไม่ใช่แค่เป็นส่วนหนึ่งของฉากเมือง แต่เป็นสัญลักษณ์มีชีวิตของยุคใหม่แห่งการเดินทางสีเขียวของไทย
ด้วยนวัตกรรม วิศวกรรมน้ำหนักเบา การผลิตแบบโมดูลาร์ และราคาที่เข้าถึงได้ SOLARKY นำเสนอเครื่องมือการเดินทางสีเขียวรูปแบบใหม่—ที่ใช้งานได้จริง ประหยัดและออกแบบจากความเป็นจริงของชีวิตท้องถิ่น เป็นตัวอย่างของการที่เทคโนโลยีและความยั่งยืนสามารถสร้างคุณค่าร่วมกันข้ามพรมแดน
ท้ายที่สุด ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อมันเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะถูกมองว่า “แหวกแนว” หรือ “ไม่ใช่วิธีเดิม ๆ” หลักการยังคงเดิม: เทคโนโลยีเพื่อความก้าวหน้า ธุรกิจเพื่อสังคม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





