ไกด์ไลน์ Credit Term บังคับใช้16ธ.ค.นี้
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ย้ำ ไกด์ไลน์ Credit Term สำหรับ SMEs บังคับใช้ 16 ธันวาคม นี้ ช่วย SMEs ได้รับเงินจากการขายสินค้าเร็วขึ้น
นายสันติชัย สารถวัลแพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า และโฆษกคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) กล่าวว่า ประกาศ กขค. เรื่องแนวทางการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า(Credit Term) กรณีผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เป็นผู้ขายสินค้า หรือบริการ หรือไกด์ไลน์ Credit Term ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมเพื่อปรับแนวทางการประกอบธุรกิจให้ถูกต้องตามที่ไกด์ไลน์กำหนดก่อนที่ประกาศฯ จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ดังนี้
1. ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับผู้ประกอบธุรกิจทุกรายในภาคการผลิต การค้าและบริการ ซึ่งครอบคลุมผู้ซื้อทั้งผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่และผู้ประกอบธุรกิจ SMEs
2. หลักเกณฑ์การพิจารณาผู้ประกอบธุรกิจ SMEs
2.1 กรณีการผลิตสินค้า ต้องมีการจ้างงานไม่เกิน 200 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 500 ล้านบาท
2.2 กรณีการให้บริการ กิจการค้าส่ง หรือกิจการค้าปลีก ต้องมีการจ้างงานไม่เกิน 100 คน หรือมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 300 ล้านบาทโดยแนวทางในการพิจารณาเมื่อเข้าองค์ประกอบการจ้างงาน หรือ รายได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ตามประกาศฯ
3. การกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term)
3.1 กรณีเป็นสินค้าหรือบริการทั่วไป กำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกิน 45 วัน
3.2 กรณีสินค้าเกษตร หรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร กำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกิน 30 วัน การเริ่มนับระยะเวลา จะพิจารณาเมื่อมีการส่งมอบสินค้าหรือบริการ ครบถ้วนถูกต้องตามจำนวน ประเภท คุณภาพและมาตรฐานของสินค้าหรือบริการที่คู่สัญญาได้ตกลงกันไว้ โดยมีการตรวจรับเรียบร้อย และ ส่งมอบเอกสารครบถ้วน เช่น ใบแจ้งหนี้ (Invoice) ที่มีใบกำกับภาษีการลงนามถูกต้อง หรือใบส่งมอบสินค้า (D/O) ที่มีการลงนามรับสินค้าหรือบริการแล้ว อย่างใดอย่างหนึ่งตามการค้าปกติที่เคยปฏิบัติกันมา
4. การชำระสินเชื่อการค้า (Credit Term)
4.1 กรณีผู้ซื้อสินค้า หรือบริการ ต้องแสดงรายละเอียดและขั้นตอนการจ่ายเงินให้ชัดเจน โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการชำระเงินเช่น ระบบการวางบิล รอบวันการวางบิล ระบบบัญชี เพื่อให้สามารถชำระสินเชื่อการค้าได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในประกาศฯ
4.2 กรณีผู้ขายสินค้าหรือบริการที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ต้องแสดงหลักฐานจำนวนการจ้างงานหรือเอกสารแสดงรายได้ต่อปี เช่น งบการเงินที่ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า การชำระหนี้ที่ยื่นต่อกรมสรรพากร เอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานประกันสังคม หรือ เอกสารอื่นใดที่หน่วยงานราชการยอมรับว่าเป็น SMEs หากไม่มีจริง ๆ สามารถใช้เอกสารจ้างงานหรือรายได้ที่จัดทำขึ้นเองและรับรองความถูกต้องของเอกสารให้แก่คู่ค้าตามที่ตกลงกัน เป็นต้น อย่างไรก็ดีอาจมีการตกลงยกเว้นไม่ต้องแสดงเอกสารใด ๆ ก็ได้ หากคู่ค้าเชื่อถือและยอมรับหรือมีวิธีการตรวจสอบของตนอยู่แล้ว โดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) จะเผยแพร่คำอธิบายไกด์ไลน์เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจชัดเจนและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรม ในกรณีเกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) ได้แก่
(1) การประวิงเวลาการจ่ายค่าสินค้าหรือบริการเกินกว่าระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้าที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(2) การเปลี่ยนแปลงระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้าหรือเงื่อนไขอื่นภายใต้สัญญาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
(3) พฤติกรรมอื่น ๆ อันเป็นการบังคับโดยผู้ประกอบธุรกิจรายใดซึ่งเป็นคู่ค้ากับ SMEs อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดมีการกระทำผิดตามประกาศฯ จะมีโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด หากพบผู้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(สขค.) โทรศัพท์ 02 199 5444 อีเมล [email protected] หรือเว็บไซต์ www.otcc.or.th
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news





