ไฟไหม้โรงเลื่อยบางโพเสียหาย 4 บริษัท
ไฟไหม้โกดังเก็บสินค้าและโรงเลื่อนย่านบางโพ รวม4บริษัทเสียหายยังประเมินมูลค่าไม่ได้ แต่เคราะห์ดีไม่มีบาดเจ็บและเสียชีวิต สาเหตุ ยังไม่ชัดรอพฐ.ตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานครพร้อมด้วย มูลนิธิอาสากู้ภัยฯ และตำรวจ สน.บางโพ ประสานนำรถน้ำรถดับเพลิงเข้าฉีดสกัดเพลิงไหม้ บริเวณโกดังเก็บสินค้าและโรงเลื่อย ในซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย 23 ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงแขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยเพลิงลุกไหม้ไหม้ตั้งแต่ 09.40 น.เจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดสกัดนานกว่า 3ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้เนื่องจากตัวโครงสร้างอาคารอาจถล่มลงมาเกรงจะไม่ปลอดภัย
สำหรับ ในที่เกิดเหตุพบว่ามีเนื้อที่ประมาณ 4ไร่ สร้างเป็นโกดังขนาดใหญ่โดยแบ่งเนื้อที่ออกเป็น 4 บริษัท ที่ประกอบกิจการทำวงกบ ประตูหน้าต่างไม้และพัดลมตั้งพื้น
โดย นายไพทูรย์ เศรษโส อายุ 60 ปี พนักงานห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้วนเซงไถ่ เล่าว่า ขณะที่ตนเองทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการทำวงกบประตูไม้ ก็ได้กลิ่นเหม็นคล้ายไฟไหม้ จึงไปชะโงกดู บริษัท โรงเลื่อยจักร ฮะเซียง หลี จำกัด ที่อยู่ติดกัน พบว่า มีไฟลุกไหม้บริเวณกลางบริษัท จึงพยายามจะเอาถังดับเพลิงไปฉีดสกัดเพลิงไหม้แต่เข้าไม่ได้ เพราะบริษัทดังกล่าวเป็นวันหยุดไม่มีพนักงานอยู่ จนกระทั่งเพลิงลุกลามไปยังบริเวณหลังคา และโหมกระหน่ำไปยัง บริษัท มาสเตอร์ คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จากนั้นไฟก็โหมมายังห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้วนเซงไถ่ ซึ่งเป็นบริษัทตนเอง ทำให้ไฟลุกลามอย่างหนัก เพราะบริษัทของตนเองมีพวกไหม้และวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ ไฟไหม้ลุกลามไปยังห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงเลื่อยจักร ฮะเซียง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาช่วยกันสกัดเพลิง
ด้าน นายสาธิต ซื่อสัตย์สกุล อายุ 68 ปี เจ้าของห้างหุ้นส่วน บ้วนเซียงไถ่ เปิดเผยความรู้สึกว่า ตนเองรู้สึกแย่ แต่ต้องทำใจกับเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เพราะทรัพย์สินสูญหายยังสามารถหาใหม่ได้ แต่ขอให้ครอบครัวปลอดภัยก็เพียงพอ แม้มันยากจะทำใจที่เห็นทรัพย์สินถูกไฟไหม้ต่อหน้าต่อตา เพราะตลอดเวลา60ปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์ แต่ครั้งนี้ถือว่าสาหัส ประเมินมูลค่าไม่ได้ เพราะในบริษัทมีไม้และเครื่องจักรจำนวนมากที่เสียหาย ถึงแม้ว่าจะมีประกันอัคคีภัยแต่ก็ไม่คุ้มค่า แต่ระบุว่าตนเองยังคงมีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป
สำหรับเหตุการณ์นี้ตำรวจสามารถช่วยเหลือผู้ติดค้างในที่เกิดเหตุออกมาครบหมดแล้วไม่มีรายงานผู้บาดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจหรือ พฐ.ตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





