Home
|
อาชญากรรม

หนุ่มจีน ช้ำรัก โดนสาวไทยหลอกให้หย่า เชิดเงิน บ้านกว่า100ล้าน

Featured Image
หนุ่มจีน ช้ำรัก ร้องทนายตั้ม โดนสาวไทยหลอกจดทะเบียนหย่า อ้างจะลงสมัครสส.พรรคดัง เชิดเงินพร้อมทรัพย์สินและบ้านรวมกว่าร้อยล้าน เสพสุขกับแฟนใหม่

 

 

 

 

 

วันนี้ (11 ก.ย. 67) ที่ Sitara law firm นายเคน (ผู้เสียหาย) สัญชาติจีน พร้อมมารดา และล่าม เข้าร้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลังแต่งงานกับหญิงไทย มีลูก 1 คน แต่ถูกภรรยาออกอุบายบอกว่าจะเล่นการเมืองให้ไปหย่าปลอมๆ เพราะตามกฎหมายไทย แต่งงานกับชาวจีนจะไม่สามารถลง ส.ส.ได้ หลังจากหย่าก็ยังอยู่กินกันตามปกติ แต่ที่แปลกคือภรรยาเริ่มขนทรัพย์สินออกไปจากบ้าน จนสามีชาวจีนถามเลยมีปากเสียงกัน หลังจากหย่าไม่กี่วันพาสามีใหม่มาขนของที่บ้าน จนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน

 

 

 

นายษิทรา กล่าวว่า นายเคนรู้จักกับอดีตภรรยาเมื่อ 7 ปีก่อนหลังจากมาเที่ยวที่ประเทศไทย หลังจากนั้นไม่นานตัวอดีตภรรยาก็ได้ไปเที่ยวที่ประเทศจีนก่อนที่จะมีการคุยกัน และตกลงคบหากัน หลังจากคบหากันได้ไม่นาน นายเคนได้เดินทางมาหาอดีตภรรยา ที่ประเทศไทยเดือนละ 1 ครั้ง โดยช่วงที่คบกันแรกๆ ขณะยังไม่แต่งงาน อดีตภรรยาได้ขอเงิน จำนวน 500,000 บาท เพื่อนำไปวางดาวน์คอนโด แห่งหนึ่งย่านสาทร

 

 

หลังจากนั้นได้แต่งงานกันในช่วงเดือน ก.ย. 65 ก่อนที่จะมีลูกด้วยกัน 1 คน ที่เข้ามาร้องในวันนี้เพราะตัวภรรยามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ไม่สนใจเหมือนก่อน และนำทรัพย์สินภายในบ้านออกไป และเมื่อมีการขนออกไปเรื่อยๆจึงได้ตั้งข้อสงสัยถึงธุรกิจอีกหลายอย่างที่ได้มาตั้งสาขาในประเทศไทย และทราบภายหลังว่าหุ้นบริษัทภายในประเทศไทย

 

 

 

ของนายเคน มีหุ้นอยู่เพียงแค่ 1% และ อดีตภรรยามีหุ้นทั้งหมด 99% ทั้งนี้เนื่องจากเอกสารทั้งหมดเป็นภาษาไทยและนายเคน ไม่ทราบภาษาไทยรวมถึงยังเชื่อใจ จึงให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการ ก่อนทราบว่าถูกหลอกในภายหลัง

 

 

หลังจากที่ภรรยาได้เริ่มขนของออกจากบ้าน นายเคน และอดีตภรรยาเริ่มที่จะมีปากเสียงกัน โดยหลังจากนั้นภรรยาได้บอกนายเคนว่าจะลงเล่นการเมืองซึ่งอ้างว่าสนิทสนมกับผู้ใหญ่ทางพรรคการเมืองชื่อดังพรรคหนึ่ง โดยจะลง สส. ภรรยาก็บอกว่าจำเป็นที่จะต้องหย่า หาก ไม่หย่าจะติดคุณสมบัติในการสมัคร ตัวนายเคนจึงได้ตกลงที่จะหย่าเพราะหวังว่าอนาคตของอดีตภรรยาจะดีขึ้น

 

 

 

 

ต่อมาวันที่ 4 ก.ย. อดีตภรรยาได้ขับรถเข้ามา ขนของพยายามที่จะนำเหล้าและไวน์ ภายในบ้านรวมถึงนาฬิกา เงินสดภายในเซฟ ก่อนที่จะทะเลาะกันหลังจากนั้น ก็มีรถอีกคันขับตามเข้ามาเมื่อรถคันดังกล่าวจอดลงปรากฏผู้ชายคนนึงที่ลงรถมาและมีปากเสียงกันอีกครั้งแต่เมื่อบอกว่าให้พูดภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ ผู้ชายคนดังกล่าวไม่สามารถพูดได้จึงได้มีการยื้อแย่งของกัน? ตัวนายเคนจึงตั้งข้อสงสัย

 

 

 

ว่าชายคนดังกล่าวเป็นใครจึงได้สอบถามทางหมู่บ้านจนทราบว่า ทุกครั้งที่อดีตภรรยาเข้ามาภายในหมู่บ้านจะมีผู้ชายคนนี้มาด้วยเสมอ แจ้งกับรปภ.หมู่บ้านว่าเป็นสามีของอดีตภรรยาและเป็นเจ้าของบ้าน โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นตัวนายเคนจึงรู้สึกกลัวเพราะอดีตภรรยาได้ขู่ว่าจะดำเนินคดีหลายอย่างจึงได้เข้ามาปรึกษากับตนว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

 

 

 

นายเคน กล่าวอีกว่า ทรัพย์สินตอนนี้ที่หายไปมีเงินสดในตู้เซฟ 20 ล้านบาท นาฬิกา กระเป๋า และสร้อยไข่มุก ส่วนอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยบ้านย่านพระราม 2 ย่านบางแค และสุขุมวิท 31 เป็นบ้านพัก รวมถึงคอนโดย่านสาทร โดยชื่อผู้ถือครองทั้งเป็นอดีตภรรยาของตนเพราะตนเป็นคนต่างชาติจึงไม่สามารถถือครองได้โดยรวมมูลค่าทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้เกิน 100 ล้านบาท

 

 

 

นายเคน กล่าวด้วยว่า ทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของร่วมกันแต่ตัวอดีตภรรยาแจ้งว่า “เงินฉันก็คือเงินฉัน เงินคุณก็คือเงินฉัน” ทั้งอดีตภรรยายังข่มขู่และบอกอีกว่าจะไล่ตนกลับประเทศ หากไม่กลับจะให้เจ้าหน้าที่มาจับให้ติดคุก โดยแจ้งว่าตนเป็นคนไทย แต่พวกคุณเป็นต่างชาติหากจะฟ้องฉันมีอำนาจพอที่จะทำให้คุณติดคุก ทั้งนี้เนื่องจากตนไม่รู้ถึงกฎหมายในประเทศไทยจึงเป็นกังวลว่าจะทำอะไรผิดหรือเปล่า? ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยโทรหาภรรยาให้มาพูดคุยเรื่องทรัพย์สิน แต่อดีตภรรยาไม่รับสายพร้อมกับส่งข้อความมาว่า “คุณเรียกทนายมาคุยกับฉันได้เลย” เมื่อถามว่าเคยทุบตีอดีตภรรยาหรือทำให้ช้ำใจหรือไม่ นายเคน กล่าวว่า ตนไม่เคยทำร้ายอดีตภรรยา มีแค่ปากเสียงกันเท่านั้น

 

 

 

ด้านมารดาของนายเคน กล่าวว่า ก่อนหน้าตนรักและเอ็นดูลูกสะใภ้คนนี้มาก เนื่องจากที่บ้านมีนายเคนเป็นลูกแค่คนเดียวไม่เคยมีลูกสาวจึงได้รักและเอ็นดูสะใภ้เป็นพิเศษ ขนาดนายเคนและอดีตภรรยทะเลาะกันตนก็เข้าข้างสะใภ้ตลอด แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ตัวลูกสะใภ้ก็เปลี่ยนไปไม่ถามถึงหลานชาย ตนจึงคิดว่าเริ่มแปลกๆ และเสียใจมากกับการกระทำของลูกสะใภ้

 

 

 

ส่วนแนวทางการต่อสู้นั้น นายษิทรา กล่าวว่า มีสองแนวทางในการต่อสู้หลังจากนี้โดยจากที่ทราบอดีตภรรยานั้นทีทรัพย์สินจากหลายทางและจะทำการเช็คเส้นทางการเงิน และจะพาตัวนายเคนไปแจ้งความเรื่องการลักทรัพย์ที่อดีตภรรยาจะเอาไป และในวันดังกล่าวได้เข้ามาพร้อมสามีใหม่จึงจะแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์นั้นก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะเป็นของที่หามาได้ขณะจดทะเบียน

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube