แม่ร้องมูลนิธิรณรงค์ พ่อหื่นซ่อนกล้องแอบถ่ายคลิปลูกสาว
แม่ไม่ทน! ร้อง มูลนิธิรณรงค์ หลังพบว่า พ่อสุดหื่น! ซ่อนกล้องแอบถ่ายคลิปลูกสาว ส่งต่อกลุ่มลับ – แจ้งความตำรวจบอกไม่เข้าข่ายอนาจาร เพราะยังไม่สัมผัสตัว
วันนี้ (19 เม.ย. 67) ที่ มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นางบี (นามสมมุติ) แม่วัย 33 ปี พาลูกสาววัย 17 ปี เดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานมูลนิธิรณรงค์ธงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจับได้ว่าพ่อแท้ๆ วัย40ปี ซ่อนกล้องในห้องน้ำ-ห้องนอนแอบดูลูกสาววัย 17 ปี และหลานสาว ช็อกซ้ำเจอแชทคุยกับคนอื่นกลุ่มสายหื่นส่งภาพจากกล้องพร้อมแชทบอกรอจังหวะลักหลับลูกสาว โดยสองแม่ลูกนั้นแจ้งความแล้ว แต่ตำรวจบอกว่าไม่เข้าข่ายอนาจาร จึงเดินทางเข้าร้องเรียนที่มูลนิธิฯ ในวันนี้
นางบี (นามสมมุติ) แม่ของผู้เสียหาย เผยว่า พ่อของน้องมีพฤติกรรมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากลูกเห็นว่าพ่อแอบตั้งกล้องในห้องนอนตนจึงไปถามพ่อว่าพ่อตั้งกล้องทำไม พ่ออ้างว่าเป็นการส่องพฤติกรรมลูกสาวว่าทำไมนอนดึก ตนก็เอะใจและบอกให้ลูกสาวระวังตัวระหว่างอาบน้ำให้ใส่ผ้าถุง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมาตำรวจได้มีการเข้าไปตรวจที่บ้านเนื่องจากพ่อของลูกมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดจึงมีการค้นบ้านและค้นข้อมูลทางโทรศัพท์และพบคลิปของลูกสาวอาบน้ำโดยบังเอิญ
ซึ่งพอเจ้าหน้าที่ตำรวจพบตนก็รู้สึกตกใจและช็อค โดยพบคลิปมากกว่า 20 คลิป ซึ่งเป็นรูปสาว ตนจึงเข้าไปค้นในโน๊ตบุ๊กต่อเจอคลิปที่จำนวนมาก ตั้งแต่ปี 64-65ปี ซึ่งทำให้ตกใจกันทั้งบ้าน เพราะเจอทั้ง คลิปลูกสาวของตน, ภรรยาเก่า, รวมถึงหลานสาวที่บ้านด้วย แต่ที่ช็อคกว่านั้นตำรวจพบแชทว่าพ่อของน้องมีพฤติกรรมชอบช่วยตัวเองโชว์ลูก
และมีพฤติกรรมต้องการล่วงละเมิดทางเพศลูกอยู่ตลอดเวลา มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ชอบแชทไปคุยกับกลุ่มเพื่อนที่มีรสนิยมใกล้เคียงกันว่ารอจังหวะลูกเผลอจะเข้าไปลักหลับลูก ตนจึงพาลูกเดินทางไปแจ้งความที่สภ.แก้งสนามนาง จังหวัดนครราชศรีมา แล้วเจ้าหน้าที่กลับไม่สามารถแจ้งข้อหาได้เนื่องจากขัดองค์ประกอบหนึ่งอย่างคือ พ่อนั้นไม่เคยมีการสัมผัสร่างกาย จึงไม่สามารถแจ้งความเป็นอนาจารได้
นางบี (นามสมมุติ) แม่ของผู้เสียหาย เผยอีกว่า ตนพยายามพาลูกกลับไปอยู่ด้วยเนื่องจากตนแยกทางกับพ่อ?ของลูก แต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูก ซึ่งในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พ่อก็ขังลูกไว้ที่บ้านไม่ให้ไปไปเที่ยว เป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยว และตัวพ่อเองมีพฤติกรรมชอบทำร้ายข้าวของ และชอบทำร้ายร่างกาย
จากนั้นนายรณรงค์ ได้มีการโทรพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ร้อยเวร สภ.แก้งสนามนางเพื่อถามความคืบหน้าในเรื่องนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันหลังจากพูดคุยว่า ณ ตอนนี้จากข้อมูลที่ได้มานั้นสามารถเอาผิดได้แล้ว โดยหลังจากนี้จะมีการ ขยายผลเบื้องต้นว่าคลิปที่ผู้เป็นพ่อนั้นส่งต่อไปทำอะไรต่อในโซเชียลหรือไม่? หรือมีการขายหรือไม่อย่างไรเพราะต้องสืบสวนสอบสวนกันต่อ แต่ตอนนี้ยังไม่พบสลิปการโอนเงินแต่พบกลุ่มลับในการส่งคลิป 18+ ไปให้เพื่อนในกลุ่มดู โดยหลังจากนี้ทางมูลนิธิฯ จะมีการประสานงานไปที่พม. โคราช
เพื่อเยียวยาจิตใจของทั้งครอบครัว ส่วนทางคดีนั้น?นายรณรงค์ เผยว่า เบื้องต้น ข้อหาจะมีคดีอนาจารตาม ป.อ.มาตรา278 ซึ่งมีโทษจำคุก10ปี ปรับไม่เกิน 200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม หากพบการกระทำผิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
