อดีตผู้การฯชลบุรี เข้ารับทราบข้อหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯแล้ว ขีดเส้นใต้ เสี่ยบอย-ลูกน้อง 4 โมงเย็น ไม่มีจะออกหมายจับ
วันนี้ (16 ก.พ.67) อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เดินทางเข้ารับทราบข้อหาเพิ่มเติมในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ในคดีรีดทรัพย์เจ้าของเว็บพนัน 140 ล้านบาท หลังขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังไม่เดินทางเข้ามารับทราบข้อหาจํานวน 4 คน โดยในจำนวนนี้มี 3 คนเลื่อนมาเป็นวันนี้ คือ อดีตผู้การฯชลบุรี ซึ่งเดินทางเข้ามาแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และนาย “บอย พัทยา” กับลูกน้องอีก 1 คน นัดหมายไว้จะเข้ามาในเวลาประมาณ 14.00 น. แต่หากภายใน 16.00 น. ทั้งคู่ยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนจะดำเนินการออกหมายจับ
ด้านนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะทำงานทั้งฝ่ายตำรวจและอัยการ จะประชุมใหญ่เพื่อสรุปการแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทุกคนและจะประชุมแนวทางการสรุปสำนวนว่าคณะทำงานเห็นควรสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายใดบ้าง โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้เร็วกว่ากำหนดเดิม 60 วัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีผู้ต้องหาบางส่วนยื่นร้องขอความเป็นธรรมนั้นทางคณะทํางานจะพิจารณาอย่างไร นายวัชรินทร์ ระบุว่า คณะทำงานชุดนี้ให้ความเป็นธรรมเต็มที่กับทั้งผู้ต้องหาและผู้เสียหาย ไม่ได้รับฟังพยานหลักฐานเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นผู้ต้องหาสามารถยื่นพยานหลักฐานเข้ามาได้ทั้งหมด หากเป็นพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อคดี / แต่หากเป็นการยื่นขอความเป็นธรรมในประเด็นเดิม หรือไม่มีประเด็นสำคัญ เช่นการอ้างว่าผู้ต้องหาคดีนี้เป็นข้าราชการ ดังนั้นคณะทำงานชุดนี้ไม่มีอำนาจการสอบสวน แต่เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ซึ่งเรื่องนี้จริงๆ แล้ว แม้จะมีความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน แต่หากมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ พนักงานสอบสวนก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพียงแต่ต้องแจ้งให้ ป.ป.ช. ทราบ ดังนั้นประเด็นลักษณะนี้ถือเป็นการตีความข้อกฎหมายที่คณะทำงานพิจารณาได้ จึงไม่มีประเด็นให้ต้องสอบสวนเพิ่ม แต่หากอ้างพยานหลักฐานอื่นหรือมีเอกสารอื่นเข้ามา คณะทำงานยินดีที่จะรับฟัง
ยกตัวอย่าง เช่น กรณีตำรวจไซเบอร์ 2 นายที่ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานจากคดีนี้ แต่ไม่ได้ถูกแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เพราะทั้ง 2 นายไม่ได้เดินทางไปที่จังหวัดชลบุรี คณะทำงานได้ออกหมายเรียกไปเพราะมีความจำเป็นต้องแจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในบางประเด็นให้ครบถ้วน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ทั้ง 2 นายก็มาให้การตามนัด ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและยื่นพยานเอกสารเพิ่มเติมให้คณะทำงานด้วย ซึ่งคณะทำงานก็รับไว้พิจารณา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
