“กัน จอมพลัง” บุกทบ.พาเหยื่อทหารพรานสาว ร้องขอความเป็นธรรม
“กัน จอมพลัง”บุกทบ. พาเหยื่อสาวทหารพราน ร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกรุ่นพี่แฟน ยศส.อ. พยายามบุกข่มขืน พร้อมเดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมแต่กลับถูกตำหนิและบังคับให้ลาออกจากงาน เผย เจ็บปวดหมดศรัทธา ผู้บังคับบัญชา
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลังและทีมงาน พร้อมด้วยเหยื่อผู้เสียหาย น.ส.ชลลดา เจริญรัมย์ ทหารพรานหญิง อายุ 28 ปี เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมต่อ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เจ้ากรมจเร และโฆษกกองทัพบก ที่ กองบัญชาการกองทัพบก
โดยกล่าวว่า การมาร้องเรียนน้องทหารพรานอยู่ชายแดนใต้มานานกว่า 7-8 ปี น้องมารักษาตัวที่พิษณุโลก อยู่ในบ้านพักของค่ายทหาร มีรุ่นพี่ทหารของแฟนน้องบุกเข้ามาที่บ้านตอนกลางคืน ช่วงที่แฟนไม่อยู่ออกไปปฏิบัติภารกิจพยายามกระทำชำเรา น้องต่อสู้จนหนีรอดออกมาได้ หลังเกิดเหตุไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่หน่วย แต่กลับได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับทางหน่วยงาน หลังจากนั้นเรื่องเงียบไป จึงไปร้องที่หน่วยของคู่กรณีก็เงียบไปเช่นกันไม่ได้รับความคืบหน้า
“น้องจึงมาร้องต่อที่แอฟของทหารบก ผ่านไป 3 วันมีคนนำเอกสารมาให้เซ็นใบลาออก ซึ่งเจ้าตัวน้องรู้สึกว่าถูกกระทำ ได้รับผลกระทบ ส่วนผู้ก่อเหตุกับได้เลื่อนยศตำแหน่ง หลังเกิดเรื่องไม่มีใครออกมาปกป้อง ทั้งที่น้องออกไปทำงานแถวชายแดนใต้ปกป้องพี่น้องประชาชน ทำงานตามคำสั่งนาย แต่กลับไม่มีใครเห็นคุณงามความดี กลับกลัวเสียภาพลักษณ์องค์กร วันนี้ตนประสานมาที่ทบ.โดยทุกคนยินดีให้ความช่วยเหลือและจะรับข้อมูลและจะช่วยเหลือน้องอย่างเต็มที่“
ด้าน น.ส.ชลลดา เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ว่ารุ่นพี่ของแฟนเข้ามาหาตนที่บ้านพัก แฟนของตนไปปฏิบัติราชการไม่อยู่ที่ห้อง ในวันเกิดเหตุเหมือนมีคนมาขยับประตูห้อง ตนก็ตั้งสติและตัดสินใจเปิดประตูออกไป เข้าไปที่ห้องครัวหยิบมีดมา ตอนนั้นเกิดความกลัว มือหนึ่งแหวกผ้าม่านออกมา อีกมือถือมีด จนพบว่าเป็นรุ่นพี่ของแฟนจึงไม่ได้คิดอะไร เราก็รู้สึกสบายใจขึ้นเพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จัก พอเปิดประตูเข้ามาก็กลับมาพูดขอกอด พยายามดึงแขนเพื่อที่จะข่มขืน ตนรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก พยายามผลักและต่อสู้ส่วนผู้ก่อเหตุยังเปิดเสื้อท้าทายให้ตนใช้มีดแทง เมื่อสบโอกาสตนจึงวิ่งไปในครัวแล้ววิ่งไปที่หน้าบ้านเพื่อตะโกนให้คนเรียก ระหว่างนั้นก็สื่อสารถึงแฟนให้หาคนมาช่วย และซ่อนตัวหลบไว้ในห้องนอน ตอนนั้นรู้สึกกลัว สติจะแตก ร้องไห้กระวนกระวาย กระทั่งรุ่นพี่อีกคนมาช่วย
น.ส.ชลลดา กล่าวอีกว่า ตนได้ไปร้องเรียน และไม่ได้รับความเป็นธรรมถามถูกบีบให้บังคับเซ็นใบลาออก แถมหน่วยของต้นสังกัดของผู้กระทำ ส่งคนกลางมาไกล่เกลี่ย แต่กลับมาตำหนิต่อว่าตนว่า พวกผู้หญิงเรื่องมาก ชอบมาร้องเรียน ส่วนตัวอยากเป็นกระบอกเสียง เพราะในค่ายแห่งหนึ่ง(ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ) ใน จ.พิษณุโลก แห่งนี้มักเกิดเหตุลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตน เพราะตนมา รักษาตัวที่ค่ายนี้ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 66 อยู่ได้ 5 เดือนเกิดเรื่อง ส่วนสาเหตุของโรคซึมเศร้านั้นเป็นผลมาจากการที่ตนทำงานอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประกอบกับเหตุการณ์แรกของตนเสียชีวิต
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ทหารจาก ข่าวสารศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารกองทัพบก เชิญตัวมายังห้องรับรอง 411 สลก.ทบ. โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร จากศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ ลงมารับเอกสารร้องเรียน และซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมาณ 40 นาที ก่แนที่จะรวบรวมเอกสารร้องเรียนทั้งหมดนำเรียน ผู้บัญชาการทหารบกดำเนินการต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





