อัจฉริยะ ร้องอสส.ขอทราบผลตั้งคกก.สอบคดีบุกรุกป่าเครือเปรมชัย

 

 

 

อัจฉริยะ ร้องอัยการสูงสุด ขอทราบผลการตั้งกรรมการสอบคดีบุกรุกป่า 6,948 ไร่ เครือเปรมชัยกับพวก ชี้ จะฟ้องหาก อสส.ไม่ดำเนินการให้

 

 

 

 

 

วันนี้ (2 พ.ย. 66) เวลา 14.30 น. ที่ สำนักงานอัยการสูงสุดแจ้งวัฒนะ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุดเพื่อขอทราบผลการตั้งกรรมการสอบคดีบุกรุกป่า6,948ไร่ เครือเปรมชัยกับพวกซึ่งทราบว่าเสร็จสิ้นแล้วและมีการชี้มูลความผิดของอดีตอัยการสูงสุดและระดับอธิบดีคดีพิเศษกับพวกในความผิดวินัยร้ายแรง โดยมีนายจิตภัทร พุ่มหิรัญ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่งกรุงเทพใต้ 3 รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือแทน

 

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนทราบมาว่าคณะกรรมการชุดที่ 2 ตามคำสั่ง 420/2566 ในสมัยของนางสาวนารี ตัณฑเสถียร ได้ตั้งคณะกรรมการ 5 คน ในการตั้งกรรมการสอบทางวินัยในคดีการบุกรุกป่า 6948 ไร่ ในคดีของบริษัท ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เครือเปรมชัย กับพวก โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นสั่งฟ้อง และคณะพนักงานอัยการคดีพิเศษมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง

 

 

 

 

 

ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นแย้งสั่งฟ้อง และต่อมาอัยการสูงสุดสมัยนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว ซึ่งคดีดังกล่าวพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องทั้งอัยการคดีพิเศษ และอัยการสูงสุด ได้สั่งคดีที่ส่อไปในทางไม่สุจริต มีเจตนาให้การช่วย บริษัท ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เครือเปรมชัย กับพวกให้พ้นผิดไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย

 

 

 

 

 

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตนทราบว่าคณะกรรมการชุดที่ 2 ตามคำสั่ง 420/2566 มีความเห็นสรุปสำนวนที่สรุปแล้วว่ามีพนักงานอัยการพิเศษ และอัยการสูงสุดในการสั่งคดีดังกล่าวมีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง จึงร้องขอให้อัยการสูงสุดแจ้งผลการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงคำสั่งที่ 420/2566 คดีซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก (บริษัทเครือเปรมชัยถูกกล่าวหารุกป่า) ที่คณะกรรมการคณะที่ 2 มีผลสรุปความผิดทางวินัยร้ายแรงกับข้าราชการระดับสูงของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่คณะกรรมการได้มีความเห็นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะนำผลดังกล่าวไปดำเนินการทางอาญา ซึ่งหากสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการให้กับให้ตน ตนจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป