fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” หารืออัยการเตรียมส่งสํานวนคดี “แอม ไซยาไนด์”

Featured Image
บิ๊กโจ๊กพบอัยการหารือคดี “แอม ไซยาไนด์” เตรียมส่งสำนวนสัปดาห์หน้า ยันยังไม่พบทนายเอี่ยวการตายของเหยื่อ

 

 

วันนี้ (8 มิ.ย.66) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ได้เดินทางมาเข้าพบ นาย ปรีชา สุขสงวน อธิบดีสำนักงานคดีอาญาสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อหารือเกี่ยวกับคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “แอม ไซยาไนด์”

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า โดยเบื้องต้นมีการเข้าหารือกับ อธิบดีสำนักงานคดีอาญาสำนักงานอัยการสูงสุดใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็เสร็จสิ้นโดยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่เฝ้ารออยู่บริเวณด้านล่างสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าการพบกับท่านอธิบดีในวันนี้เป็นการหารือเพื่อวางแผนในการทำสำนวนคดีของแอมไซยาไนด์ ให้มีความรัดกุมรอบคอบ และกระชับในเรื่องของระยะเวลาขั้นตอนในการพิจารณาสำนวนเพื่อให้สามารถสั่งคดีได้อย่างรวดเร็ว เพราะทุกครั้งพนักงานสอบสวนกว่าจะมีการส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอาการก็กินระยะเวลาฝากขังไปจนถึงผัดที่ 5 หรือผัดที่ 6 ซึ่ง จะส่งผลกระทบไปถึงพนักงานอัยการที่มีเวลาให้ตรวจสอบสำนวนน้อยเกินไป

 

ซึ่งเบื้องต้นจากการพูดคุยในวันนี้ทำให้ทราบว่าทางอธิบดีมีการสั่งตั้งคณะทำงานของพนักงานอัยการเพื่อใช้ในการทำงานในสำนวนคดีนี้ขึ้นเป็นพิเศษหนึ่งชุด โดยคณะพนักงานอัยการชุดนี้จะทำหน้าที่ในการพิจารณาสำนวนคดีนี้โดยเฉพาะเพื่อทำให้ระยะเวลาในการตรวจสำนวนของพนักงานอัยการ มีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น

 

และในส่วนของพนักงานสอบสวนคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีทั้งหมดทั้ง 15 คดีที่แบ่งเป็นคดีฆาตกรรม 14 คดีและแบ่งเป็นคดีพยายามฆ่า 1 คดี จะสามารถส่งพนักงานอัยการได้ภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ยังรวมถึงการดำเนินการทางคดีกับคนสนิททั้งสองคนคืออดีตสามีที่เป็นตำรวจตำแหน่งรองผู้กำกับการและทนายความคนสนิทร่วมด้วย

 

โดยหลังจากนี้เมื่อมีการส่งสำนวนคดีของแอมให้กับพนักงานอัยการแล้วทางตำรวจก็มีการขยายผลดำเนินการในเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ที่แอมมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้เล่น รวมถึงตัวยาไซยาไนด์ ที่เบื้องต้นต้องมีการจัดการกับทางโรงงานและเจ้าหน้าที่ของกรมโรงงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการละเลยจนทำให้เกิดการเสียหายเกิดขึ้น

 

รอง ผบ.ตร. ยังระบุยืนยันอีกว่าทั้งนี้ในส่วนของตัวแอมโทษสูงสุดที่ต้องได้รับในครั้งนี้คือประหารชีวิต เนื่องจากมีการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ต่างข้อหาจำนวนมาก ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อหาที่ถูกแจ้งจะมีมากถึง 80 ข้อตามที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอหรือไม่เพราะตนเองจำไม่ได้ต้องกลับไปตรวจสอบก่อนแต่ในส่วนของโทษสูงสุดคือการประหารชีวิตแน่นอน เว้นแต่ว่าตัวผู้ต้องหาจะไปให้การรับสารภาพ ในชั้นการไต่สวน ซึ่งโทษก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลอีกครั้ง

 

ทั้งนี้ในส่วนของตัวทนายความเบื้องต้นขณะนี้ยังยืนยันว่ายังไม่พบความเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อ ซึ่งข้อหาที่ดำเนินการแจ้งข้อหาไป คือเรื่องของการปลอมแปลงเอกสารและร่วมกันทำลายหลักฐานในคดี ซึ่งการดำเนินการหลังจากที่มีการส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการแล้วทางตำรวจจะมีทำหนังสือไปถึงสภาทนายความเพื่อให้พิจารณามรรยาททนายความอีกครั้ง

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube