ร้อนวิชา! แฮกโค้ดฝาเครื่องดื่มชูกำลัง แลกเงินดิจิตอล
ตำรวจ ปอท. นำกำลังบุกจับแฮกเกอร์ เจาะระบบโค้ดฝาเครื่องดื่มชูกำลังกว่า 3แสนครั้ง นำไปแลกเป็นเงินดิจิตอล
วันนี้(23 มี.ค. 66) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 บก.ปอท. และ พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปอท นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯและนนทบุรี เพื่อจับกุม นายสมประสงค์ อายุ 29 ปี และ นายวัชนันท์ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาขบวนการแฮกเกอร์เจาะระบบแฮกข้อมูลโค้ดเงินรางวัลดิจิทัล ตามหมายจับในข้อหา “ร่วมกันทุจริตหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, ร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ, ร่วมกันทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกรบกวนหรือเสียหาย และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”
โดยจุดแรกเข้าค้นที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านบึงกุ่ม พบนายสมประสงค์ นอนพักผ่อนอยู่กับน้องชาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมพร้อมตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง อาวุธปืนบีบีกัน 1 กระบอก และฝาเครื่องดื่มจำนวนหนึ่ง ส่วนจุดที่สองเป็นห้องพักแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ พบนายวัชนันท์ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และ หลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ตรวจสอบ
สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีตัวแทนจากบริษัททรูมันนี่ จำกัด และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เข้าแจ้งความที่ บก.ปอศ. หลังมีคนร้ายแฮกระบบขโมยข้อมูลโค้ดรหัสใต้ฝาเครื่องดื่มพาวเวอร์ไทเทเนียม กว่า 300,000 ครั้ง ก่อนนำโค้ดดังกล่าวไปสแกนขึ้นเงินรางวัลผ่านทรูมันนี่วอลเลท จำนวน 60,000 ครั้ง เบื้องตรวจสอบพบความเสียหายประมาณ 5 หมื่นบาท หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส กระทั่งพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายสมประสงค์ และ นายวัชนันท์
จากการตรวจสอบพบนายสมประสงค์ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาโท คณะเทคโนโลยีสารสนเทศของสถาบันแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง จึงมีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบซอฟแวร์คอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี โดย นายสมประสงค์ ยอมรับว่า ตนเป็นผู้แฮกระบบของบริษัทผู้เสียหายจริง ส่วนนายวัชนันท์ เพื่อนสนิท เป็นผู้นำไปสแกนแลกเงินรางวัล และนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน ส่วนสาเหตุที่ทำไปก็เพื่อต้องการหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากยังไม่ได้งานอะไร ประกอบกับอยากทดลองแฮกเกอร์ตามสิ่งที่เรียนมา ไม่ได้คิดว่าจะสร้างความเสียหายอะไรมากไปกว่านี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอท.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





