Home
|
อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” แถลงปิดคดี “น้องต่อ”

Featured Image
บิ๊กโจ๊ก แถลงปิดคดีเด็ก 8 เดือนหายปริศนา เชื่อว่า เสียชีวิตแล้ว มั่นใจพยานหลักฐาน – คำให้การ เอาผิดแม่เด็กได้ เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการเร็วๆ นี้

 

 

วันนี้ (22 มี.ค. 66) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจภูธรภาค 7 และคณะ แถลงสรุปคดีเด็กชายวัย 8 เดือนหายจากบ้านที่ บ้านคลองท่อ ตำบลหินมูล อำเภอบางหลวง จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ รวมระยะเวลา 46 วัน

 

สรุปผลการค้นหาร่างเด็กชายวัย 8 เดือน เจ้าหน้าที่ได้แบ่งการค้นหาเป็นภาคพื้นดิน พื้นน้ำ และอากาศ ซึ่งค้นหาจากจุดเกิดเหตุตรงบริเวณคลองท่อถึงบริเวณแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเชื่อมกับคลองท่อรัศมีซ้ายขวา 5 กิโลเมตร

 

การสำรวจภาคพื้นดินได้มีการใช้กำลังพลเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง อส. พร้อมด้วยมูลนิธิต่างๆ และชาวบ้านรวมกว่า 200 นาย ทั้งยังมีการใช้เครื่องมือพิเศษเป็นสุนัขดมกลิ่น ค้นหาพื้นที่รัศมี 2 กิโลเมตรจากจุดเกิด ซึ่งเป็นบ้านของนาย “พ” สามีน.ส. “น” แม่เด็ก จากค้นหาเจ้าหน้ายังไม่พบร่างและเบาะแสอื่นที่น่าจะเป็นของเด็กชายวัย 8 เดือน

 

ส่วนการสำรวจภาคพื้นน้ำ ได้มีกำลังพล ตำรวจน้ำ กู้ชีพหินมูล กรมเจ้าท่า มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์และเอกชน ร่วมค้นหาตามแนวแม่น้ำท่าจีนรัศมีซ้ายขวา 5 กิโลเมตร และมีการใช้เครื่องมือพิเศษ รถแบคโฮ เรือแบคโฮ เรือยาง ชุดปฏิบัติการใต้น้ำและเครื่องโซนาร์ แต่ก็ยังไม่พบร่างและเบาะแสอื่นที่น่าจะเป็นของเด็กชายวัย 8 เดือน

 

ส่วนการสำรวจภาคพื้นอากาศ เจ้าหน้าที่ได้ใช้กำลังพลตำรวจน้ำ สำนักข่าวช่อง8 และสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ โดยพื้นที่ค้นหาคือรัศมี 2 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ และมีการใช้เครื่องมือพิเศษคือโดรนตรวจจับความร้อนแต่ก็ยังไม่พบร่างและเบาแสอื่นที่น่าจะเป็นของเด็กชายวัย 8 เดือน

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบทังหมดทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ทั้งจากพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ ไม่ว่าจะเป็นพยานแวดล้อมจากนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จนทำให้แม่เด็กยอมจำนนต่อหลักฐานจนรับสารภาพว่าเป็นคนทำให้ลูกเสียชีวิตและนำร่างเด็กไปทิ้งไว้ที่แม่น้ำใกล้หมู่บ้าน จึงเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับแม่เด็กได้ โดยไม่จำเป็นต้องพบร่างของเด็ก

 

ก็สามารถที่จะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้ จึงจะยุติการค้นหา เพราะที่ผ่านมาเคยมีคดีที่ไม่พบร่างผู้เสียชีวิตก็เอาผิดกับผู้กระทำความผิดได้

 

ส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่าคดีมีความล่าช้าเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ช่วงแรกของการเกิดเหตุแม่เด็กให้การว่าเห็นชายเสื้อเหลืองมาอุ้มลูกออกจากบ้าน ทำให้ตำรวจหลงทางจนทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าช้า เนื่องจากแม่เด็กให้การเท็จมาโดยตลอด

 

ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเกิดจากตัวแม่เด็กเพียงคนเดียว แต่จะโทษใครไม่ได้นอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่ต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะจากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าแม่เด็กดูแลลูกไม่ดี ยากจน ไม่มีใครให้พุ่งพา ไม่พร้อมมีลูก จนต้องค้าประเวณี

 

แต่กลับไม่มีหน่วยงานเข้าไปดูแล ตำรวจเป็นเพียงหน่วยงานปลายทางเท่านั้น ซึ่งต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทั้ง สภ.บางหลวง ภูธรภาค 7 ที่ระดมกำลังมาร่วมกันสืบสวนสอบสวน จนได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด นำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งหมดได้ ซึ่งจะเร่งดำเนินการส่งฟ้องให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนได้

 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาแม่เด็ก 8 เดือน 4 ข้อหา ได้แก่ การกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , กระทำใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลคดีเปลี่ยนแปลงไป

 

โดยเป็นการกระทำเพื่ออำพรางคดี , ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย , รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือ เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173 , 199 , 291 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ วรรค 2 เบื้องต้นศาลอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว วงเงิน 9,000 บาท

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube