fbpx
Home
|
อาชญากรรม

“พิพัฒน์” เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว

Featured Image
พิพัฒน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เน้นฝึกอบรมอาสาสมัคร และฝึกไลฟ์การ์ดช่วยชีวิตทางน้ำ

 

 

 

วันนี้ (11 ม.ค. 66) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน การประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว กิจกรรมสร้างเครือข่ายและเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ณ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพ

 

นายอารัญ บุญชัญ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การคาดการณ์สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2566 ว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาของเที่ยวบินจากจีน และความรวดเร็วของการเปิดให้จำหน่ายแพคเกจทัวร์ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวอาเซียนจะยังเป็นตลาดหลักที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุด

 

ส่วนนักท่องเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง และไต้หวันจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องที่ระดับร้อยละ 60 – 80 สำหรับนักท่องเที่ยวระยะไกล คาดว่าจะฟื้นตัวที่ร้อยละ 70 – 80 โดยจะมีความท้าทายเนื่องจากปัจจัยด้านการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวที่ล่าช้าของอุตสาหกรรมการบินจะส่งผลกระทบต่อตลาดระยะไกล นอกจากนี้ จากการที่ประเทศจีนจะปรับลดระดับมาตรการการจัดการโรคโควิด-19 ส่งผลให้คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านคน เป็น 25 ล้านคน เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 2.38 ล้านล้านบาทที่ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนหน้านี้

 

ซึ่งการประชุมจะเน้นย้ำการเตรียมความพร้อมและแก้ไขปัญหาด้านมาตรการความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและมีผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย

 

ทั้งนี้ ประเด็นด้านความปลอดภัยประกอบไปด้วย หลายมิติ ทั้งในส่วนของความปลอดภัยด้านการเดินทาง ความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ความปลอดภัยของแหล่งท่องเที่ยว ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือแม้แต่ความปลอดภัยทางด้านการเงินในการทำธุรกรรมเพื่อจับจ่ายใช้สอยต่างๆ ซึ่งแต่ละมิติล้วนมีการเชื่อมโยงระหว่างกัน การให้การดูแลและบริหารจัดการด้านความปลอดภัย

 

จึงจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือเป็นสำคัญ ทุกภาคส่วนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยศักยภาพของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม รอยยิ้มและการต้อนรับที่น่าประทับใจของคนไทย หากนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในทุกมิติจะยิ่งเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ตัดสินใจกลับมาท่องเที่ยวประเทศไทยอีกครั้ง

 

ด้านนายพิพัฒน์ กล่าว เรื่องของการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 4 ของโลก แต่ก็มีชื่อเสียงเรื่องการสูญเสียของนักท่องเที่ยว ที่มาเสียชีวิตในประเทศไทยก็ติดในลำดับความปลอดภัยที่ท้ายๆ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ซึ่งการที่มาหารือในวันนี้เพื่อที่จะยกระดับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

 

โดยเป็นการบูรณาการในหลายกระทรวงตั้งแต่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดยตนอยากให้มีการฝึกอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา และการฝึกไลฟ์การ์ดเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำอีกด้วย

 

ด้านเรื่องของค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับค่าธรรมเนียมทางบกและทางอากาศจะเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวที่เท่ากัน โดยจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมในกรณีดังต่อไปนี้ หากถือบัตรที่เดินทางเข้าออกเพื่อมาใช้แรงงานมาเช้าเย็นกลับ, ข้าราชการในท้องถิ่นชายแดน , หากถือพาสปอร์ตแต่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย , แต่วิธีการคือจะเก็บครอบคลุมไปก่อนแต่เมื่อแสดงตนว่าเข้ามาทำงานในประเทศไทยจะคืนเงิน ให้ เพราะเบื้องต้นเข้ามาไม่สามารถแยกได้

 

 

แต่ถ้าหากมาทำงานหรือมาติดต่อธุรกิจ กับบริษัทในเมืองไทยต้องเก็บค่าธรรมเนียมเพราะถือว่ามาทำธุรกิจและท่องเที่ยว ไม่ได้ชำระภาษีให้กับประเทศไทยรัฐบาลไทย เพราะฉะนั้นเขาเก็บในอัตราเดียวกันคือ 300 บาท ไม่ว่าทางอากาศทางบกทางน้ำเก็บในอัตราเดียวเพื่อทำให้ไม่ยุ่งยาก ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าหากมาทางเรือสำราญหรือทางน้ำแบบมาเช้าเย็นกลับจะไม่เก็บค่าธรรมเนียม โดยจะพยายามให้ใช้ภายใน 1 มิถุนายน 2566 นี้

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube