“ทัพเรือ” ปูพรมค้นหาลูกเรือที่ยังสูญหาย
โฆษก ทร. เผยเตรียมตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุเรือล่ม พร้อมยืนยันจะเร่งช่วยเหลือลูกเรือให้ครบทุกคน
วันนี้ (19 ธ.ค. 65) พลเรือเอกปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เผยถึงสถานการณ์ล่าสุดของเรือรบหลวงสุโขทัย ว่า หลังจากที่กองทัพเรือทราบว่าเรือรบหลวงสุโขทัย เริ่มมีการเอียงตัวลงเป็นมุม 80 องศา จึงส่งเรือหลวงกระบุรีที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ แต่ด้วยวานนี้สภาพคลื่นลมค่อนข้างรุนแรงประกอบกับเป็นเวลากลางคืนจึงยากต่อการช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือลูกเรือได้จำนวนทั้งสิ้น 73 นาย
สำหรับการค้นหาทางกองทัพเรือได้ดำเนินการตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา โดยมีเรือหลวงกระบุรีและเรือหลวงอ่างทองรวมถึงเครื่องบินซีฮอว์ก 2 ลำ และดอร์เนียร์ เพื่อช่วยในการค้นหาบนฟ้า ซึ่งทางกองทัพเรือได้วางแผนการค้นหา โดยการคำนวนจุดที่เรืออับปางลง ประกอบกับกระแสลม กระแสน้ำ และเวลาเพื่อตีกรอบในการค้นหาเป็นพื้นสีเหลี่ยมประมาร 16 คูณ 16 จากนั้นจะใช้เรือและเครื่องบิน ช่วยกันหาลูกเรือที่สูญหาย โดยยืนยันจะหาให้ครบทุกนาย
โดยทาง โฆษกกองทัพเรือ กล่าวเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่เรืออับปางลง ว่า จากการรายงานของทางเรือหลวงสุโขทัยเบื้องต้นระบุว่า เกิดจากสภาพคลื่นลมที่รุนแรง ทําให้น้ำทะเลไหลเข้าไปในเครื่องกําเนินไฟฟ้าจึงเป็นเหตุทำให้เครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมเรืออย่างรวดเร็วจนเรือเอียงและอับปางลงในที่สุด พร้อมยืนยันว่าโดยปกติเรือรบของกองทัพเรือจะสามารถสู้กับคลื่นทะเลในระดับความสูง 5-6 เมตรได้สบาย ซึ่งสาเหตุที่เรืออับปางในครั้งนี้น่าจะมีสาเหตุอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ทางกองทัพเรือได้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เรืออับปางแล้ว หากสรุปได้แน่ชัดจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพเรือยืนยันว่า จำนวนกำลังพลที่อยู่บนเรือไม่ใช่ตัวชี้หรือกำหนดว่าจะทําให้เรืออับปาง เนื่องจากเรือหลวงสุโขทัยนั้นเป็นเรือที่ติดจรวดหรือเรียกว่าเป็นเรือที่มีประสิทธิภาพทางการรบสูง ซึ่งไม่จําเป็นต้องใช้กำลังพลมาก โดยบรรทุกเต็มอัตราประมาณ 80 คน แต่ไม่ใช่ว่าเกิน 80 คนแล้วจะทำให้เรืออับปางเพราะนี้ไม่ใช้เรือโดยสาร แต่จํานวน 80 กว่าคนที่ตั้งไว้คือเมื่อเรือมีการโหลดอาวุธยุทโธปกรณ์เต็มกำลังจึงจะสามารถบรรจุกำลังพลได้ประมาณ 80 กว่าคน ซึ่งครั้งนี้เป็นการลาดตะเวนจึงไม่มีการโหลดอาวุธ จึงยืนยันได้ว่าจำนวนคนไม่ใช่ปัจจัยในการทําให้เรือล่มอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามภายหลังช่วยลูกเรือได้ครบทั้งหมดทางกองทัพเรือจะเร่งกู้ซากเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมา เพราะในเรือรบนอกจากอาวุธประจำเรือแล้วยังมีน้ำมันที่ค้างอยู่ในเรือ เพราะหากน้ำมันรั่วขึ้นมาจะเกิดผลกระทบหนักต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งจึงจำเป็นที่จะต้องกู้ขึ้นมาโดยเร็ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
