จี้การไฟฟ้าตรวจสอบจนท. หลังจับขโมยแอบใช้ไฟหลวงนาน 2 ปี
“สมศักดิ์” จี้ การไฟฟ้านครหลวงตรวจสอบ จนท. หลัง ดีเอสไอ จับขโมย ลักลอบใช้ไฟหลวงนานกว่า 2 ปี เสียหายกว่า 500 ล้าน เผยนี้แค่ 1 เปอร์เซนต์
วันนี้(7 ธ.ค. 65) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณันท์ ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวบริเวณด้านหน้าอาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีปฏิบัติการปราบโกงสายฟ้าฟาด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ในการขุดเหรียญดิจิทัล โดยเฉพาะเหรียญบิทคอยน์ ในพื้นที่ จ.นนทบุรี 39 แห่งและกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง รวม 41 จุด โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดเป็นชาย 1 ราย อายุ 30 ปี และยึดเครื่องขุดเงินดิจิทัลรุ่นเอส 9 ได้ประมาณ 3,500 เครื่อง ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดได้ลักลอบติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลแห่งละประมาณ 100 เครื่อง โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ส่งผลให้รัฐเสียหายค่าไฟฟ้าเดือนละ 20-30 ล้านบาท รวม 2 ปีกว่า 500 ล้านบาท และจากการตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าในอาคารพาณิชย์ปริมาณสูงมาก ส่งผลให้มีอุณหภูมิสูงตามไปด้วย ซึ่งการใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้ทำให้มีอาคารพาณิชย์ถูกไฟไหม้ไปแล้วประมาณ 3 แห่ง จึงถือว่าอันตรายมาก
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบผู้กระทำความผิด ที่มีรายได้จากการขุดเงินดิจิทัล 35 บาทต่อเครื่องต่อวัน ทั้งหมด 3,500 เครื่อง ทำให้มีรายได้สูงถึง 4.2 ล้านบาทต่อเดือน รวม 2 ปีมีรายได้กว่า 100 ล้านบาทโดยไม่เสียค่าไฟฟ้าแม้แต่บาทเดียว แต่รัฐกลับสูญเสียรายได้หลายร้อยล้านบาท
ด้านผู้ต้องหา ยอมรับว่าลักลอบขุดบิทคอยน์มากว่า 2 ปี มีลูกน้องอีกประมาณ 20 คน เป็นกลุ่มคนไทยทั้งหมด โดยอุปกรณ์และข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้มีเพียง 1%เท่านั้น ดังนั้นหากคำนวนแล้วถ้ามีการกระทำผิด 100% รัฐจะเสียหายค่าไฟฟ้ากว่า 5 หมื่นล้านบาท
“จากปฏิบัติการที่เกิดขึ้น ผมได้ตั้งข้อสังเกตุว่า การลักลอบใช้ไฟฟ้าในช่วง 2 ปีนี้ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงทราบเรื่องหรือสงสัยหรือไม่ และ เป็นไปได้หรือไม่ที่เรื่องดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องกับการขึ้นค่าไฟฟ้าของประชาชนจนส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน และประเทศเสียหาย จึงขอฝากไปยังการไฟฟ้านครหลวงและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ และขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเหตุต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที”นายสมศักดิ์ กล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





