Home
|
บันเทิงไทย

สรุปดราม่า #โตโน่ ว่ายน้ำข้ามโขง ชาวเน็ตฟาดสร้างภาระมากกว่าเดิม

Featured Image

          เป็นเรื่องราวใหญ่โตจนได้สำหรับ โตโน่ ภาคิณ นักร้องนักแสดง ที่ประกาศจะตั้งกิจกรรมว่ายข้ามแม่น้ำโขงเพื่อระดมทุนบริจาคให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แต่กลับถูกชาวเน็ตแอนตี้อย่างรุนแรง ว่าจะเป็นการสร้างภาระมากกว่าช่วยเหลือ 

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร วันนี้เรามาสรุปให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว

โตโน่ กับภารกิจว่ายน้ำข้ามโขง

          สำหรับโครงการ One Man And The River  หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ เป็นโครงการจากความตั้งใจของ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ นักร้องและนักแสดง ที่ต้องการระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลรัฐ

          โดย โตโน่ จะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงตัวเปล่าไปกลับระหว่าง 2 ประเทศระยะทางรวม 10 กว่ากิโลเมตร เพื่อเปิดรับบริจาคและนำเงินบริจาคนี้ ไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครพนม ของฝั่งไทย และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน ของฝั่ง สปป.ลาว

          ซึ่งก่อนหน้านี้เองในปี 2563 โตโน่ ก็เคยทำกิจกรรมแนวนี้มาด้วยเหมือนกันเป็นการ ว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ (สุราษฎร์-สมุย ระยะทาง 82 กิโลเมตร แต่ก็ไม่สำเร็จเนื่องจากร่างกายได้รับบาดเจ็บ ประกอบกับโควิดระบาดทำให้ทุกอย่างต้องยุติลง)

          ในตอนแรกเสียงของชาวเน็ตก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทั้งฝ่ายที่ออกมาชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าตัวจนยอดบริจาคทะลุ 1 ล้าน 5 แสนบาทเป็นที่เรียบร้อย

           ขณะที่ก็มีอีกฝ่าย ไม่เห็นด้วยกับการว่ายดังกล่าว และเตือนสติว่า โตโน่ไม่ใช่พระมหาชนกที่จะว่ายได้ไกลขนาดนั้น และอีกอย่างช่วงจัดกิจกรรมก็ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดเส้นทาง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นการสร้างภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์มากกว่าเดิม

          ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่คุณโตโน่ได้ประกาศไปก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรกอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์มากที่สุดก็ในตอนที่ โตโน่ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการแฉ

          โดยในช่วงนึงของรายการ ดีเจมดดำ ได้ถามโตโน่ว่า “ไม่กลัวหรอ เพราะช่วงนี้น้ำกำลังเชี่ยว น้ำกำลังสูง ตอนนี้ฝนก็เข้าพายุก็มา มันจะอันตรายไปไหม”

            แต่โตโน่ก็บอกกลับว่า “ผมเชื่อว่า คุณหมอ คุณพยาบาล เสี่ยงกว่าผมหลายเท่า สิ่งที่เขาทำงานอยู่ ถ้ามันอันตรายลงไม่ได้ เสี่ยงกับทุกคนเราไม่ทำอยู่แล้ว”

          โดยเฉพาะประโยคที่บอกว่า คุณหมอและพยาบาลเสี่ยงกว่าหลายเท่า นี่แหละค่ะ ทำให้คนไม่เห็นด้วยมากขึ้นกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ

          จนท้ายที่สุดเกิดเป็น แฮชแท็ก #โตโน่ ให้ชาวเน็ตออกมาซ้ำเติมถึงความไม่เหมาะสมของกิจกรรมดังกล่าวผ่านช่องทางทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กกันอย่างล้นหลาม

ไลฟ์ชี้แจง “ผมเหนื่อยจังกับความดังของผม”

          ซึ่งหลังจากมีกระแสเข้าถึงตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ โตโน่ เองต้องออกมาไลฟ์สุดชี้แจงอีกครั้งทันที โดยระบุว่า 

“ไม่ต้องห่วงผมเลย ผมเข้าใจดีในหลายๆ เรื่อง และผมเข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เพื่อใคร เพราะอะไร ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ ขอบคุณที่ช่วยบริจาค ขอบคุณที่เราจะช่วยหมอ พยาบาล ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ผมเป็นตัวเชื่อมเล็กๆ กับกิจกรรมบ้าๆ ของผม ตอนนี้สำหรับผม มันเซอร์ไพรส์มาก ยอดบริจาคทะลุล้าน สำหรับผมไม่ว่าจะกี่บาทกี่แสนมันเป็นกำลังใจหมดเลยกับการจะช่วยเหลือ

ผมโตมาจนถึงอายุขนาดนี้ ผมเห็นเยอะแล้วกับคนพูด คอมเมนต์ แต่ผมเชื่อว่าโลกจะดีขึ้นได้โดยการลงมือทำ ไม่ว่าใครจะถนัดแบบไหน ผมสะดวกและถนัดที่จะทำแบบนี้ ผมก็พยายามช่วยในสิ่งที่ผมพอจะทำได้ ส่วนใครจะตัดเอาภาพไหนประโยคไหน หรือจะตัดเสียงผมไปใช้ ไม่เป็นไรเลยครับ ผมเข้าใจว่าผมต้องโดน ผมกำลังดังในทวิตเตอร์ ผมเหนื่อยจังเลยกับความดังของผม

          เหมือนกับว่า โตโน่ เองก็ยังคงที่จะต้องการทำกิจกรรมดังกล่าวต่อไป ไม่ใช่แค่เป็นการช่วยเหลือทีมแพทย์พยาบาล แต่ถือว่ายังเป็นตัวช่วยให้คนสนใจเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ส่วนประโยคที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วโดนชาวทวิตตัดเป็นข้อความไปวิจารณ์ เจ้าตัวก็ไม่สนใจ เนื่องจากตัวเองกำลังเป็นเป้าสายตาอยู่นั่นเอง

          ทำให้จุดไฟชาวเน็ต รุมสาปกันยกใหญ่อีกทีโดยคอมเมนต์ถึงนักร้องหนุ่มคนนี้ในทำนองว่า อย่าเพิ่งมั่นใจในความดังของตัวเองขนาดนั้น ที่คนเขามาห้ามกันก็เพราะมันเป็นการสร้างภาระให้กับคนอื่นจริงๆ 

        โตโน่ อย่ามาเป็น นักบุญด้วยทุนคนอื่น หากต้องการบริจาคให้โรงพยาบาลทำไมไม่ใช้เงินตัวเอง หากกิจกรรมจบไป คนที่ได้หน้า ได้ชื่อ ก็มีแต่โตโน่คนเดียวเท่านั้น

          พร้อมกับยกตัวอย่างเคสของ ตูน บอดี้แสลม ที่เคยออกมาวิ่งรับบริจาคจากใต้ไปเหนือ มีเจ้าหน้าที่ตามเป็นพรวน สุดท้ายตัวเองกลับเป็นฮีโร่ไปคนเดียว ได้เครื่องราช ได้รักษาฟรี สวัสดิการพรีวิลเลจต่างๆ แต่คนตัวเล็กตัวน้อยยังต้องตื่นตีห้าไปรอคิวโรงพยาบาลรัฐเหมือนเดิม

          รวมถึงมีอีกหลายคอมเมนต์ที่ระบุว่า โตโน่ กล้าที่จะใช้ชื่อโครงการว่า one man and the river ทั้งๆกิจกรรมทั้งหมดต้องมีทีมแพทย์ทีมพยาบาลคอยดูแล มีเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดคอยว่ายน้ำตามไปด้วย 

          นี่ยังไม่รวมถึงคนเบื้องหลังที่ต้องลงน้ำไปวางทุ่น วางอาหารให้โตโน่พักระหว่าทางอีก หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะมีใครเห็นใจเท่า โตโน่ เกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า?

          ซึ่งงานนี้ ไม่ใช่แค่ชาวเน็ตทั่วไปที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ยุ้ย ญาติเยอะ อดีตนักร้องลูกทุ่งเองก็ออกมาฟาดเหมือนกัน โดยบอกว่า

          “จริงๆ แล้ว เขามีสะพานให้ข้ามนะคะ หรือมันดูง่ายไป งั้นใช้เรือแล้วพายไปเอง แต่ขอคนดีย์พายไปคนเดียวนะคะ ดูพยายามขึ้นมานิดนึงทันที เปิดรับบริจาคได้ล่ะแหละ (ไม่มีใครต้องเสี่ยงให้ลำบาก คนอื่นปลอดภัย ถ้าตายก็ตายคนเดียวดีไหมคะ)”

          พร้อมกับที่ ริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช หรือ ริท เดอะสตาร์ นักร้องบ้านดาวรุ่นเดียวกับโตโน่ก็ออกมาโพสต์ข้อความลอยๆเช่นกัน ว่า 

“เหมือนอยู่ในสภาวะ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เห็นแล้วไม่สบายใจ คือความเห็นคนรอบข้างเรา และความรู้สึกเรามันบอกอีกอย่าง แต่ความเชื่อความมุ่งมั่นที่จะทำของคนที่เรารักมันเป็นอีกอย่าง และเราก็รู้จักเค้าดีว่า ไม่ว่าใครจะพูดยังไงก็ไม่สนใจ เพราะเค้าเชื่อในสิ่งที่เค้าทำ แต่เราก็รักและห่วงเค้า”

แม้จะไม่ได้ใส่ว่าพูดถึงใคร แต่จากเหตุการณ์ในช่วงนี้ชาวเน็ตก็อ๋อกันเป็นแถวๆว่าสื่อถึงเพื่อนในแก๊งค์แน่นอน

บุ๋ม ปนัดดา แซะพวกคนด่าไม่เคยช่วยอะไร

          ตัดภาพมาที่ฝั่งสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ของโตโน่ ด้านพิธีกรหญิงฝีปากแซ่บอย่าง บุ๋ม ปนัดดา ก็ออกมาแสดงความเห็น โดยได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ชาวเน็ตที่วิจารณ์โตโน่และดารานักร้องที่ทำกิจกรรมการกุศลต่างๆ ว่า

“ดาราหลายคนจะโดนคำหนึ่งก็คือ นักบุญทุนคนอื่น หลายคนจะบอกว่า เขาได้หน้า เขาดัง ก็เขาอุตส่าห์ใช้ชื่อเสียงเขาเนอะ ถ้าเกิดคุณไม่ชอบเขา ไม่อยากบริจาค คุณทำเองเลย คุณไปวิ่งได้เลย คุณไปว่ายน้ำได้เลยหรือคุณจะดำนามาราธอน 30 วันได้เลย

“ไอ้พวกที่ด่านี่นะ ไม่เคยบริจาคไม่เคยช่วยใคร”

          ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่ดาราเป็นคนดัง และมีพื้นที่สื่อมากกว่าคนทั่วไป เวลาจะประชาสัมพันธ์เชิญชวนทำอะไรก็เป็นเรื่องง่ายที่หลายคนจะให้ความสนใจง่ายกว่า

          แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฝั่งที่ไม่สนับสนุนก็ยังให้ความเห็นตอกกลับมาในทำนองเดิมว่า ถ้าอยากบริจาคก็ควรที่จะบริจาคเองไม่ให้เดือดร้อนใคร

          คนดังประเทศอื่น อย่างนักร้องศิลปินเกาหลี เวลาบริจาคก็ใช้เงินตัวเองไม่ใช่เงินคนอื่น ไม่เห็นต้องมาทำอะไรให้วุ่นให้วายแบบที่ไทยเลย

          ส่วนประเด็นของ คุณบุ๋ม ที่หาว่าคนด่าไม่เคยบริจาคไม่เคยช่วยใคร นั่นก็เป็นเพราะ คนที่คอมเมนต์ด่าบริจาคให้กับโรงพยาบาลโดยตรงเลยต่างหาก ไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ประกาศให้คนอื่นรู้

          รวมถึงยังมีข้อความหลายเสียงออกมาชี้แจง ประเด็นเรื่องการบริจาค ที่มันไม่ควรเกิดเลยด้วยซ้ำ เพราะยิ่งมีก็เหมือนเป็นการตอกย้ำความล้มเหลวการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลลง ยิ่งชี้ไปถึงปัญหาเชิงโครงสร้างที่นับวันจะเละเทะมากกว่าเดิม

          และน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทุกคนควรมองเห็น จะบริจาคหรือไม่บริจาคก็ได้ แต่ต้องรู้ด้วยว่าด้านนี้ยังมีปัญหาอยู่ ถ้าเป็นดารา เป็นกระบอกเสียงประชาชนจริงๆ ก็ควรเรียกร้องเรื่องแบบนี้ไปด้วยก็คงจะดี

          ท้ายที่สุดนี้ ฝั่ง โตโน่ เองก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำกิจกรรม one man and the river นี้ต่อไปเพื่อช่วยมอบเงินให้กับโรงพยาบาลทั้งสองฝั่ง โดยจะเริ่มจริงในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ 

          ถือเป็นการจบเรื่องจบราวสำหรับ #โตโน่ ทุกคนคิดเห็นยังไงกันบ้างกับเรื่องของการรับบริจาค ต้องตามกันต่อว่าในเหตุการณ์จริงจะเกิดเรื่องอย่างไรบ้าง และเจ้าตัวจะสามารถว่ายน้ำได้สำเร็จหรือไม่

          ส่วนใคร อยากติดตามดราม่าร้อน ประเด็นดังแบบไม่ตกเทรนด์ ก็อย่าลืมมาอ่านกันต่อที่เวปไซต์ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube