จับแก๊งเวียดนาม ตะเวนล้วงกระเป๋ารูดบัตรเครดิต นทท.
รอง ผบช.น. แถลงจับแก๊งชาวเวียดนาม ตะเวนขโมยกระเป๋าและบัตรเครดิต นทท. ขณะ ตม. ยันเข้มงวดคัดคนเข้าเมืองป้องกันเหตุอาชญากรรม
วันนี้(15 มี.ค. 67) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผู้บังคับการตํารวจนครบาล 6 พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมชาวเวียดนาม 3 คน ก่อเหตุตระเวนขโมยกระเป๋าเงินนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก่อนนําบัตรเครดิตมารูด ตามสถานที่ท่องเที่ยวสําคัญ
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.พระราชวัง รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นหญิงชาวมาเลเซีย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวภายในวัดพระแก้ว ถูกมิจฉาชีพก่อเหตุขโมยกระเป๋าซึ่งภายในมีเงินสดจํานวน 6,000 บาท และบัตรเคดิตจํานวน 4 ใบ หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงทําการสืบสวนจนพบรูปร่างหน้าตาตำหนิรูปพรรณ และ แหล่งที่เช่าพัก รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุ ซึ่งพบว่าคนร้ายทั้งหมดเป็นชาวเวียดนามทั้ง 3 คน โดยอาศัยจังหวะที่คนพลุกพล่านในการก่อเหตุ
หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คน ได้เดินทางออกประเทศไปและกลับเข้ามาอีกครั้งเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งพบว่ากลุ่มคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านดินแดง จึงนํากําลังไปตรวจสอบพบคนร้ายทั้ง 3 คนกําลังนั่งกินหมูกระทะอยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมหมายจับศาลอาญาในความผิดฐาน “ร่วมกัน ลักทรัพย์ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไมให้เห็นหรือจำหน้าได้ ในสถานที่บูชาสาธารณะ“
โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 ยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวและเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ก่อนนําไปค้นที่พักพบของกลางเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันก่อเหตุ พร้อมเครื่องรูดบัตรจำนวน 2 เครื่อง และกระดาษปริ้นสลิปใบเสร็จ จำนวน 19 ม้วน จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย และขายผลเพิ่มเติม เนื่องจากพบความเชื่อมโยงกับคดีที่เคยจับกุมก่อนหน้านี้
ขณะที่ พ.ต.อ.ปริญญา รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ระบุว่า เมื่อปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามเดินทางเข้ามากว่า 1 ล้านขึ้น โดยมีการปฏิเสธไปจํานวนมากกว่า 3 พันคน เนื่องจากขอเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวแต่ไม่มีเงินติดตัวหรือเงินยังชีพตามประกาศของกระทรวงมหาไทย รวมถึงหากไม่มีโปรแกรมการท่องเที่ยวก็จะปฏิเสธเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตํารวจตรวจคนเข้าเมืองยังคงเข้มงวดในเรื่องของการคัดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นภายในประเทศต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
