สายไหมเข้าช่วยเหลือ เด็ก 6 ขวบ โดนแม่เลี้ยงตบบาดเจ็บ
สายไหมต้องรอด ลงพื้นที่พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ เหตุแม่เลี้ยง โหด ตบลูกสาว วัย 6 ขวบ จนได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มิ.ย.2566 ร.ต.อ.ปรวุฒิ ส้มแป้นหวาน รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางเสาธง พร้อมด้วย นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด น.ส.กุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เดินทางยังชุมชนกระโจมทอง ซอย 5 แขวงบางพรหม เขตตลิ่งชัน เพื่อช่วยเหลือ น้องเอม เด็กหญิงวัย 6 ปี ที่ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวต่อว่า และเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนก็ได้ทะเลาะกันกับภรรยา เพราะตนเอาลูกชายคนเล็กมาเลี้ยงดูเอง เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก จึงทำให้เกิดปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้ตนนำคลิปมาโพสต์เพื่อให้ทุกคนเห็นพฤติกรรมของภรรยาที่รุนแรง เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยตีลูกเลยทั้งลูกของตนและลูกติดของภรรยา
ด้าน น.ส.สุนันทา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ภรรยาซึ่งเป็นแม่เลี้ยง กล่าวว่า คลิปดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น ตนได้ตีลูกเลี้ยงเพราะเด็กพูดจาไม่เพราะ พูดจาทะลึ่งเกินวัย ทำให้ตนไม่พอใจ ขู่ไปว่าถ้าพูดอีกจะตบปาก แต่เด็กก็ยังพูดอีก ตนจึงใช้มือตบปากไป ส่วนคลิปที่ถูกบันทึกนั้นน้องสาวของสามีที่เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปไว้ เพื่อไปบอกกับสามีว่า ลูกถูกทำร้าย
น.ส.สุนันทา กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนและสามีก็ได้มาคุยและเคลียร์ปัญหากัน ซึ่งตนยอมรับว่าทำรุนแรงกับลูกเลี้ยงไปจริง ด้วยอารมณ์ ปนกับอารมณ์ที่ต้องการจะประชดประชันสามีด้วย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้พูดคุยกันจบแล้ว นอกจากการตบปากในครั้งนั้นแล้วก็มีตีอีกบ้าง แค่ตีก้นเท่านั้นเพื่อสั่งสอน ตนมองว่าการที่สามีเอาคลิปที่เคลียร์กันไปแล้วมาลงอีก เพราะว่าทะเลาะกันที่ตนอยากนำลูกชายคนเล็กกลับมาเลี้ยง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยตีลูกที่ติดของเธอมาหรือไม่ น.ส.สุนันทา กล่าวว่า ไม่เคยตีรุนแรง และเมื่อถามกลับอีกว่า หากสามีมาตีลูกติดของเธอ เธอจะรู้สึกยังไง น.ส.สุนันทา กล่าวว่า ก็คงรู้สึกไม่พอใจเช่นกัน ที่มีคนมาทำร้ายลูก
จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงซึ่งเป็นเพื่อนกับพ่อของเด็ก เล่าว่า ที่ผ่านมาเห็นแม่เลี้ยงตีเด็กเป็นประจำในลักษณะแบบผู้ใหญ่ตีเด็ก แต่บางครั้งก็มีตีรุนแรงกว่าปกติ ซึ่งตนเองก็มองว่ารุนแรง เกินไปที่จะสั่งสอนหรือทำโทษเด็ก
ขณะที่ นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อได้รับเรื่องก็ประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือ เพราะเหตุการณ์ได้เกิดแล้วและมีการใช้ความรุนแรงกับเด็กซึ่งไม่เหมาะสม เพราะลักษณะการตี เป็นการตีที่ทรมานเด็ก และแม้ว่าจะมีการเคลียร์กันแล้วของผู้ปกครองแต่ก็จะต้องมีการดำเนินคดี
เช่นเดียวกับทางเจ้าหน้าที่ พม. ที่บอกว่า พฤติกรรมดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วนความผิด คือ การทำร้ายเด็กที่ส่งผลต่อเด็ก และพ่อแม่ทะเลาะกันแล้วส่งผลกระทบต่อเด็ก ซึ่งความผิดสองข่ายนี้จะเข้าความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครอง เด็ก และ พ.ร.บ.ผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว รวมถึง เข้าข่ายทำร้ายร่างกาย ซึ่งหากพ่อเด็กไม่แจ้งความดำเนินคดี ทางเจ้าที่พม.จะเป็นคนแจ้งความเองได้
พ.ต.อ.ศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผกก.สน.บางเสาธง กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญฝ่ายพ่อและแม่เลี้ยงมาสอบสวนโดยได้แยกห้องสอบสวนกัน ซึ่งในคดีดังกล่าวนี้ถึงแม้ว่าจะมีการเคลียร์กันไปแล้วแต่หากมีการแจ้งความก็จะต้องดำเนินคดีใน ข้อหาทำร้ายร่างกาย และตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนเด็กก็จะมีการสอบปากคำร่วมกับนักจิตวิทยาพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่ พม.ร่วมด้วย หลังจากนี้สิทธิในการเลี้ยงดูเด็กทางพ่ออาจจะได้สิทธิไปดูแลเด็กหญิงอายุ 6 ขวบและลูกชายคนเล็กไป หากแม่เลี้ยงถูกดำเนินคดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





