Home
|
อาชญากรรม

ผบ.ตร.สั่งสอบ “การขอและเพิกถอนหมายจับ” ส.ว.ทรงเอ

Featured Image
ผบ.ตร.ยอมรับ สั่งตรวจข้อเท็จจริงการขอออกหมายจับและเพิกถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอ พร้อมย้ำการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจชุดทำคดีเป็นอำนาจ ผบช.น.และไม่ได้เป็นการลดชั้น

 

 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ได้เห็นเอกสารทั้ง 7 แผ่นที่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไท ทำชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ ส.ว.ทรงเอ และการเพิกถอนหมายจับต่อกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมแล้ว จึงสั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ไปของเอกสารดังกล่าว รวมถึงขั้นตอนการขอหมายจับและเพิกถอนหมายจับอย่างละเอียด เชื่อว่าไม่นานสังคมจะได้รับความกระจ่าง

 

ส่วนกรณีที่กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ซึ่ง พ.ต.ท.มานะพงษ์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ ส.ว.ทรงเอ หลังถอนหมายจับ ที่ระบุให้มีการออกหมายเรียก ส.ว.ทรงเอ มาสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาภายใน 15 วันตามเอกสารชี้แจง 7 แผ่น ข้อที่ 19 นั้น ประเด็นนี้ก็ไม่ได้เงียบหายไป

 

แม้จะเข้าร้องทุกข์ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2565 โดยเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างหารือกระบวนการภายในให้เป็นไปตามขั้นตอน พร้อมย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการขอและเพิกถอนหมายจับ ส.ว.ทรงเอนั้น ยอมรับว่า ไม่มีการรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดรับทราบ อีกทั้งขณะนั้นผู้บังคับการศูนย์สืบฯยังเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 3 วัน

 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า การแต่งตั้งโยกย้ายผู้กำกับและรองผู้กำกับสารวัตรที่ทำคดี ส.ว.ทรงเอ โดยเฉพาะสารวัตรและรองผู้กำกับเป็นอำนาจของ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โดยประเมินจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเห็นว่าตำรวจที่ย้ายมาแทนจะสามารถทำผลงานได้ดีกว่า อีกทั้งการย้ายจากสารวัตรศูนย์สืบมาเป็นสารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไทนั้นไม่ใช่เรื่องเสียหายและไม่มีผลทางคดี พร้อมย้ำว่าจะตรวจสอบคดีนายทุนมินลัต ให้กระจ่าง แม้จะเกิดขึ้นก่อนที่ตนเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ตาม

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube