ตำรวจ Pct บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน 10ราย บนคอนโดหรู ย่านสุขุมวิท พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยว และ ศูนย์ pct สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเข้าจับกุม ผู้ต้องหาชาวจีน รวม 10 คน ตามที่ ศูนย์ pct หรือ ศปอส.ตร. ได้รับการประสานจากสถานทูตจีนในประเทศไทย ให้ช่วยติดตามจับกุมชาวจีนที่หนีคดีฉ้อโกงประชาชนผ่านโทรศัพท์ หรือ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” มากบดานอยู่ในประเทศไทย จำนวน 17 คน
ชุดจับกุมสืบทราบจนพบตัวผู้กระทำความผิดหลบหนีมาพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมหรูในซอย สุขุมวิท 39 เขตคลองตันเหนือ จึงขอศาลอนุมัติหมายค้น ทั้ง 4 จุด เบื้องต้นพบตัวผู้กระทำความผิดพร้อมของกลาง คือ ผู้ต้องหา จำนวน 10 คน โดยเป็นบุคคลตามหมายจับจีน จำนวน 6 คน และยึดของกลาง ที่ใช้ทำเว็บพนันออนไลน์กว่า 300 รายการ นาฬิกาหรู จำนวน 14 เรือน /สมุดบัญชี จำนวน 10 เล่ม / รถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์ 1 คัน
โดยพบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้มีการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ร่วมด้วย และพบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 2 คน โดยชุดสืบสวน สตม. และ ศปอส.ตร. จะติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย ต่อไป
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ตำรวจจีนให้ข้อมูลและเบาะแส ว่ามีการกระจายกันพักอยู่ 4 จุด ของผู้ต้องหาคนจีน จึงขอหมายศาลเข้าดำเนินการ เบื้องต้น พบว่า เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับตามที่ทางการจีนต้องการตัว 6 คน ซึ่งนอกจากเข้ามาใช้ที่เกิดเหตุเป็นฐานในการโทรศัพท์ไปหลอกลวงคนจีนที่อยู่ในประเทศจีนแล้ว ยังพบว่ามีการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ 6 เว็บ และมีเว็บสาขาอีกหลายเว็บ ผู้เสียหายที่ถูกหลอกทั้งหมดเป็นคนจีนจำนวนหลายร้อยคนโดยพบหลักฐานซากโทเค่น ที่ใช้ในการหลอกโอนเงินสำเร็จแล้ว และผู้ต้องหาทำลายทิ้งในที่เกิดเหตุจำนวนมาก ทั้งนี้ การสืบสวน ร่วมกับตำรวจจีน ทำให้ทราบตัวคนบงการชั้นที่ 1 กับ ชั้นที่ 2 แล้ว
ส่วนคอนโดที่เกิดเหตุสืบสวนพบว่ามีคนไทยเป็นนอมินีมาเช่าเดือนละ 50,000 บาท กำลังสืบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิดครั้งนี้หรือไม่ โดยผู้ต้องหาบางส่วนมาอยู่แล้วประมาณ 1 ปีบางคนมาอยู่ 5-6 เดือนใช้ที่เกิดเหตุเป็นฐานในการทำผิดมาแล้วประมาณ 1 ปี ไม่ออกนอกห้อง ความเป็นอยู่จะใช้การสั่งอาหารดิลิเวอรีเข้ามารับประทานเพื่อป้องกันความผิดสังเกต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews