Home
|
ข่าว

ไทย พร้อมเต็มร้อย – กัมพูชา ถอน 9 กีฬา ไตรกีฬาปมแรง

บอร์ดประชุมก่อนเข้าซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไทยเจ้าภาพ เจอทั้งปัญหากัมพูชาถอน 9 กีฬา ปมโอนสัญชาตินักไตรกีฬาฝรั่งเศสเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาค้าง 4 เดือน ไทยย้ำความพร้อมส่งทัพลุยซีเกมส์หวังคว้าเจ้าทองในบ้าน

 

การประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 1 อาคารโอลิมปิคไทย อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในครั้งสำคัญที่สุดก่อนเข้าสู่ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งไทยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ เพราะนอกจากจะเป็นการสรุปความพร้อมเชิงเทคนิคของทัพนักกีฬาไทยกว่า 1,531 คน จาก 50 ชนิดกีฬา และอีก 3 กีฬาสาธิตแล้ว ยังเป็นวันที่ “ปมปัญหา” แห่งวงการกีฬาภูมิภาคปะทุขึ้นพร้อมกัน ทั้งเรื่องการถอนตัวของกัมพูชาถึง 9 กีฬา การโอนสัญชาตินักกีฬาไตรกีฬาที่ถูกตั้งคำถาม ไปจนถึงปัญหาค้างคาใจอย่างเงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาที่ล่าช้ากว่า 4 เดือน จนกลายเป็นวาระร้อนกลางห้องประชุม

 

 

หนึ่งในประเด็นที่สร้างแรงสั่นสะเทือนที่สุดในวงการซีเกมส์ปีนี้ คือ รายงานจาก ดาโต๊ะเสรี ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทย และ CEO สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ ที่ระบุว่า “กัมพูชาแจ้งถอนตัวเพิ่มอีก 1 กีฬา คือ วอลเลย์บอล” ทำให้ยอดการถอนสะสมพุ่งเป็น 9 ชนิดกีฬา

 

รายชื่อกีฬาที่กัมพูชาถอนตัวได้แก่ ยูโด ,คาราเต, ปันจักสีลัต ,เปตอง , มวยปล้ำ, วูซู ,ฟุตบอล, เซปักตะกร้ เเละ วอลเลย์บอล เหลือส่งแข่งขันเพียง 12 ชนิดกีฬาเท่านั้น การถอนตัวในช่วงโค้งสุดท้ายสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อระบบการแข่งขันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะกีฬาเซปักตะกร้อ ซึ่งสหพันธ์เซปักตะกร้อโลก ไม่รอช้า ประกาศชี้ชัดว่า กัมพูชาจะถูกแบนจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่ญี่ปุ่นปีหน้า เนื่องจากการถอนตัวหลังยืนยันรายชื่อเข้าสู่ระบบถือเป็นการละเมิดกฎขั้นรุนแรง ส่วนกีฬาประเภทอื่นๆ จะอยู่ในการพิจารณาของสหพันธ์นานาชาติของแต่ละชนิดกีฬา ซึ่งมีโอกาสที่กัมพูชาจะเผชิญโทษเพิ่มเติมเช่นกัน

 

 

ดาโต๊ะเสรีกล่าวอย่างเคร่งเครียด ว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะการถอนตัวหลังยืนยันรายชื่อถือเป็นการทำผิดกฎชัดเจน และกระทบต่อเจ้าภาพอย่างมาก ทั้งตารางแข่งขัน เทคนิค และการจัดระบบภายใน” ฟาก ไตรกีฬาก็เดือดหนัก กัมพูชาส่งนักฝรั่งเศส 10 จาก 11 คน สถิติวิ่ง 10 กม. 28 นาที ทำไทยต้องตรวจสอบด่วน ซึ่งท่ามกลางปัญหาการถอนตัว ยังมีประเด็นร้อนอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ที่ประชุม อึ้ง คือรายงานของ ดร. วิจิตร สิทธินาวิน นายกสมาคมกีฬาไตรกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เปิดว่า รายชื่อนักไตรกีฬากัมพูชาที่ส่งเข้าซีเกมส์มีนักกีฬาต่างชาติถึง 10 คนเป็นชาวฝรั่งเศส และอีก 1 คนเป็นชาวจีน ทั้งโค้ชก็เป็นชาวฝรั่งเศสเช่นกัน สิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายต้องจับตาคือ “สถิติการแข่งขัน” ของนักกีฬาเหล่านี้ ที่อยู่ในระดับท็อปของโลก โดยเฉพาะการวิ่ง 10 กิโลเมตรภายใน 28 นาที ซึ่งเป็นสถิติเทียบเท่านักวิ่งระดับโลกของยุโรปและแอฟริกา ทำให้เกิดคำถามใหญ่ทันทีว่า

-กัมพูชามีการดึงนักกีฬาต่างชาติที่ยังไม่ได้โอนสัญชาติตามกฎหรือไม่?
-การโอนสัญชาติรวดเร็วผิดปกติหรือเกิดการใช้ช่องว่างทางกฎหมาย?

 

ศ.ดร.เจริญ วรรธนะสิน รองประธานโอลิมปิคไทย แนะนำให้สมาคมไตรกีฬาไทยรีบตรวจสอบไปยังสหพันธ์เอเชียและสหพันธ์โลกโดยด่วน หากพบว่าการโอนสัญชาติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ กัมพูชาจะต้องเผชิญโทษเช่นเดียวกับกรณีเซปักตะกร้อ
นายกสมาคมกีฬาไตรกีฬา ยังยืนยันว่า สมาคมไทยจะเร่งดำเนินการทันที และพร้อมยึดหลักเกณฑ์ระดับนานาชาติเป็นหลักในการปกป้องความเป็นธรรมของการแข่งขันซีเกมส์

 

แม้จะมีปัญนาหลายด้าน แต่ไทยยังคงเดินหน้าการเตรียมทัพอย่างเต็มที่ นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย รายงานว่า ทัพไทยได้ยืนยันข้อมูลต่อฝ่ายจัดฯ ครบถ้วนแล้ว รวมถึงที่พัก การเดินทาง และโปรแกรมการแข่งขัน โดย ไทยส่งนักกีฬาเข้าซีเกมส์ปีนี้มากถึง 1,531 คน แบ่งเป็น นักกีฬาชาย 833 คน เเเละ นักกีฬาหญิง 698 คน

 

 

ซีเกมส์ปีนี้มี 6 ชนิดกีฬาที่ต้องแข่งขันก่อนพิธีเปิด ได้แก่ ฟุตบอลชาย-หญิง, ขี่ม้าโปโล, แบดมินตัน, เบสบอล, ฮอกกี้ และแฮนด์บอล โดยฟุตบอลชาย “ไทย พบ ติมอร์ เลสเต” จะเปิดสนามวันที่ 3 ธันวาคม ที่ราชมังคลากีฬาสถาน บรรยากาศความพร้อมของนักกีฬาไทยหลายชนิดถือว่าดีเยี่ยม และหลายสมาคมยังตั้งเป้าคว้าเหรียญทองจำนวนมากกลับบ้าน เพื่อพาไทยลุ้นตำแหน่งเจ้าทองในปีที่เป็นเจ้าภาพ อีก 1 ประเด็นเดือด คือ เบี้ยเลี้ยงค้าง 4 เดือน ปัญหาเรื้อรังที่บั่นทอนกำลังใจ

 

 

นี่คือหนึ่งในปัญหาที่สร้างความกดดันให้ทุกสมาคมกีฬา ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน คือ “เบี้ยเลี้ยงที่ค้างจ่าย” ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการค้างจ่ายตั้งแต่ เดือนสิงหาคม–กันยายน รวมระยะเวลา 4 เดือนเต็มๆ ดาโต๊ะเสรีฯ ชี้แจงว่า งบเดือน ส.ค.-ก.ย. ติดอยู่ที่กรมบัญชีกลาง , งบปี 69 สามารถจ่ายได้แล้ว โดยจะแบ่งจ่าย 2 งวด เเละ สมาคมที่ต้องการรับรวดเดียวตั้งแต่ ต.ค.-6 ธ.ค. สามารถมายื่นคำร้องได้ตั้งแต่ 7 ธันวาคมเป็นต้นไป ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ยืนยันว่าจะเร่งประสานโดยตรงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การจ่ายเงินเป็นไปโดยเร็วที่สุด เพราะกำลังใจของนักกีฬาเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะก่อนการเข้าแข่งขันในฐานะเจ้าภาพ

 

 

ผศ.พิมล ยังเผยถึงแผนหลังซีเกมส์ว่า โอลิมปิคไทยเตรียมเดินหน้าหารายได้จากภาคเอกชนมากขึ้น เพราะงบประมาณจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ “ไม่เพียงพอต่อการพัฒนากีฬาไทยแบบเต็มระบบ” โดยตั้งเป้าสนับสนุนตั้งแต่ระดับเยาวชน ชุมชน จนถึงระดับอาชีพ เพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงในอนาคต ซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ได้ท้าทายแค่ความสามารถของนักกีฬา แต่ยังท้าทายระบบกีฬาไทยทั้งโครงสร้าง ตั้งแต่การบริหาร การเงิน การจัดการแข่งขัน ไปจนถึงการรักษาความเป็นธรรมในวงการกีฬาอาเซียน
ท่ามกลางมรสุมปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การถอนตัวของกัมพูชา , การโอนสัญชาตินักกีฬาไตรกีฬา ,การเงินค้างจ่ายของสมาคมกีฬา และแรงกดดันในฐานะเจ้าภาพ เเต่ ประเทศไทยยังคงยืนหยัดพร้อมเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง แรงสนับสนุนจากแฟนกีฬาไทยทั้งประเทศจะเป็นพลังสำคัญในการผลักดันทัพนักกีฬา 1,531 คนของเราให้ต่อสู้เพื่อคว้าเหรียญทองในบ้านเรา และทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นเวทีแห่งความภูมิใจของคนไทยอย่างแท้จริง

 


 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube