Home
|
ข่าว

เปิดหลักฐานสู่สายตาโลก! ภารกิจ AOT ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

AOT ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา พบร่องรอยกระสุนใหม่ชี้วิถียิงมุ่งบังเกอร์ไทย ขณะกองทัพไทยเร่งเผยข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลกเพื่อยุติการบิดเบือน

 

นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ก็เกิดคำถามมากมายถึงความจริงที่ถูกบิดเบือน กองทัพไทย ได้เดินหน้าเชิญคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ จุดปะทะ การมาถึงของคณะ AOT จึงไม่ใช่แค่การลงพื้นที่ตามปกติ แต่คือการค้นหา “ความจริง” เพื่อนำไปสู่ความสงบในพื้นที่ และเปิดเผยพฤติกรรมของฝ่ายที่บิดเบือนข้อเท็จจริงสู่สายตาประชาคมโลก

 

 

นาวาอากาศเอก สิริบูลย์ ดิษฐแย้ม จากกรมข่าวทหาร นำคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน AOT ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริง ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มีพลจัตวา ซัมซุล ริซาล มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย เป็นหัวหน้าคณะ AOTไทย พร้อมด้วยผู้แทนจากประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รวมทั้งหมด 3ชาติ จำนวน 4 คน ส่วนฝั่งไทย มีพันเอก ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 กองกําลังบูรพา ได้นําคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

 

จุดแรก คือ แนวต้นไม้ ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือของสแลนผ้าใบสีดำฝั่งไทย ลึกเข้าไปแนวป่า ซึ่งพึ่ง ผ่านการ เคลียร์เก็บกู้วัตถุระเบิด พบร่องรอยวิถีกระสุน ถากต้นไม้ก่อนไปทะลุบังเกอร์ด้านหลัง ส่วนบังเกอร์ด้านใน จะเห็นรอยกระสุนปืนที่ทางฝั่งกัมพูชายิงเข้ามาอย่างชัดชัดเจน แบ่งเป็นรอยกระสุนจากต้นไม้ 8 รอย และรอยกระสุนที่บังเกอร์ 2 รอย ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ เก็บพยานหลักฐานโดยรอบจุดเกิดเหตุ

 

เจ้าหน้าที่ได้ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย คือ เลเซอร์ จำลองเห็นแนววิถีกระสุน โดยพลจัตวา ซัมซุล ริซาล มูซา หัวหน้าคณะ AOT ไทย ได้สอบถามถึง รายละเอียดจุดที่ตั้งของทหารกัมพูชาด้วย

 

ผลการตรวจสอบเบื้องต้นมีความชัดเจน พบร่องรอยกระสุนใหม่ โดย หัวหน้าคณะ AOT ได้ยืนยันว่ารอยกระสุนที่พบมากกว่า 10 จุด บริเวณบังเกอร์และต้นไม้รอบข้างนั้น เป็นร่องรอยกระสุนที่เกิดขึ้นใหม่ วิถีกระสุนมุ่งเป้า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ชัดว่าวิถีกระสุนที่ยิงเข้ามาในเขตไทย มุ่งเป้าไปที่บังเกอร์ของเจ้าหน้าที่ ไม่ใช่การยิงแบบสุ่ม ซึ่งตอกย้ำว่าเป็นการกระทำที่จงใจ สร้างสถานการณ์ และหวังสังหารเจ้าหน้าที่

 

เก็บหลักฐานสำคัญ มีการเก็บกระสุนที่ตกค้างอยู่ในบังเกอร์ไว้เป็นหลักฐานสำคัญ การมีวัตถุพยานในมือของคณะสังเกตการณ์ เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับข้อเท็จจริงของไทยอย่างมาก

 

พลจัตวา ซัมซุล ริซาล มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียและ หัวหน้าคณะ AOT ไทย บอกว่า จะนำข้อมูลที่ได้รับ ไปรายงานต่อ กระทรวงกลาโหม ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้เห็นรอยกระสุนจริง กระสุนดังกล่าวเป็นลูกกระสุนใหม่ แต่ขอยังไม่ระบุรายละเอียดของชนิดกระสุนว่า เป็นชนิดใด รวมถึงระยะแนววิถีกระสุน ซึ่งข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด/ รอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของไทยทํางานก่อน ถึงจะยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมดได้

 

ภารกิจของคณะ AOT ในครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าการตรวจสอบ คือการ ยืนยันความจริง เพื่อให้สังคมโลกรู้ว่า ฝ่ายใดคือผู้ที่พยายามรักษาสันติภาพ และฝ่ายใดคือผู้ที่เลือกใช้ความรุนแรงและการบิดเบือนข้อมูล การที่คณะ AOT ได้เห็นกับตา ได้เก็บหลักฐานด้วยมือตัวเอง จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ กัมพูชาไม่สามารถโกหกได้อีกต่อไป และเป็นแรงกดดันที่นำไปสู่การยุติการยั่วยุ อันเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้สันติภาพและความสงบสุขกลับคืนสู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างยั่งยืน


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube