“ส้ม-แดง-น้ำเงิน” แก้ รธน.ใครทำ สสร.หาย… ใครถูกหลอก
กมธ.ชงโมเดลใหม่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ใช้กรรมาธิการแต่งตั้งแทน สสร. ทำเดือดทั้งสภา พรรคประชาชนถูกมองคุมเกมอยู่เหนือกระดาน
ในที่สุด การเดินน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางไปสู่การยกร่างใหม่ ก็มีความคืบหน้า คณะกรรมาธิการ ที่มี “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” จากพรรคประชาชน เป็นประธาน ได้มีมติเกี่ยวกับ องค์กรที่จะมาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเสียงข้างมาก กมธ.จากสีส้ม และสีน้ำเงิน รวมถึง สว.เห็นชอบให้มี “คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ” และตัดทิ้ง สสร.ออกไป โดยมีเพียงการตั้ง “คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน” มาแทน โดยที่ ทั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ กรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มาจากการแต่งตั้งของรัฐสภา
หลังมีข้อสุปเกี่ยวกัลกลไก ในการยกร่างออกมาเป็นแบบนี้ ก็มีการถกเถียง และวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง เริ่ม”ชูศักดิ์ ศิรินิล” จากเพื่อไทย ถามตรงๆ การใช้กลไกแบบนี้ จะเป็นการล็อกสเปค ผู้ยกร่างหรือไม่ และมองว่าการมี สสร. จะช่วยกลั่นกรองและสะท้อนเสียงประชาชนได้ดีกว่า แต่ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” พรรคประชาชนกลับเห็นต่าง
พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาชนลงมติสนับสนุนร่างหลักของพรรคทุกประการ ไม่ได้ตัด สสร. ออก และได้ออกแบบกลไกให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด โดยไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และมองว่า ร่างของเพื่อไทย ที่จะให้มี สสร.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง เสี่ยงต่อการผูกขาดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
พร้อมย้ำไม่ได้ตัด สสร. ออก แต่ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่ม สสร. ที่ไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง ซึ่งในจุดนี้ “สมคิด เชื้อคง” จากเพื่อไทย ระบุว่า ทั้งพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย สมประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ สกัดกั้นพรรคเพื่อไทยได้ แม้พรรคประชาชนรู้ดีว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่อยากแก้ สุดท้ายคนที่ถูกหลอกมากที่สุดคือประชาชน
ย้อนกลับไปที่ต้นทางของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางสำหรับการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในเบื้องต้น หลายฝ่ายต้องการใหม่มีการตั้ง สสร.มาดำเนินการ และมีการยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก่อนที่สภาจะรพิจารณาร่างแก้ไขของ 3 พรรค ประกอบด้วย เพื่อไทย ภูมิใจไทย และพรรคประชาชน โดยที่ ทั้ง 3 พรรคมีสาระสำคัญ คือต้องการให้มี สสร. หรือสภาที่ปรึกษา มาเป็นสารตั้งต้นของการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
โดยที่ พรรคเพื่อไทย เสนอว่าให้มี สสร.151 คน จากการเลือกตั้งของประชาชนแบ่งตามสัดส่วน 300 คน แล้วให้รัฐสภา เลือกเหลือ 100 คน และคัดเลือกอีก51 คน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อมี สสร.แล้ว ให้ตั้งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญอีก 27 คน มาดำเนินการ
ส่วนร่างของภูมิใจไทย เสนอให้มี สสร. 99 คน ที่มาจากการเลือกของสมาชิกรัฐสภา และ สสร. จะเป็นผู้เลือกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคประชาชน เสนอให้มีสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 100 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรง และคณะกรรมาธิการ ยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ซึ่ง ร่างของเพื่อไทย ถูกสภาตีตกไปในวาระแรก ส่วน พรรคประชาชน และภูมิใจไทย ได้ไปต่อ โดยที่ใช้ ร่างของพรรคประชาชน เป็นร่างหลัก
ดังนั้น เมื่อกรรมาธิการ เคาะกลไกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกมา เป็นรูปแบบให้มี กรรมาธิการยกร่าง และ กรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่มาจากการแต่งตั้งของรัฐสภา โดยไม่มี สสร.ก็จะเห็นว่า เป็นรูปแบบ ตามร่างที่พรรคประชาชน นำเสนอมาตั้งแต่ต้น จึงมองว่า การเดินเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในครั้งนี้ เป็นไปตามที่พรรคประชาชนต้องการ ไม่ได้ถูกหลอกอย่างที่บางคนวิพากษ์วิจารณ์ หรือตั้งคำถามว่าตัด สสร.ออกเพราะเหตุผลใด
เพราะทุกอย่างมีคำตอบ และมีคำอธิบายอยู่ในตัวแล้ว ส่วนการเดินเกมของพรรคประชาชน จะบรรลุผลสำเร็จ แก้รัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช.ได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถาม ที่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนแบบ 100%ได้ในเวลานี้ บอกได้เพียงว่า พรรคประชาชน เดินมาถูกทางแล้ว และคุมเกมได้ในระดับหนึ่ง เก็บแต้มไปพอสมควร
โดยที่พรรคเพื่อไทย ตกเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำอีกครั้ง ส่วน “พรรคสีน้ำเงิน” ก็ไม่ได้ติดลบ หรือเสียแต้มแต่อย่างใด แถมยังมีไพ่เด็ด อำนาจยุบสภาอยู่ในมือของ”อนุทิน ชาญวีรกุล” ที่สามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา ดังนั้นภูมิใจไทยจึงยังเป็นต่อ ในกระดานหมากแก้รัฐธรรมนูญ อยู่เหมือนเดิม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





