สแกมเมอร์เขมรเป็นพิษ “ครม.หนู” โบกมือลาแล้ว 1

“วรภัค ธันยาวงศ์” รัฐมนตรีช่วยคลัง ได้ประกาศลาจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และยื่นหนังสือถึง “อนุทิน ชาญวีรกุล” นายกรัฐมนตรี เพื่อขอลาออก และมีผลทันที หลังทำงานได้ไม่ถึง 1 เดือน

 

โดยในหนังสือลาออก ระบุว่า ถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และจำเป็นต้องใช้เวลา ในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย อาจส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจของรัฐบาลโดยรวม

 

“นายกฯ อนุทิน” ก็รับลูกทันที รู้สึกเสียดาย แต่ก็ขอบคุณสปิริตของ “วรภัค” พร้อมกับยืนยันไม่มีใครกดดัน และจะไม่ตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คนใหม่มาแทน เพราะรัฐบาลเวลามีจำกัด โดยวันที่ 31 มกราคม 2569 ก็จะยุบสภาแล้ว พร้อมเชื่อว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะบริหารงานได้

 

จากข้อความในจดหมายลาออกของ “วรภัค” ที่ระบุ ถูกใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ มีความน่าสนใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ เพจดัง เปิดข้อมูล ว่ามีนักการเมืองไทยมีส่วนเกี่ยวข้องเครือข่ายสแกมเมอร์ ฟอกเงิน หลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน

 

ซึ่งชื่อนั้นก็คือ “วรภัค” แต่เจ้าตัวก็ได้ชื้แจงผ่านโซเชียลมีเดียไปแล้ว 1 รอบ ว่ามีขบวนการถ่วงความเจริญของประเทศชาติพยายามดิสเครดิตรัฐบาล ใส่ร้ายป้ายสี และลามไปถึง “ภรรยา”
กล่าวหาว่ารับสินบนเป็นคริปโต โดยยืนยันว่า ไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรใดๆ และไม่เคยมีบัญชีคริปโตใดๆ ทั้งสิ้น

 

และในการแถลงลาออก ก็ย้ำอีกว่า “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ แต่อย่างใด ส่วนที่รู้จักกับ “เบน สมิธ” หรือ “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” เพราะลูกเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ไม่เคยทราบลึก ๆ ว่า “เบน สมิธ” ประกอบธุรกิจอะไร หรือมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างไร แต่พีคสุดๆ คือในการแถลงลาออกจากตำแหน่ง “วรภัค”ทั้งยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ แต่อย่างใด และกลายเป็นคำถามในสังคมว่า ไม่เกี่ยวข้องแล้วลาออกทำไม

 

นอกจาก “วรภัค” ที่ลาออกจากคณะรัฐมนตรีของ “อนุทิน” ไปเป็นคนแรกแล้ว ฝ่ายค้านโดย “สส.รังสิมันต์ โรม” พรรคประชาชน ที่ทำงานติดตามเกี่ยวกับการปราบปรามสแกมเมอร์ และแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ มาอย่างต่อเนื่อง

 

จนล่าสุด ผลักดันข้อมติ ผ่านรัฐสภาโลก หรือ IPU ปราบปรามสแกมเมอร์เป็นวาระเร่งด่วนของโลก ก็เคยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ปลด “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” พ้นเก้าอี้รองนายกฯ และรัฐมนตรีเกษตรฯ

 

เนื่องจากที่ผ่านมา “ร.อ.ธรรมนัส” ให้คณะทำงานของตัวเอง เป็นทนายความให้กับ “บน สมิธ” ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกเฝ้าระวังจากสหรัฐอเมริกา ถูกเชื่อมโยงกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา

 

ตลอดจน เคยเรียกร้องให้ “อนุทิน”สั่งการให้ ปปง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ “เบน สมิธ” และภรรยา, รวมถึง ” ร.อ. ธรรมนัส” และเครือข่าย”ยิม เลียก” หากพบว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ก็ต้องยึดอายัดทันที เร่งให้ตำรวจปราบปราม ดำเนินคดีเครือข่ายทุนเทายึดประเทศโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็เป็นที่มาของการชี้แจงจาก “ผู้กองธรรมนัส” ว่าไม่ใช่มนุษย์สีเทา และมีตังค์ รวยมาก่อนที่จะเล่นการเมือง

 

อย่างไรก็ตาม หลังจาก “วรภัค” ลาออก รวมถึงมีข้อเรียกร้องให้ ปลด “รอ.ธรรมนัส” ก็อาจถูกหยิบยกไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีการพิจารณาเรื่องจริยธรรม และเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรี เหมือนกรณี

 

เมื่อครั้ง “อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน” ถูกร้องแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ก็เป็นได้ ซึ่งครั้งนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จน ครม.ทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ได้แต่หวังว่า “ครม.อนุทิน” จะไม่เดินตามรอยนั้น …

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews