Home
|
ข่าว

นายกฯแถลงผลแก้หนี้บอกคืบหน้ามากไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า57%

Featured Image
นายกฯ แถลงผลสำเร็จแก้ไขหนี้ทั้งระบบ บอกคืบหน้าไปมาก ไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57% มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท ชื่นชมทุกหน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ ปชช. อย่างจริงจัง ย้ำแก้ไขหนี้ทั้งระบบจบรัฐบาลนี้

 

 

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษณะ จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยตัวแทนผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงการณ์แก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายว่า ตามที่ได้มอบนโยบายเมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 และเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.66 กำหนดให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน ทั้งหนี้นอกระบบและหนี้ในระบบ เป็นวาระแห่งชาติ ได้ มอบหมายให้ หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันการเงินของรัฐ บูรณาการและประสานงานร่วมกันในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชนอย่างครบวงจร และแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จให้จบภายในรัฐบาลนี้

 

 

นายกฯ กล่าวว่า ผ่านมาประมาณ 2 เดือน หน่วยงานต่าง ๆ ได้ดำเนินการคืบหน้าไปมาก จึงขอถือโอกาสแถลงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน เพื่อชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงาน ชี้แจงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น พร้อมแนวทางแก้ไข และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่กำลังประสบปัญหา แต่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ให้เร่งติดต่อหน่วยงานภาครัฐ

 

 

เพื่อขอรับความช่วยเหลือต่อไป ซึ่ง ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI ของการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชน ประกอบไปด้วย 3 ข้อหลัก ๆ คือ 1. หนี้สินที่ได้รับการแก้ไขปัญหาจะต้องครอบคลุมทั้งในส่วนหนี้นอกระบบ และหนี้ในระบบไปพร้อมกัน 2. เจ้าหนี้และลูกหนี้ที่มีการลงทะเบียนครบถ้วนจะต้องได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยกระบวนการไกล่เกลี่ย 100% และ 3. ลูกหนี้ที่ผ่านการไกล่เกลี่ยแล้วทุกรายจะต้องได้รับการพิจารณาสินเชื่อพิจารณา หรือปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งได้รับการช่วยเหลือพื้นฟูศักยภาพในการหารายได้

 

สำหรับการแก้หนี้นอกระบบ นายกฯ กล่าวว่า ได้มอบภารกิจให้กระทรวงมหาดไทย มีบทบาทในกระบวนการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบทบาทในการดำเนินคดีอาญา หากเจ้าหนี้มีพฤติการณ์ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นแหล่งเงินทุนช่วยเหลือลูกหนี้ที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ส่วนผลของการแก้หนี้นอกระบบ ตั้งแต่เปิดรับลงทะเบียน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 มียอดผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้มากกว่า 140,000 ราย

 

 

ยอดมูลหนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 9,800 ล้านบาท ยอดของรายการที่มีข้อมูลครบและสามารถเข้ากระบวนการไกล่ได้ 21,000 ราย และไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 12,000 ราย คิดเป็น 57% ของจำนวนที่เข้าสู่กระบวนการ และผลจากการไกล่เกลี่ยทำให้มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท จากยอดผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้มากกว่า 140,000 ราย และสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้วประมาณ 12,000 พันราย ถือว่าหนทางข้างหน้ายังท้าทายมาก สำหรับทุกหน่วยงาน

 

 

นายกฯ กล่าวต่อไปว่า การติดต่อเจ้าหนี้ให้ยินยอมเข้าร่วมกระบวนการไกล่เกลี่ย และทำให้ได้ข้อตกลงที่พึงพอใจของทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ทั้งข้อตกลงในการชำระหนี้ ดอกเบี้ยที่เหมาะสม และถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องที่มีความท้าทายมาก หนึ่งในปัญหาหลัก คือการที่เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลการลงทะเบียนที่ไม่ครบถ้วนของลูกหนี้ หรือเจ้าหนี้ไม่เข้าร่วมกระบวนการไกล่เกลี่ย ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบ ติดตาม และช่วยเหลือ และขอให้ประชาชนเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อประโยชน์ของตัวเองด้วย

 

 

เพื่อสามารถนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง และกระบวนการไกล่เกลี่ยให้เร็วที่สุด ขอให้กำลังใจกระทรวงมหาดไทย ที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และดำเนินการอย่างทั่วถึง ครอบคลุมประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ อาจจะเจออุปสรรคบ้าง เช่น ติดต่อเจ้าหนี้ไม่ได้ เจ้าหนี้ไม่ให้ความร่วมมือ หรือไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ กระทรวงมหาดไทยในฐานะที่เป็นเหมือนบันไดขั้นแรกของการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบครั้งนี้ ยังคงต้องเร่งปฏิบัติงานแบบเชิงรุก เร่งหาตัวเจ้าหนี้ และดำเนินการไกล่เกลี่ยให้บรรลุผลให้มากที่สุด นอกจากนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อขอเข้าร่วมแก้หนี้ได้สะดวกมากขึ้น

 

สำหรับการแก้หนี้นอกระบบ นายกฯ กล่าวว่า ได้มอบภารกิจให้กระทรวงมหาดไทย มีบทบาทในกระบวนการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบทบาทในการดำเนินคดีอาญา หากเจ้าหนี้มีพฤติการณ์ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นแหล่งเงินทุนช่วยเหลือลูกหนี้ที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ส่วนผลของการแก้หนี้นอกระบบ ตั้งแต่เปิดรับลงทะเบียน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 มียอดผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้มากกว่า 140,000 ราย

 

 

ยอดมูลหนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 9,800 ล้านบาท ยอดของรายการที่มีข้อมูลครบและสามารถเข้ากระบวนการไกล่ได้ 21,000 ราย และไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 12,000 ราย คิดเป็น 57% ของจำนวนที่เข้าสู่กระบวนการ และผลจากการไกล่เกลี่ยทำให้มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท จากยอดผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้มากกว่า 140,000 ราย และสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้วประมาณ 12,000 พันราย ถือว่าหนทางข้างหน้ายังท้าทายมาก สำหรับทุกหน่วยงาน

 

 

จากผลที่ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการในระยะเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำงานของทุกหน่วยงาน และความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมด ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ลูกหนี้จะต้องให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลถึงสาเหตุปัญหาที่แท้จริงและมูลหนี้ที่แท้จริง

 

 

รวมทั้งเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ เพื่อให้ปัญหาถูกแก้ไขได้อย่างตรงจุด ตรงประเด็น และทันท่วงที หากลูกหนี้ท่านใดประสบปัญหาหนี้นอกระบบสามารถลงทะเบียนขอแก้หนี้นอกระบบได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตทุกแห่ง หรือผ่านช่องทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากลูกหนี้ประสบปัญหาหนี้ในระบบ ขอให้อย่ารอจนกลายเป็นหนี้เสีย ขอให้รีบเข้าไปหาสถาบันการเงิน เพื่อขอคำปรึกษา ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งสถาบันการเงินเจ้าหนี้มีมาตรการที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

 

 

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป พร้อมกล่าวให้ความเชื่อมั่นว่า การแก้ไขปัญหาหนี้จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube