Home
|
ข่าว

สส.ณัฐพงษ์เปิดแชทถูกแอบอ้างเคลียร์ปมพี่ศรี-เจ๋งดอกจิก

Featured Image

 

 

 

“สส.เท้ง ณัฐพงษ์” เปิดหลักฐานแชทถูกแอบอ้าง เคลียร์ปม ‘ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก’ ขณะพบ 3 ข้อพิรุธ พร้อมยืนยันไม่เกี่ยวคดีตบทรัพย์

 

 

 

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ เท้ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียวส่วนตัว ทั้งเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) เปิดแชตข้อความถูกแอบอ้าง พร้อมชี้แจงโดยสรุป เล่าถึงกรณีการยื่นร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ จรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม ที่มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กมธ.ติดตามงบฯ ในวันที่ 20 ธ.ค. 66 เรื่องการขอให้ตรวจสอบการใช้งบกรมฝนหลวง และการบินเกษตร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีเรียกตบทรัพย์จากอธิบดีกรมการข้าว ที่ถูกล่อซื้อ บุกจับกุม ตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด ซึ่งนายณัฐพงษ์ ไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวด้วยตัวเอง แต่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขาฯ ลงไปรับหนังสือร้องเรียนแทนในวันนั้น เนื่องจากติดภารกิจการจัดงานสัมมนาของคณะกรรมาธิการในวันดังกล่าว โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้นำเรื่องร้องเรียนเข้าที่ประชุมครั้งที่ 11 วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2566 ตนเป็นประธาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมและที่ประชุมได้รับทราบถึงหนังสือร้องเรียนแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการปกติ ซึ่งปัจจุบัน เรื่องของกรมฝนหลวงตามหนังสือร้องเรียน ยังไม่ถูกบรรจุเป็นวาระพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบหามูลเหตุข้อเท็จจริง

 

 

ทั้งนี้ สาเหตุที่ยังไม่บรรจุเรื่องร้องเรียนเข้าเป็นวาระการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ เพราะว่า ก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการในวันที่ 20 ธ.ค. 66 นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) ได้โทรศัพท์มาหาตน (ไม่แน่ใจว่าได้เบอร์โทรศัพท์ผมมาจากช่องทางใด) เพื่อแจ้งและขอให้ตนลงไปรับหนังสือเรื่องร้องเรียนด้วยตนเอง ซึ่งได้ตอบปฏิเสธไป เนื่องจากติดภารกิจการจัดงานสัมมนาของคณะกรรมาธิการพอดี ขณะเดียวกัน ได้มีความพยายามอย่างยิ่งจากนายยศวริศ ชูกล่อม ที่ต้องการให้เป็นกรรมาธิการจากพรรคก้าวไกลเท่านั้น ในการเป็นตัวแทนลงไปรับหนังสือร้องเรียนแทนตน กรณีที่ตนไม่ว่าง

 

 

ซึ่งระหว่างการสนทนากันทางโทรศัพท์ ที่ตนได้โทรกลับไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 2-3 ครั้ง เพื่อต้องการสอบถามข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่มาที่ไปของข้อร้องเรียน เพื่อทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น นายยศวริศ ชูกล่อม ได้มีการอ้างถึง “รัฐมนตรีช่วย” ท่านหนึ่ง ว่าเป็นคนส่งข่าว และส่งข้อมูลนี้มาให้กับเขา เพื่อขอให้ กมธ. ช่วยตรวจสอบ

 

 

จากกรณีดังกล่าว ตนได้สอบถามไปยัง สส. ซึ่งเป็นกรรมาธิการคณะนี้ ที่สังกัดพรรคเดียวกับ “รัฐมนตรีช่วย” ที่ถูกอ้างถึง เพื่อขอให้ทวนสอบยืนยันกับรัฐมนตรีช่วยท่านนั้นว่า ข้อร้องเรียนดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งตนยังไม่ได้รับการยืนยันใด ๆ กลับมา (ตั้งแต่วันนั้น จนถึงในปัจจุบัน) ดังนั้น จากรูปการณ์ทั้งหมด ทำให้รู้สึกถึงข้อพิรุธ 3 ประเด็น ดังนี้

 

(1) ถ้าเป็นเรื่องที่มาจาก “รัฐมนตรีช่วย” จริง ทำไมไม่ฝาก สส. ในพรรคเดียวกัน ซึ่งนั่งอยู่ในกรรมาธิการชุดนี้ เสนอเรื่องเพื่อบรรจุวาระใน กมธ. ได้เลย ทำไมต้องฝากผ่านผู้ร้องมาร้องแทน
(2) หากพิจารณาในมุมการเมือง ก็อาจเป็นไปได้ว่า เป็นเพราะว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลด้วยกัน จึงไม่สามารถออกหน้าได้ อาจต้องอาศัยพรรคฝ่ายค้านในการตรวจสอบฝ่ายรัฐบาลด้วยกันที่อยู่คนละพรรค แต่หากเป็นกรณีนี้จริง เหตุใดผมจึงไม่ได้รับการยืนยันกลับมา จากการทวนสอบข้อมูลหลังบ้าน ผ่าน สส. ร่วมพรรคเดียวกันกับรัฐมนตรีช่วยที่ถูกอ้างถึง
(3) เหตุใด กรณีนี้ถึงค่อนข้างเฉพาะเจาะจง (เรียกได้ว่าถึงขั้นคะยั้นคะยอ) ว่าต้องเป็น สส.พรรคก้าวไกล เท่านั้นลงไปรับหนังสือร้องเรียนแทน

 

จากข้อพิรุธทั้ง 3 ข้อ ทำให้ตนตัดสินใจยังไม่บรรจุวาระเรื่องร้องเรียน จนกว่าจะสืบหามูลเหตุข้อเท็จจริงให้มีความแน่ชัดเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมด ที่อยู่ในส่วนของข้อมูลเพิ่มเติม เป็นข้อมูลที่ถึงแม้ตนจะไม่ได้บันทึกคลิปเสียงสนทนาไว้เป็นหลักฐาน แต่มีบันทึกโทรศัพท์ (Call Log) ที่สามารถตรวจสอบได้จากผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือว่า ตนได้โทรติดต่อกลับนายยศวริศ ชูกล่อม เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และได้โทรหา สส. พรรคเดียวกับ “รัฐมนตรีช่วย” ที่ถูกกล่าวอ้างเพื่อทวนสอบข้อมูลจริง และตนยังได้มีการโทรหา สส.ร่วมพรรคและร่วมกรรมาธิการ เพื่อปรึกษาหารือถึงกรณีดังกล่าวในวันที่ 19 ธ.ค. 66 ราว 3-4 ท่านจริง ซึ่งทุกท่านเป็นพยานให้กับตนได้ หากต้องมีการให้การเพิ่มเติมประกอบการดำเนินคดีดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ผมขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อบุคคลที่สามที่ยังไม่ปรากฏบนหน้าข่าวที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ในตอนนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการพาดพิงและสร้างผลกระทบต่อบุคคลเหล่านั้นโดยไม่จำเป็น และ “ผมขอปฏิเสธ” ถึงข้อกล่าวอ้างใด ๆ ตามภาพในโพสต์ (รูปแชทไลน์) ที่มีการกล่าวอ้างว่าบุคคลผู้นั้นผู้นี้สามารถเคลียร์กับตนได้ สามารถขอให้หยุดการดำเนินเรื่องในคณะกรรมาธิการได้ ฯลฯ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ว่า ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับคดีการเรียกตบทรัพย์ในครั้งนี้ และขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่เจตนาทุจริตอย่างเต็มที่ที่สุด หากมีผู้ใดพยายามใช้คณะกรรมาธิการเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์ ตนพร้อมให้ความร่วมมือในการเข้าให้การ และให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube