Home
|
ข่าว

“ณัฐชา”ชี้คดี”ป้ากบ”อัยการขอศาลได้ พิจารณาอัตราโทษเที่ยบผู้ใหญ่

Featured Image

 

 

“ณัฐชา” ชี้ อัยการร้องขอต่อศาลได้ พิจารณาคดีในรูปแบบพิเศษ เทียบเท่าอัตราโทษของผู้ใหญ่ มองคดีเป็นเรื่องที่รุนแรงสังคมรับไม่ได้

 

 

 

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกฎหมายคุ้มครองเด็กเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ไม่สามารถนำบังคับใช้ให้กับเด็กทุกคน เนื่องจากการกระทำของเด็กบางกลุ่ม บางคน มีความรุนแรงเกินกว่าเหตุ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีกทั้งยังมีพฤติกรรมอำพรางศพ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เป็นการวางแผนและตึกตรองมาก่อน

 

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายคุ้มครองเด็ก ซึ่งสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว ต้องการให้โอกาสเด็กที่กระทำความผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ พลาดพลั้ง ไม่ต้องการให้เป็นตราบาป และไม่ต้องการให้เข้าไปยังเรือนจำ แต่กักขังอยู่สถานพินิจ ซึ่งในประเด็นนี้ สามารถให้โอกาสได้กับเด็กที่ไม่ได้กระทำรุนแรง และไม่ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตผู้อื่นเช่นนี้

 

แต่สำหรับอัยการคดีนี้ สามารถร้องขอต่อศาลได้ น่าจะต้องพิจารณาคดีในรูปแบบพิเศษ โดยให้เด็กกลุ่มนี้ ได้รับการพิจารณาคดีเทียบเท่าอัตราโทษของผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ซ้ำซาก อีกทั้งที่เป็นข่าวจนถึงวันนี้ มีผู้เสียหายออกมาเปิดเผยความจริงมากมายแล้ว แต่ละคดี เป็นเรื่องที่รุนแรงสังคมรับไม่ได้ ในส่วนของกฎหมายยังคงให้คุ้มครองเด็กกลุ่มอื่นอยู่ แต่ในส่วนการกระทำเกินกว่าเหตุ จึงหวังให้อัยการร้องขอต่อศาล ว่ารุนแรงเกินกว่าเหตุ ต้องมีการพิจารณาแบบพิเศษ

 

นายณัฐชา ชี้ว่าเมื่อพิจารณาคดีแบบพิเศษ เยาวชนกลุ่มดังกล่าวก็จะได้รับโทษที่หนักขึ้น มีการกระทำผิดที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และเป็นการคุ้นชินกับการกระทำความผิดไปแล้ว โดยเฉพาะคลิปเสียงที่ออกมาไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจ อาจเป็นเพราะครอบครัวคนใกล้ชิดที่เคยช่วยเหลือกันมาในแต่ละครั้ง ทำให้เด็กกลุ่มนี้คุ้นเคยในการกระทำความผิด ดังนั้น บทลงโทษควรทำให้เด็กได้รับการลงโทษที่สังคมยอมรับได้ด้วย

 

ขณะกรณีที่มีการวิพากษ์ว่า มีการนำถุงดำคลุมหัวและเป็นการหยอกล้อเล่นหน่อย นายณัฐชา ยังมองว่า ปัญหาต่างๆ ยังกระทบต่อความศรัทธาขององค์กรตำรวจที่เสื่อมถอยลง โดยเฉพาะตำรวจออกมาอ้างว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการล้อเล่นหยอกล้อ ในคดีที่มีความเป็นความตายอยู่ด้วย ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง รับเรื่องนี้ดำเนินการด้วยตัวเอง และเรียกความเชื่อมั่นจากสังคมด้วย

 

สุดท้ายการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ออกมาบอกกับสังคมว่าหยอกล้อหยอกเล่นกัน ในเคสที่มีผู้เสียหายในชีวิตและทรัพย์สิน มีการกระทำที่ทำให้ครอบครัวหลายครอบครัวต้องตกระกำลำบาก เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาตอบแบบนี้ คิดว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพฤติการณ์พฤติกรรมที่สังคมมองว่า เป็นเรื่องปกติไปแล้วคือ เมื่อมีการกระทำความผิดโดยลูกหลานเจ้าหน้าที่ โดยผู้มีชื่อเสียงทางสังคม ก็จะมีการนำแพะมารับบาปในอดีตเกิดขึ้นหลายครั้ง ในอดีตนำคนวิกลจริตมารับบาป เพื่อที่จะบอกว่าผู้กระทำความผิดเป็นโรคจิตก็จะเป็นโทษอีกแบบนึง หรือจ้างคนมารับโทษเหตุการณ์เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม เปิดเผยว่า ได้รับทราบว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ไปสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยตัวเองแล้ว แต่ส่วนตัวเห็นว่า วันนี้เลยไปจากคำว่าคดีฆ่าคนตายแล้ว แต่เป็นคดีที่ประชาชนคาดหวังในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น จึงเห็นว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติควรลงมาดำเนินการด้วยตัวเอง เพื่อทำให้เห็นว่าคดีนี้ไม่ว่าจะเป็นลูกใครจะต้องได้รับความเป็นธรรม

 

ส่วนกรณีแนวคิดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแก้ไขกฎหมายอาชญากรจากกำหนดอายุ 15 ปีให้กำหนดเป็นอายุ 12 ปีนั้น นายณัฐชาระบุว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการหารือกันว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่กรณีวันนี้เป็นกรณีรายบุคคล ซึ่งต่างจากกรณีที่เด็กเยาวชนกระทำผิดซ้ำซาก ที่จะต้องพิจารณาเป็นกรณีกรณีไปไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายเชิงโครงสร้างทั้งหมด

 

ขณะเดียวกัน ยังเปิดเผยว่า ในวันที่ 19 มกราคมนี้ ได้รับเชิญจากกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีลุงเปี๊ยก ที่คาดว่าจะมีการเขียนพล็อตเรื่องให้รับสารภาพเพื่อเบี่ยงเบนผู้กระทำความผิด

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube