Home
|
ข่าว

“สุณัฐชา”ลากนักโทษเทวดาชั้น14 ทิ้งบอมบ์กลางสภาประท้วงวุ่น

Featured Image

 

 

 

“สุณัฐชา” ปชป.ท็อปฟอร์ม ลากนักโทษเทวดาชั้น14 ทิ้งบอมบ์กลางสภาฯ ซัดรัฐบาลนิสัยเดิมๆ จัดงบแบบทอดทิ้งคนใต้ ส่องหน้า“เศรษฐา“เห็นพันธุกรรมนายใหญ่ ประท้วงวุ่น เพื่อไทยลุกป้องสุดลิ่ม

 

 

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย ภาพรวมช่วงเช้ามี สส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลลุกขึ้นสลับกันอภิปราย จนกระทั่ง น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลุกอภิปรายช่วงเกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง เกิดเหตุปะทะคารมกันเล็กน้อยระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย (พท.) เนื่องจาก น.ส.สุณัฐชาพาดพิงเรื่องในอดีตของพรรคไทยรักไทย สมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งกรณีการจัดสรรงบประมาณให้แต่ละภาคที่แตกต่างกันตามความนิยมในขณะนั้น อีกทั้งการดำเนินโครงการจำนำข้าวที่ผิดพลาด

 

 

 

น.ส.สุณัฐชา กล่าวตอนหนึ่งว่า เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์จะต้องได้รับการจัดสรรอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกที่รักมักที่ซัง เนื่องจากเหตุผลทางการเมืองเหมือนในอดีต ที่คนใต้โดนเลือกปฏิบัติเพียงเพราะเหตุผลไม่นิยมชมชอบพรรครัฐบาลในขณะนั้น ตนมีข้อกังวลในการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลเศรษฐีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้รับฉายาว่า ”เป็นเซลล์แมนสแตนชิน“ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดนี้มีดีเอ็นเอหรือรากเหง้ามาจากพรรคไทยรักไทยที่มีนายใหญ่สายชิน เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลในปี 2544 เป็นเจ้าของคำพูดที่ว่าจังหวัดไหนไม่เลือก ให้รอการพัฒนาไปก่อน ต่อมาแปรสภาพเป็นพรรคพลังประชาชน และจบด้วยการยุบพรรคที่สุดกลายเป็นพรรคเพื่อไทยที่เมินการจัดสรรงบประมาณลงภาคใต้ แต่กลับใช้งบประมาณ 1.39 ล้านล้านบาท ไปกับโครงการจำนำข้าว

 

 

 

 

ทำให้นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ขณะนี้เราอยู่ในยุคปีใหม่ ปี 2567 น.ส.สุณัฐชา จะย้อนอะไรกลับไปในอดีตนานขนาดนั้น และที่สำคัญขอให้อยู่ในประเด็นที่พิจารณางบประมาณปี 67

 

 

 

จากนั้น นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงว่า ผู้อภิปรายอยู่ในประเด็น ไม่ได้ไปกระทบกระทั่งทูนหัวของบ่าวอะไรเลย ดังนั้น ประธานต้องวินิจฉัย ทำให้นายสรวงศ์ ประท้วงกลับขอให้ถอนคำพูด เนื่องจากมันไม่ดี พี่น้องประชาชนดูอยู่ และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นผลก็ออกมาวันนี้แล้ว

 

 

 

 

น.ส.สุณัฐชา อภิปรายต่อ พร้อมกล่าวว่า อยากให้ฝ่ายรัฐบาลให้เย็นๆ เพราะอย่าลืมว่าหนีอดีตไม่พ้น หนีความจริงไม่ได้ จากนั้นก็ได้อภิปรายต่อไป โดยนำภาพนายเศรษฐา สังสรรค์กับสื่อที่ทำเนียบรัฐบาลกับภาพชาวบ้านหนีน้ำท่วมบนหลังคาบ้านน้ำท่วมที่จังหวัดนราธิวาส สวดให้น้ำลดระดับ แต่นายกฯ ไม่ได้สนใจชาวบ้าน ทำให้นายพิเชษฐ์ ประธานในการประชุมได้ถามเจ้าหน้าที่ว่า “ได้รับอนุญาตหรือไม่”

 

 

 

 

และนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงขอให้ประธานทำหน้าที่เป็นกลาง ไม่ใช่เบรกกลางอากาศ เพราะในการตรวจสไลต์เป็นอำนาจของประธานอยู่แล้ว หากจะมีความผิดพลาดทางเทคนิคควรทำหลังการอภิปราย เพราะประธานจะถูกมองว่า การทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ด้านนายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ส่งเรื่องมาให้ตรวจสอบ แต่เมื่ออนุญาตแล้ว จึงให้อภิปรายต่อจากนั้น น.ส.สุณัฐชา กล่าวว่า รูปที่นายกฯ สวมใส่เสื้อสีแดงปาร์ตี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่มีอะไรน่าจะเสียหาย ไม่มีอะไรที่น่าอาย เพราะการเป็นนักโทษเทวดาอยู่ชั้น 14 ที่น่าอายกว่าเยอะ

 

 

 

ทำให้นายศรันย์วุฒิ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่า ตั้งแต่ประเด็นเรื่องสไลด์ ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดพร้อมกัน และนายกฯ ได้ไปติดตามเรื่องน้ำท่วม ไม่ใช่นายกฯ ไม่ได้สนใจ ในสิ่งที่ผู้อภิปรายพยายามทำให้สังคมเข้าใจผิด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย จึงอยากให้อภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณ 67 ไม่ต้องมาเสียดสี

 

 

 

 

นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ลุกขึ้นประท้วงขอให้ผู้ประท้วงระบุว่า ทำผิดข้อไหน ซึ่งผู้ประท้วงได้กล่าวเท็จในสภาแห่งนี้ เพราะผู้อภิปรายชี้ให้เห็นว่านายกฯ กำลังมีความสุขที่ทำเนียบเหมือนลิงได้แก้ว แต่ประชาชนถูกน้ำท่วม และที่บอกว่านายกฯ ลงพื้นที่ ถ้าไปดูภาพให้ไปที่น้ำลึก ไม่ใช่ไปที่น้ำตื้น ก็ขอให้ประธานควบคุม

 

 

 

 

ทำให้น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ประท้วงว่า ผู้อภิปรายอภิปรายซ้ำซาก จำเจ และเสียดสี ประธานในที่ประชุมจึงขอให้ผู้อภิปรายอภิปรายอยู่ในประเด็น

 

 

 

 

จากนั้น น.ส.สุณัฐชา จึงได้อภิปรายต่อไป โดยเน้นย้ำว่า ได้จัดงบฯลงในพื้นที่3จังหวัดภาคใต้ไว้ที่ส่วนใด เพราะนายกฯ ลางาน 4 วัน ทั้งๆ ที่เพิ่งทำงานมาเพียง 4 เดือน ทำให้การจัดงบของนายเศรษฐา ไม่ต่างจากยุครัฐบาลนายใหญ่เพื่อไทยเมื่อ10ปีก่อน ทั้งนี้ นายเศรษฐา อาจจะลุกขึ้นมาแก้ตัวว่าตัวท่านและผู้นำในอดีตเป็นคนละคนกัน แต่การจัดงบฯ ในลักษณะนี้ ยิ่งทำให้มั่นใจว่า ถึงแม้จะเป็นคนละคนกัน แต่พฤติกรรมทอดทิ้งคนใต้ ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาถึงนายกฯ ที่ชื่อเศรษฐา ผ่านร่างฯงบฯปี67

 

 

 

 

ทำให้ น.ส.กิตติ์ธัญญา ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า การที่ยังฝืนข้อบังคับเสียดสี ไม่เข้างบประมาณทำให้เสียเวลา และขอขอบคุณที่ยังจำนายกฯ และอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในหัวใจตลอดเวลา แต่นายพิทักษ์เดช ก็ประท้วงอีกครั้งให้ประธานควบคุม บรรยากาศไปด้วยดี นิดๆ หน่อยๆ ดูกันบ้าง และฟังกันไว้เถอะ ไม่เฉียดไม่ฉิว ทูนหัวของบ่าวยังอยู่เหมือนเดิม ยังปลอดภัย จากนั้น น.ส.สุนัฐชา อภิปรายต่อจนจบ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube