Home
|
ข่าว

กห. สั่งเหล่าทัพสแตนด์บายกำลังพลเฝ้าระวังไฟป่า- พีเอ็ม2.5

Featured Image
กห. สั่งเหล่าทัพสแตนด์บายกำลังพล- เครื่องมือช่วยบรรเทาสาธารณภัยในช่วงหน้าร้อน เฝ้าระวังไฟป่า- พีเอ็ม2.5

 

 

พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้เน้นย้ำให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ จัดเตรียมกําลังพล เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมสําหรับรองรับกับสาธารณภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

 

 

โดยประสานการปฏิบัติร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ทันต่อสถานการณ์ และไม่เกิดความซ้ำซ้อน จากการคาดการณ์ฤดูร้อนของประเทศไทยปีนี้ โดยจะเริ่มในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และจะสิ้นสุดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมส่งผลให้ลักษณะอากาศร้อนอบอ้าว และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่

 

 

สําหรับการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (ฝุ่น PM2.5) ในพื้นที่ภาคเหนือ นั้น ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดํารงความต่อเนื่องจากการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยใช้กลไกในกรอบความร่วมมือของคณะกรรมการ ชายแดนที่มีอยู่ช่วยในการแก้ไขปัญหาฯ ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทําความผิดอย่างเข้มงวดและจริงจัง อาทิ การจุดไฟเผาป่า และการเผาในพื้นที่การเกษตร ทั้งนี้ ให้เร่งประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ ทราบถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา อีกทั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดําเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ต่อไป

 

 

อีกทั้ง กห. สั่งคุมเข้มคลังแสง เตรียมฝึกซ้อมรับเหตุระเบิด-อัคคีภัย”บิ๊กช้าง” ย้ำกำลังพล ทำตามระเบียบ วางตัวไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงกองทัพ-พร้อมระวังอุบัติเหตุ ในการฝึกคอบร้าโกลด์

 

 

พ.อ.จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีเชื่อว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ กํากับดูแลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการดูแล รักษาความปลอดภัยอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ตลอดจนเครื่องกระสุนและวัตถุระเบิดที่อยู่ในคลังต่าง ๆ ของหน่วย

 

 

ให้ เป็นไปตามระเบียบหรือข้อกําหนดของทางราชการ ตลอดจนฝึกซ้อมแผนการปฏิบัติในการเผชิญเหตุต่าง ๆ อย่าง ต่อเนื่อง อาทิ แผนการป้องกันและระงับอัคคีภัย แผนการอพยพเคลื่อนย้ายกรณีเกิดการระเบิด ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบ สามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทันต่อสถานการณ์

 

 

นอกจากนั้น ยังให้กองบัญชาการกองทัพไทย และเหล่าทัพ ดําเนินการฝึกร่วมผสมคอบร้าโกลด์ 2023 (27 ก.พ. – 10 มี.ค.66) ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการฝึก เพื่อเป็นการพัฒนาขีดความสามารถและเพิ่มพูนประสบการณ์ ให้กับกําลังพลของกองทัพไทยและกองทัพมิตรประเทศในการปฏิบัติการร่วมและผสม ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ อันดีกับมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกฯ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

 

 

อาทิ การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise: CPX) การดําเนินโครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance: HCA) และการฝึก ภาคสนาม (Field Training Exercise: FTX) ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเน้นย้ำกําลังพลที่เข้าร่วมการฝึก ระมัดระวังอันตรายและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการฝึก รวมทั้งปฏิบัติตามกฎและระเบียบอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะต้องไม่กระทําการใด ๆ ที่ทําให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ ของกองทัพและประเทศชาติ

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube