ตชด.กำลังเงียบ แต่สำคัญในสมรภูมิชายแดน
ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา “ตชด.” ถูกย้ำบทบาทกำลังเงียบแนวหน้า เคียงข้างสามเหล่าทัพ ลาดตระเวน–คุ้มครองประชาชน–อพยพผู้หนีภัยกว่าแสนราย
สถานการณ์แนวชายแดนไทย–กัมพูชาที่กำลังปะทุและการสู้รบยังไม่จบสิ้น นอกเหนือจากหน่วยงานทหารทั้ง 3 เหล่าทัพแล้ว อีกหน่วยงานหนึ่งที่ยืนหยัดอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ทหารมาโดยตลอด นั่นคือ ตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตชด. หน่วยงานตำรวจที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่กึ่งทหาร เป็น “กำลังเงียบ” ที่ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงอันตรายในพื้นที่ชายแดนอย่างใกล้ชิดกับกองกำลังทหารประจำพื้นที่
แม้ภาพจำของ ตชด. มักผูกโยงกับงานมวลชนสัมพันธ์ เช่น การสร้างโรงเรียน การช่วยเหลือประชาชน และโครงการพระราชดำริ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ตชด. คือกำลังสำคัญในแนวตะเข็บชายแดน โดยเฉพาะเขตที่มีความอ่อนไหว ทั้งบริเวณเขาพระวิหาร ช่องตาเหมือน ช่องสะงำ ไปจนถึงจุดเฝ้าระวังในป่าเขาที่เข้าถึงยาก ทหารและ ตชด. ต้องร่วมกันรักษาความสงบเรียบร้อยมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
เช่นเดียวกับสถานการณ์แนวชายแดนในขณะนี้ ตชด. ร่วมปฏิบัติการลาดตระเวนทั้งทางเท้าและยานพาหนะร่วมกับหน่วยทหาร เพื่อป้องกันการรุกล้ำเขตแดน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ทุรกันดาร หลายครั้ง ตชด. เป็นหน่วยแรกที่เข้าเผชิญเหตุ เนื่องจากประจำการอยู่ใกล้หมู่บ้านชายแดนและฐานย่อยที่เข้าถึงได้ยาก
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักตามภารกิจกองกำลังป้องกันชายแดน และสนับสนุนการปฏิบัติในพื้นที่ส่วนหน้า รักษาความปลอดภัยพื้นที่ชายแดนเคียงข้างกองทัพ, การอพยพครู-นักเรียน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และให้ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบติดต่อแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เป็นหน่วยเสริมหลักในการเตรียมกำลังพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติ พร้อมกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องยกระดับการปฏิบัติการตามแผนพิทักษ์ส่วนหลัง ดูแลปกป้องรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
โดยจัดชุดปฏิบัติการตำรวจ ออกตรวจตรา เพิ่มความเข้มในการดูแลทรัพย์สิน บ้านเรือนประชาชน ในห้วงเวลาที่มีการอพยพประชาชนออกจากบ้านพักไปสู่พื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งกำหนดเส้นทางหลัก เส้นทางรอง เส้นทางการช่วยเหลือทางการแพทย์และการส่งกำลังบำรุง ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านการจราจร จนถึงขณะนี้ตำรวจในพื้นที่แนวชายแดนไทย – กัมพูชา จ.สระแก้ว อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จิตอาสาต่าง ๆ ช่วยเหลือประชาชนในการอพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิงมากกว่า 110,000 ราย โดยระดมกำลังตำรวจกว่า 4,200 นาย ดูแลความปลอดภัยปกป้องประชาชนที่อาศัยในศูนย์พักพิงต่าง ๆ
พร้อมกับ เน้นย้ำให้ตำรวจติดตามและประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว ประสานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วน และเป็นหน่วยสนับสนุนการปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ได้ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอหรือสั่งการ พร้อมกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแ ระวังภัยเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน ขณะเดียวกันให้เน้นการป้องกันเหตุไม่สงบและตรวจตราบุคคลต้องสงสัยต่าง ๆ ที่อาจสร้างความวุ่นวายในพื้นที่หรือมีพฤติกรรมเป็นภัย
แม้บทบาทของตำรวจตระเวนชายแดน อาจไม่ถูกพูดถึงมากนักในสังคมเมือง แต่สำหรับพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตชด. คือ “กำลังหลัก” ที่เติมเต็มภารกิจทหารในทุกจุด ทั้งการรบ การข่าว การช่วยผู้คน และการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ในยามที่สถานการณ์ความมั่นคงบริเวณชายแดนยังคงผันผวนตามปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ตชด. ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่อยู่แนวหน้า ทำงานหนัก ท่ามกลางความเงียบ แต่เป็นเสาหลักที่ทำให้ผู้คนในพื้นที่ชายแดนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





