ไทยย้ำชัด! เจรจาภาษีสหรัฐฯ ไม่เกี่ยวปมชายแดนกัมพูชา
จากเมื่อวันศุกร์14 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้มีการลงนาม ในคำสั่งฝ่ายบริหาร อนุญาตให้สินค้าอาหารหลายรายการ หลุดพ้นจากนโยบายเก็บภาษีศุลกากร
ล่าสุดเมื่อวานนี้ 16 พ.ย. 68 คุณ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกรัฐบาล อธิบายถึงสถานการณ์ ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่าสหรัฐฯ และมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ในกระบวนการสร้างสันติภาพ มีความกังวลต่อเหตุการณ์ล่าสุด จึงมีหนังสือแจ้งไทยให้ “ชะลอ” การเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยได้ชี้แจงต่อผู้นำสหรัฐฯ แล้วว่า ผู้กระทำผิดคือกัมพูชา ที่ละเมิดข้อตกลงและวางทุ่นระเบิดใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าไทยไม่อาจยอมรับพฤติกรรมดังกล่าวได้
ไทยยังยึดแนวทางสันติวิธี แต่ต้องการให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ เช่น ยอมรับผิด ขอโทษผู้บาดเจ็บ และร่วมมือเก็บกู้ทุ่น
และเมื่อผู้นำสหรัฐฯ มาเลเซียรับฟังเหตุผลแล้ว ก็ “เข้าใจตรงกัน” และยืนยันว่า เรื่องภาษียังคงเดินหน้าเจรจาได้ โดยแยกออกจากปัญหาชายแดนอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ คุณ สิริพงศ์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมุ่งแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก แม้หลายเหตุการณ์จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ผู้นำไทยได้เร่งดำเนินการทันที และเห็นภาพความคืบหน้าชัดเจน
กรณีถูกถามว่านายกฯ พูดในลักษณะท้าทายสหรัฐฯ จะกระทบหรือไม่ โฆษกรัฐบาลชี้ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ นายกฯ เพียงตอบคำถามตรงไปตรงมา ตามที่ผู้สื่อข่าวถาม เช่น หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีกดดัน ไทยก็ต้องหาตลาดใหม่ ขณะเดียวกันก็ยังย้ำว่าการค้ากับสหรัฐฯ ยังจำเป็น เพียงแต่ต้องขยายตลาดอื่นควบคู่กัน
คำถามเรื่องเส้นตายให้กัมพูชาขอโทษ คำตอบคือ “ไม่มีกรอบเวลา” ทุกอย่างจะเดินต่อ จนกว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของไทย
ซึ่งวันนี้ 17 พ.ย. 68 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวง จะนำเสนอแผนรับมือ สถานการณ์ชายแดนรวมราว 6 แผนงาน ซึ่งจะมีแนวทางใหม่เพิ่มเติม รวมทั้งการจัดการประเด็นภาษีกับสหรัฐฯ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ส่วนการตอบโต้ข่าวปลอมจากกัมพูชาไทยย้ำว่าหน้าที่หลักคือ “ให้ข้อมูลจริงอย่างรวดเร็ว” หากพบข่าวปลอมก็ต้องชี้แจงทันที กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งทำความเข้าใจกับประเทศต่าง ๆ
ในอาเซียนและผู้สังเกตการณ์ ซึ่งต่างยืนยันตรงกันว่า ทุ่นระเบิดที่พบคือทุ่นระเบิดใหม่ ขณะที่สื่อมาเลเซียที่เคยรายงานผิดก็ออกมาขอโทษแล้ว หวังว่า สื่อนานาชาติจะนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องต่อไป
ส่วนประเด็นว่าการเจรจาภาษีระหว่างไทย–สหรัฐ จะได้รับผลกระทบหรือไม่ ล่าสุดมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย (ประธานอาเซียน) ได้โทรศัพท์มาหารือกับ คุณ อนุทิน ยืนยันว่าได้พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ เห็นตรงกับไทยว่า การเก็บกู้ทุ่นเพื่อมนุษยธรรม เป็นหัวใจสำคัญ ในปฏิญญาร่วมไทย–กัมพูชา ขอให้ไทยเร่งดำเนินการเก็บกู้ และ “ยืนยันชัดเจน” ว่า สหรัฐอเมริกาจะ ไม่ นำประเด็นปฏิญญาหรือสถานการณ์ชายแดน มาโยงกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทย–สหรัฐ
โดย คุณ อนุทินระบุว่า ได้ถามนายกฯ อันวาร์ว่าตนสามารถโพสต์ข้อมูลนี้ได้หรือไม่ ซึ่งฝ่ายมาเลเซียตอบว่า “โพสต์ได้เลย” พร้อมจะยืนยันผ่านช่องทางของตนเองเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังอธิบายว่า จดหมายจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่ระบุเรื่องชะลอการเจรจา ได้ถูกจัดทำขึ้น “ก่อน” ที่เขาจะได้สนทนากับประธานาธิบดีทรัมป์ในคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน ดังนั้นข้อมูลล่าสุดจึงเป็นว่า การเจรจาภาษีไทย–สหรัฐยังเดินหน้าต่อไปตามปกติ
ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปค่ะวาจะมีอัพเดตความคืบหน้ากับเรื่องนี้อย่างไร ย้ำว่าไม่ควรนำประเด็นการการเจรจาภาษีระหว่างไทย–สหรัฐมาเชื่อมโยงกับสถานกาณ์ชายแดน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





