น้ำตาไหลกลางสนาม ”เปตองไทย” ถูกตัดขาดจากซีเกมส์
ช็อกวงการกีฬาเมื่อ COO ซีเกมส์ ออกมาชี้ชัด เปตองไทยถูกตัดสิทธิ์จากซีเกมส์ ครั้งที่ 33 อย่างเป็นทางการ
ช็อกกลางวงการกีฬา เมื่อห้องประชุมโอลิมปิคไทย เป็นเวทีแถลงข่าวที่ “บีบหัวใจ” แฟนกีฬา เมื่อ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานโอลิมปิคไทย, นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ COO ซีเกมส์ และ ศ.ดร.เจริญ วรรธนะสิน รองประธานโอลิมปิคไทย ออกมาชี้ชัด เปตองไทยถูกตัดสิทธิ์จากซีเกมส์ ครั้งที่ 33 อย่างเป็นทางการ
ต้นเหตุทั้งหมด เริ่มจากหนังสืออย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กันยายน ที่ส่งตรงจาก คลอดด์ เอซีม่า ประธานสหพันธ์กีฬาเปตองและโบว์ลโลก ระบุถึง “วิกฤติศรัทธา” ที่เกิดขึ้นกับสมาคมกีฬาเปตองไทย จากการบริหารที่ถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเงิน, ทุจริตการเลือกตั้ง และคุกคามทางเพศ ของผู้นำสมาคมฯ คนปัจจุบัน จนถูกสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกีฬาตลอดชีวิต แต่กลับยัง “แฝงตัว” อยู่ในการบริหาร
ผลลัพธ์คือ สมาคมเปตองไทยถูกขับออกจากสมาชิกสหพันธ์โลก พร้อมถูกตัดสิทธิ์การส่งนักกีฬาลง แข่งในซีเกมส์ครั้งนี้ และหนักยิ่งกว่า หากชาติใดยังฝืนส่งทีมเปตองเข้าซีเกมส์ จะถูกแบนจากเวที นานาชาติถึง 2 ปี ครอบคลุมทั้ง เวิลด์ เกมส์, เอเชียนเกมส์ และเอเชียน มาสเตอร์เกมส์
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ย้ำว่า โอลิมปิคไทยและคณะกรรมการกลางที่ตั้งขึ้น ได้พยายามเต็มที่เพื่อให้เปตอง ไทยเดินหน้า โดยยึดประโยชน์ของชาติและนักกีฬาเป็นสำคัญ “เรามีผลงานการันตีชัดเจน นักกีฬา ที่คณะกรรมการกลางส่งเข้าชิงแชมป์โลกที่อิตาลี เพิ่งคว้า 3 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง จาก 5 รายการ ถือเป็นความหวังสูงสุดในซีเกมส์ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็พังเพราะความไม่ยอมรับระหว่าง กกท. และสหพันธ์โลก” เสียงสะท้อนนี้ตอกย้ำความผิดหวัง “เรื่องนี้มันจบแล้วสำหรับซีเกมส์ แม้จะเป็นการจบที่เจ็บปวด”
แม้ประตูซีเกมส์จะถูกปิด แต่นักกีฬายังพอมีแสงสว่าง เมื่อ นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ เผยว่า คณะกรรมการกลาง ยังได้รับการรับรองจากสหพันธ์โลก สามารถส่งทีมชาติไทยลงแข่งในเวทีนานาชาติ รวมถึง เอเชียนเกมส์ 2026 ที่ญี่ปุ่น ได้ตามปกติ “นักกีฬาไม่ควรเสียใจมากเกินไป เพราะพวกเขายังมีอนาคตบนเวทีโลก สิ่งที่ต้องถามคือ กกท. จะรับผิดชอบอย่างไรต่อความเสียหายมหาศาลที่เกิดขึ้นครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่าจะทำหนังสือเสนอไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อขออนุมัติการปรับชนิดกีฬาทดแทนในซีเกมส์ครั้งนี้
ฟาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ออกโรงโต้ทันควัน ระบุว่า หนังสือของสหพันธ์เปตองมีหลายประเด็น “เข้าใจคลาดเคลื่อน” และยืนยันชัดว่า กกท. ไม่ได้หนุนสมาคมที่ถูกลงโทษแบน อีกทั้งไม่ได้ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเตรียมนักกีฬาซีเกมส์
“ที่ผ่านมา กกท. ยอมรับอำนาจของคณะกรรมการกลางมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมงานซีเกมส์ หรือการคัดเลือกนักกีฬา เราไม่ได้ติดขัดอะไร เพียงแต่มีการร้องเรียนจากนักกีฬาบางส่วน ทำให้ต้อง ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกลางพิจารณาเองทั้งหมด”
ดร.ก้องศักด ยังชี้แจงถึงประเด็นการเบิกจ่ายเงินสนับสนุน ว่า ที่ผ่านมา กกท. ไม่สามารถจ่ายตรงให้นักกีฬา ได้เพราะติดระเบียบ แต่หลังจากนี้ จะเร่งแก้ระเบียบใหม่ เพื่อให้สามารถโอนตรงถึงนักกีฬาได้ทันที ถือเป็นการแก้ปัญหาเพื่อให้นักกีฬาได้รับสิทธิประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย
แม้สถานการณ์จะตึงเครียด แต่ผู้ว่าการ กกท. ย้ำว่าพร้อมเดินหน้าทุกทางเพื่อให้ เปตองได้บรรจุแข่งขัน ในซีเกมส์ปลายปีนี้ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ผลกระทบต่อนักกีฬาเปตองจากกรณีนี้ หนักหน่วงและเจ็บปวดที่สุด เพราะนักกีฬาเป็นผู้ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับปัญหาการเมืองหรือการบริหาร แต่กลับต้องมารับผลเสียเต็ม ๆ ดังนี้
พลาดโอกาสซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ.. เดิมที เปตองไทยคือความหวังเหรียญทองซีเกมส์ โดยเฉพาะเมื่อทีมเพิ่ง สร้างผลงานระดับโลกที่อิตาลี คว้า 3 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง แต่การถูกตัดออกจากซีเกมส์ทำให้นักกีฬา หมดโอกาสชิงเหรียญต่อหน้าแฟน ๆ ในบ้านเกิด ซึ่งเป็นความฝันสูงสุดของหลายคน
เสียแรงจูงใจ และขวัญกำลังใจถดถอย นักกีฬาซ้อมหนักเป็นปีเพื่อเป้าหมายซีเกมส์ แต่เมื่อรายการถูกถอดออก ความพยายามทั้งหมดเหมือนถูกล้มทับ หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ทำไมต้องมารับกรรมแทนผู้บริหาร?” ทำให้เกิด ความท้อแท้และหมดศรัทธา ต่อระบบกีฬา
ความเสี่ยงต่ออนาคตอาชีพ…การแข่งขันซีเกมส์เป็น เวทีสร้างชื่อ และเป็นเกณฑ์ต่อยอดไปสู่ เอเชียนเกมส์หรือเวิลด์เกมส์ การที่ไม่ได้เข้าร่วม อาจทำให้นักกีฬาไทยเสียโอกาสในการถูกจับตามอง และพลาดการสนับสนุนระยะยาว นักกีฬาที่กำลังพีคอาจเสียช่วงเวลาทองของชีวิต เพราะกีฬาบางประเภทอายุการเล่นในระดับสูงมีจำกัด
ความกังวลเรื่องการสนับสนุน เมื่อสมาคมถูกแบน การเบิกจ่ายงบประมาณและเบี้ยเลี้ยงกลายเป็นปัญหา นักกีฬาอาจต้องเจอภาวะ ค่าใช้จ่ายไม่แน่นอน ทั้งค่าเดินทาง ค่าเก็บตัว และโบนัสที่ควรได้รับ
แม้ กกท. ประกาศจะแก้ระเบียบเพื่อจ่ายตรงให้นักกีฬา แต่กระบวนการอาจล่าช้า ทำให้หลายคนยังไม่มั่นใจในความมั่นคง ภาพลักษณ์และศรัทธาต่อวงการ…เรื่องนี้ทำให้สังคมมองนักกีฬาเปตองไปในเงามุมดราม่า ทั้งที่ความจริงพวกเขาเป็นเพียง “ผู้ถูกกระทำ” หากไม่มีการแก้ไขที่จริงจัง อาจทำให้เยาวชนรุ่นใหม่ หมดแรงบันดาลใจที่จะเข้าสู่เส้นทางทีมชาติ
ศึกครั้งนี้ยังไม่จบง่าย ๆ ระหว่าง “อำนาจสหพันธ์โลก” กับ “ความพยายามของเจ้าภาพไทย” คำถามใหญ่คือ ซีเกมส์ 33 จะมีเปตองหรือไม่ และสุดท้ายแล้วใครต้องรับผิดชอบต่อความฝันของนักกีฬาหลายชีวิตที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศ!
กรณี “เปตองหลุดซีเกมส์” ไม่ใช่แค่การสูญเสียเหรียญรางวัลที่อาจเป็นของไทย แต่คือ ความเสียหายต่อศรัทธาของ นักกีฬาหลายพันคนทั่วประเทศ ที่ต้องมาจบฝันเพราะการบริหารที่ผิดพลาดของผู้นำเพียงไม่กี่คน
ในสนาม พวกเขาพิสูจน์แล้วว่ามีฝีมือระดับโลก แต่ในโต๊ะการเมืองกีฬา พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้แพ้ที่ไม่ได้ผิดอะไรเลย”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
