Home
|
บันเทิงไทย

ดีเจมะตูม เล่านาทีสูญเสีย ยายนงค์ 2 วันแรกเหมือนตายทั้งเป็น 

Featured Image
ดีเจมะตูม เล่านาทีสูญเสีย ยายนงค์ 2 วันแรกเหมือนตายทั้งเป็น รับทุกวันนี้ยังมีร้องไห้อยู่!!!

 

ดีเจและพิธีกรฝีปากกล้ามะตูมเตชินท์ที่วันนี้จะขอควงคุณแม่หญิงเบญญาภามาเปิดใจครั้งแรกกลังสูญเสียคุณยายนงค์กับความรักความผูกพันและสิ่งติดค้างที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อนพร้อมเผยลางสังหรณ์และประโยคสุดท้ายก่อนคุณยายจากไปผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีธัญญ่าธัญญาเรศและเป็กกี้ศรีธัญญาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ทุกวันนี้มะตูมยังร้องไห้อยู่เลยเหรอ?

ดีเจมะตูม : มีบ้างครับเป็นเรื่องปกติครับตูมว่าทุกคนนี่เป็นการสูญเสียครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของตูมเพราะว่าตูมยังไม่เคยผ่านการสูญเสียญาติผู้ใหญ่ที่แบบคุกคลีและเลี้ยงดูเรามาเลยนี่เป็นคนแรก

ผ่านมาเท่าไหร่แล้ว?

ดีเจมะตูม : 1 เดือนกับ 1 วันคุณยายไปวันที่ 12 สิงหาคม

มะตูมร้องไห้หนักมากแต่แม่หญิงไม่เสียน้ำตาเลย?

แม่หญิง : มันจุกด้วยหน้าที่ในการรับผิดชอบวันนั้นมันเยอะเราไม่มีเวลาแม้กระทั่งร้องไห้

มีแอบร้องไห้เวลาอยู่คนเดียวไหม?

แม่หญิง : ไม่ถึงกับร้องไห้แค่สั่นๆซึมๆเวลารู้สึกซึมๆเราก็จะเงยหน้าขึ้นแล้วก็ดึงเข้าไปต้องไม่ให้ใครเห็นน้ำตาเรา

เคยเห็นแม่ร้องไห้เรื่องอื่นๆบ้างไหม?

ดีเจมะตูม : น้อยครับส่วนใหญ่ร้องไห้เพราะตูมทำนี่แหละเมื่อก่อนตอนเด็กๆแต่ตั้งแต่โตมาก็น้อยมากแม่กลายเป็นเข้มแข็งกว่าตูมมากๆแต่ตูมยังไม่ได้

ถ้าย้อนไปตอนที่คุณยายเสียคือคุณยายป่วยเป็นลูคีเมียทราบนานหรือยัง?

ดีเจมะตูม : ตูมทราบไม่ถึง 24 ชม.ก่อนยายจากไปส่วนคุณแม่ทราบล่วงหน้า 1-2 วันไม่มีใครรู้เลยว่าคุณยายไม่สบายเรามานั่งคุยกันด้วยซ้ำว่าหรือบางทียายอาจไม่รู้ด้วยซ้ำแต่ว่าคุณยายจะตรวจสุขภาพประจำปีอยู่แล้วเพราะเป็นอสม.เขาจะบังคับตรวจอยู่แล้วคุณยายจะบอกพวกเราว่าไม่มีอะไร

แม่หญิง : เลือดปกติหัวใจปกติความดันปกติเขาก็จะพูดอย่างนี้ตลอด

เวลาตรวจเลือดคุณยายต้องรู้แต่ไม่บอกใครหรือเปล่า?

แม่หญิง : ไม่แน่ใจว่าท่านรู้หรือไม่รู้เพราะว่าคุณหมอบอกมันเป็นแบบเฉียบพลันก็เลยไม่ทราบว่ายังไงวันที่เกิดเหตุแม่โทรมาหาเราตีตอนนั้นยังไม่ได้รับเพราะเวลาที่นี่กับที่อเมริกามันต่างกันเราจะโทรสัก 7 โมงเช้าของที่นี่แม่ก็บอกว่านี่ไม่ค่อยมีแรงเลยทานน้ำแล้วน้ำหกรดตัวเขาก็ถามว่าเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่เจาบอกว่าเป็นตั้งแต่ตีที่เขาโทรมาหาหนูนั่นแหละเราก็ถามต่อเขาบอกลุกขาก็ไม่มีแรงอยากเข้าห้องน้ำก็ไปไม่ได้เราก็ถามว่าจริงหรือเปล่าเราก็บอกแม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาขอดูหน้าหน่อยเขาหยิบถือมันไม่มีแรงเขาก็เลยวางไว้กับหมอนแล้วนอนคุยเราบอกแม่นี่ล้อเล่นหรือเปล่าแม่แกล้งป่วยใช่ไหมอยากให้ลูกกลับเร็วใช่ไหมเขาก็เลยบอกคงงั้นมั้งเขาก็พูดแบบนี้พูดปกติมือยังยกได้อยู่แต่ขานี่ไม่ได้

หลังจากนั้นไปโรงพยาบาลแล้วเกิดอะไรขึ้น?

ดีเจมะตูม : พอยายไปโรงพยาบาลยายบอกแม่ว่าอย่าบอกตูม

แม่หญิง : วันที่เราส่งรถไปรับเขาเราพยายามจะส่งจากกรุงเทพไปรับเขาอยู่ที่สวนใช่ไหมถ้าส่งจากกรุงเทพไปมันก็ช้าเราก็เลยต้องหาญาติที่อยู่สุพรรณก็โทรไปหาน้าสาวคนหนึ่งบอกว่าช่วยไปดูยายหน่อยไม่ต้องพูดอะไรนะเอาไปโรงพยาบาลอย่างเดียวเขาก็ไปตามนั้นตอนนั้นเราก็คอลกับยายอยู่ตลอดเวลาแกบอกอย่าพูดมากเลยเหนื่อยกำลังจะไปละเราก็ถามว่าจะลงบันไดยังไงเขาบอกไม่เป็นไรพอดีเรียกคนสวนมาให้อุ้มลงไปน้าก็ขับไปส่งโรงพยาบาลที่กรุงเทพก็โทรกันตลอดทางจนยายบอกว่าไม่ไหวแล้วถามอะไรเยอะแยะเหนื่อยแล้วนอนละคือเข้าโรงพยาบาลตอนเช้าประมาณ 10 โมงพอตอนเย็นยายสั่งว่าอย่าบอกมะตูมนะเดี๋ยวมะตูมจะทิ้งงานมาหาเราก็เลยยังไม่บอกพอผ่านไปหนึ่งคืนคุณหมอบอกคุณยายอย่างนี้ๆให้น้ำเกลือแล้วเราก็โอเคคงจะนอนพักผ่อนวันรุ่งขึ้นมีการตรวจนู้นตรวจนี่เราก็เลยเดี๋ยวกลัวลูกด่า

ดีเจมะตูม : คือถ้าตูมมารู้ทีหลังตูมโกรธแน่ๆ

แม่หญิง : เขาก็โกรธเพราะเราบอกเขาอีกวันหนึ่งเลยเพราะอเมริกาเราต้องนอนแล้ว

ดีเจมะตูม : คือเวลามันไม่ตรงกันตูมแบบทำไมทิ้งไว้นานทำไมตูมเพิ่งรู้ว่ายายเข้าโรงพยาบาลแม่ไลน์มาบอกตูมตูมก็โทรหายายเลยโทรนานมากกว่าจะติดแล้วยายก็รับสายยังใช้โทรศัพท์กันอยู่เลยยายบอกไม่เป็นไรสบายไม่เป็นไรลูกไม่ต้องมาเดี๋ยวออกแล้ววันแรกยังคุยกับตูมแบบนี้อยู่แต่ตูมสังเกตคือเสียงเหนื่อยไม่อยากคุยเยอะเดี๋ยวออกแล้วเดี๋ยวโทรหาตูมบอกแม่แม่ใหญ่ไม่น่าเป็นห่วงนะเขาคุยกับตูมปกติเลย

นานไหมกว่าจะรู้ว่าคุณยายเป็นลูคีเมีย?

ดีเจมะตูม : วันที่ 11 คือคุณยายเข้าโรงพยาบาลวันที่ 9 เสีย 12 คุณหมอบอกจากการตรวจเลือดน่าจะมีแนวโน้มไปทางลูคีเมียเพราะเม็ดเลือดขาวมันแตกเยอะหลังจากนั้นคุณแม่โทรหาตูมทันทีบอกว่าตูมไปหายาย

แม่หญิง : ตอนนั้นมันดึกที่นี่แล้วประมาณตีก็โทรถามตูมทำอะไรเขาบอกทำงานอยู่เราก็เลยบอกว่าไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แล้วก็ไม่ได้คุยกันเขาก็ไปจัดการ

ดีเจมะตูม : ตูมก็ไปเห็นคุณยายนอนอยู่ในห้อฃกักเชื้อเป็นห้องกระจกใสๆมีหน้ากากอ๊อกซิเจนแล้วเหมือนมีการเจาะเท้าเพราะมือเขาถูกมัดเพราะยายชอบกระตุกสายน้ำเกลือเห็นภาพนั้นร้องไห้เลยแบบตกใจเพราะเมื่อวานตูมคุยกับยายการสื่อสารทางโทรศัพท์ปกติแต่วันนี้ที่เราเห็นต่อหน้าคือคนป่วยหนักตูมเดินเข้าไปพอเขาเห็นจากที่ยายหลับอยู่ลืมตาขึ้นมาแล้วตะโกนว่ามาแล้สเหรอลูกหล่อๆจังเลยคือตูมแต่งหน้าเพราะไปถ่ายงานมาไปถ่ายงานๆไล่ให้ตูมไปทำงานแต่ตอนนี้นคุณยายน่าจะเจอฤทธิ์มอฟีนคุณยายจะพูดเยอะมากตูมก็เลยแบบหยุดพูดนะแม่ใหญ่ฟังนะพรุ่งนี้วันแม่แล้วแม่ไม่อยู่แต่ตูมอยู่นะเดี๋ยวพรุ่งนี้มาเปลี่ยนเป็นห้องพิเศษแล้วเอาลูกเอาหลานมารดน้ำดำหัวที่โรงพยาบาลเลยเดี๋ยวจัดงานวันแม่ให้ที่นี่ปีนี้ไม่เป็นไรพักผ่อนอย่างนี้แล้วกันเขาบอกได้ๆพยักหน้า

มะตูมมารู้ว่าคุณยายเป็นลูคีเมียตอนไหน?

ดีเจมะตูม : หลังจากที่ตูมเจอยายเสร็จปุ๊บตูมไมาอยากคุยกับคุณยายเยอะตูมเลยออกมาคุยกับคุณหมอว่าคุณยายเป็นยังไงบ้างคุณหมอบอกให้ตูมทำใจตูมตกใจมากทำใจอะไรครับผมต้องการย้ายห้องคุณยายคุณมะตูมทำใจก่อนนะคุณยายน่าจะมีแนวโน้มเป็นลูคีเมียระยะท้ายแล้วแล้วหมอไม่แนะนำให้รับการรักษาคีโมเพราะอายุคุณยายเยอะมากการทำคีโมคือเซลล์ทุกอย่างในร่างกายถ้าเกิดคุณยายหัวใจล้มเหลวจะไม่ขออนุญาตปั๊มหัวใจด้วยเพราะคุณยายอายุเยอะถ้าปั๊มคือกระดูกหักแน่นอนพูดง่ายๆภาษาชาวบ้านเหมือนเราไปนั่งเพื่อบอกว่ายายกำลังจะตายแล้วนะแล้วไม่มีทางรักษาตูมรู้สึกว่าทำไมเป็นตูมคนสุดท้ายที่รู้ทุกคนก้มหน้าทราบหมดแล้วยอมรับสภาพแล้วแต่ตูมกับช็อกตอนตีตูมโทรไปว่าแม่แบบ

แม่หญิง : ทำไมแม่เซ็นเอกสารกันแบบนี้

ดีเจมะตูม : ทำไมถึงทำแบบนี้กับยายไม่ให้โอกาสเขามีชีวิตเหรอแต่พอตูมมาฟังหมอตูมเลยเข้าใจหมอว่านี่คือการทำให้เขาไปอย่างสบายที่สุดก็คือการปล่อยให้เขาไปแบบธรรมชาติแอร์ภัณฑิลาทำพวงมาลัยต้องสวยที่สุดนะวันแม่ปีนี้ยายกูเข้าโรงพยาบาลกูต้องการดูแลยายให้ยายรู้ว่ากูอยู่เคียงข้างเขาใครจะรู้ว่าตอนเช้าตูมต้องเอาพวงมาลัยไปให้ที่วัดแทนมันไวมากสำหรับตูม

ตูมโทรบอกแม่ตอนไหน?

ดีเจมะตูม : แม่รู้เป็นคนแรกคุณยายไปตอนเช้าคุณยายตื่นมา 7 โมงครึ่งขอทานข้าวเขาไม่ได้กินข้าวมา 2 วันเขาให้อาหารทางสายน้ำเกลือเพราะว่าเขาป่วยแต่อยู่ๆเขามีแรงฮึบเฮือกสุดท้ายกินข้าวจนหมดแล้วบอกพยาบาล

แม่หญิง : คุณหมอเขาจะอัดเป็นข้อความส่งมาด้วยเนี่ยคุณยายขอทานข้าวนะแล้วคุณยายบอกเนี่ยจะต้องไปถ่ายงานเป็นห่วงงานมากเดี๋ยวจะไปถ่ายงานกับหลานยังมีเสียงมาด้วย

ดีเจมะตูม : ทำให้คุณยายเขารอตูมมารับเพราะรู้ว่าจะมาเปลี่ยนห้องบอกว่ากินข้าวเสร็จเดี๋ยวหลานมารับนะแต่เหนื่อยขอนอนรอหลานก็เป็นการนอนแบบไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

ตอนที่คุณยายไปช่วงเวลานั้นมะตูมอยู่ด้วยไหม?

ดีเจมะตูม : คุณแม่เป็นคนโทร

แม่หญิง : คุณหมอจะส่งข้อความมาว่าคุณยายทานข้าวเสร็จแล้วทีนี้ก็หลับไปเลยนะคะ

ดีเจมะตูม : คือตูมกึ่งหลับกึ่งตื่นแม่โทรมาหาตูมตอนประมาณ 09:30 คุณยายไปตอนประมาณ 09:18 แม่โทรมาเรียกชื่อเฉยๆตูมรู้เลยแล้วก็ล้มเลยตูมรู้ว่าคำว่าตูมมันไม่ใช่ความหวังแต่มันคือฝันสลายวันนั้นแย่มากตูมเตะกระจกเย็บ 8 เข็มเลยทุกวันนี้ยังถามตัวเองว่าทำไมถึงปล่อยตัวเองหนักขนาดนั้นไม่ได้กินข้าวเหมือนยายตายแล้วเราตายไปด้วยเลยกับเขามันหนักมากจริงๆ

มะตูมเหมือนหลอกตัวเองตลอดเวลาว่ายายยังอยู่?

ดีเจมะตูม : ยังอยู่มันไม่ใช่เรื่องจริงสิตูมเพิ่งซื้อบ้านตูมหลอนแบบขอให้อยู่ๆยายฟื้นขึ้นมามันไม่เอาสัจธรรมมันไม่เอาความเป็นจริงชีวิตมันอยู่กัยการที่เรายึดติดรู้แหละว่าวันหนึ่งจะต้องจากไปแตาต้องไม่ใช่วันแม่แห่งชาติและต้องไม่ใช่วันที่เราซื้อบ้านให้เจาอยู่สิ

ยายได้มาที่บ้านหลังใหม่หรือยัง?

ดีเจมะตูม : มาครั้งเดียวคือวันที่ถ่ายคลิปเซอร์ไพรส์แม่แล้วอีกวันตามไปส่งแม่ไปสนามบิน

แม่หญิง : 20 กว่าปีเขาไม่เคยไปส่งที่สนามบินตอนแรกบอกไม่ต้องลงนะเขาบอกขอลงไปด้วยก็มีไหว้สวัสดีก็บอกจะมาทำไมมันเป็นเวลานอนเนี่ยเขาบอกว่าขอไปส่งสักครั้งเขาพูดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้หนูอาจไม่กลับมาหรือหนูมาอาจจะไม่เจอแม่หรือแม่อาจจะไม่อยู่เราก็บอกแม่พูดอะไรเนี่ยตอนขึ้นเครื่องกลับมาร้องไห้คนเดียวไม่กินข้าวไม่นอน

ดีเจมะตูม : แม่อยู่อเมริกาพี่กับน้องอยู่เยอรมันทุกคนอยู่บนเครื่องหมดวินาทีที่ยายเสียทุกคนต้องเดินทางกลับมันทำให้คืนแรกเป็นตูมคนเดียว

ตูมมีลางสังหรณ์?

ดีเจมะตูม : 5 วันก่อนคุณยายไปตูมไปทานข้าวตูมจะไปกินข้าวกับยายทุกๆอาทิตย์อยู่แล้วมันจะมีร้านที่ยายชอบและตูมไปกินตั้งแต่เด็กมีเมนูที่ยายชอบมากทุกครั้งที่กินยายจะให้ห่อกลับ 2 ชุดเพื่อจะเก็บไว้กินวันรุ่งขึ้นแล้ววันนั้นไปกินข้าวมื้อสุดท้ายกับยายยายไม่ทานเยอะเขากินนิดๆหน่อยๆเขาเหมือนนั่งกดโทรศัพท์คุยกับแม่พอทานเสร็จปุ๊บตูมถามยายว่าเอากี่ชุดเขาบอกไม่เอากินมาเยอะพอแล้วตูมก็บอกเอาไปแช่ได้ไงแม่วันนี้ยังไม่ต้องกินกินพรุ่งนี้เขาบอกไม่เอาพอแล้วกินเยอะแล้ว

ตอนนั้นเรารู้สึกอะไรไหม?

ดีเจมะตูม : ไม่รู้สึกหลายๆคนตั้งคำถามว่ายายเป็นถึงลูคีเมียแล้วจากไปกะทันหันไม่มีใครรู้เลยเหรออย่างที่ทุกคนเห็นยายดูสุขภาพแข็งแรงจริงๆคือเรามองไม่ออกจริงๆว่าข้างในยายรู้สึกยังไงเพราะว่าการถ่ายทำคลิปทุกอย่างวันที่ 26 กรกฎาคมก่อนที่คุณยายจะจากไป 2 อาทิตย์เรายังไปถ่ายรายการด้วยกันเล่นร้องเพลงทุกอย่างยายตูมดูแข็งแรงมาหจริงๆมันเลยทำให้ตูมรับไม่ได่กับการที่ยายไปไวขนาดนี้

วันที่เริ่มพิธีคุณแม่หญิงกลับมาไม่ทันรดน้ำ?

แม่หญิง : คืนแรกค่ะมาตอนกลางคืนซึ่งงานจบแล้ว

ตอนนั้นตูมจัดการทุกอย่างคนเดียว?

ดีเจมะตูม : ตูมไม่มีประสบการณ์การจัดงานศพให้ใครเลยแล้วไม่อยากทำด้วยนะคะแต่พอมันได้ทำจริงๆตูมโทรหาใครก็ไม่รู้เต็มไปหมดตูมหันไปอีกทีคือแอร์ยกดอกไม้มาทั้งสวนแล้วพี่อั้มเอาเครื่องสำอางมาพี่มดเป็นเจ้าภาพตูมโขคดีที่ตูมพอมีเพื่อนพี่น้องที่พอมีประสบการณ์ตรงนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราสำหรับเราการตัดงาน 7 วันนี้มันเป็น 7 วันที่เหมือนตูมถูกบังคับให้โตเลยนี่คือการเป็นผู้นำจริงๆแล้ว

มะตูมไม่ทานข้าว 2 วัน?

ดีเจมะตูม : 2 คืนแรกมันเหมือนเราตายทั้งเป็นใครมาเราจำอะไรไม่ได้เลยเราได้แต่ร้องไห้ตูมเห็นพวงมาลัยที่ตูมจะเอามาไหว้เขาวันแม่แล้วตูมเอามาคล้องมือเขาตอนรดน้ำทำไมมันถึงเป็นแบบนี้แล้วบ้านเราเรากำลังจะมีคอนเทนต์ด้วยกันอีก 2 เดือนจะวันเกิดยายแล้วจะได้ไปร้องเพลงกับน้าโย่งแล้วแล้วตูมกำลังจะออกรถให้ใหม่คือตูมมีแพลนกับเขาเยอะมากทำให้ 2 วันแรกตูมหลุดไปกับทุกอย่าง

ยายมาเตือนสติ?

ดีเจมะตูม : เตือนสติแรงมากคือแขกมาในงานตูมหลังหลบอยู่หลังโลงแล้วร้องไห้ทำอะไรไม่ถูกจนตูมลุกขึ้นมากำลังจะเปิดประตูออกซึ่งเป็นประตูข้างโลงด้วยความรีบของเราเราเตะประตูออกไปเราไม่รู้ว่าประตูมันล็อกอยู่คิดว่ามันเปิดอยู่ก็เลยใช้เท้าเตะไปก่อนกระจกแตกเสียบไปที่นิ้วเย็บ 8 เข็มเห็นกระดูกเลยโชคดีที่วันนั้นดีเจต้นหอมอยู่เขาก็เลยตูมแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ 5 นาทีก่อนพระสวดตูมก็เลยรีบกำนิ้วตัวเองเอาทิชชู้ซับเอาถุงพลาสติกคลุมไว้เลือดก็ไหลนั่งฟังพระสวดให้จบแล้วไปเย็บขอบคุณพี่ต้นหอมด้วยที่อาสาพาไป

ซึ่งมะตูมเชื่อว่าเป็นยายที่มาเตือนสติ?

ดีเจมะตูม : หลังวันนั้นตูมไม่ฟูมฟายเลยตูมกินข้าวเลยตูมได้สัจธรรมเลยเหมือนยายบอกเลยว่าเจ็บไหมเจ็บใช่ไหมนี่ไงคนที่ต้องมีชีวิตอยู่ยังเจ็บปวดอยู่จะมาร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนที่เขาจากไปแล้วได่ยังไงเรายังต้องเป็นคนนำอยู่แล้วแม่ล่ะแล้วพี่น้องแล้วแบกล่ะตั้งแต่วันนั้นตูมดีขึ้นมากเลยผ่านงานมาได้เพราะการเจ็บต้องนี้เลยหลายคนบอกว่าทำไมตูมจัดงานยายดอกไม้ขนาดนั้นตูมมองว่ายายเสียสละเลือกที่จะเก็บว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรเพื่อไม่ให้ลูกหลานต้องเป็นภาระแล้วต้องรักษาเขาเพราะฉะนั้นเนี่ยแค่นี้มันน้อยไปด้วยซ้ำที่ตูมทำให้เขาตูมควรทำให้ยายได้มากกว่านี้

มีเรื่องที่ติดค้างกับคุณยาย?

ดีเจมะตูม : ช่วงสุดท้ายของชีวิตคุณยายตูมว่าตูมทำหน้าที่ได้เท่าที่หลานคนหนึ่งจะทำได้ดีที่สุดแล้วแต่ถ้าถามว่าติดค้างอะไรไหมคือตูมตั้งใจจะซื้อรถคันใหม่ให้คุณยายเพราะว่าคุณยายเคยพูดว่าขับมา 30 ปีแล้วรถก็เก่าคนก็แก่เขาจะพูดอย่างนี้กับตูมตลอดจนตูมตั้งใจว่าจะเซอร์ไพรส์วันเกิดซื้อรถคันใหม่ให้ยายขับขึ้นลงสุพรรณนี่คือสิ่งที่ตูมยังไม่ได้ทำ

แม่หญิง : ของแม่หญิงคือเงินเราจะน้อยกว่าเขาเพราะว่าคุณยายชอบมานั่งตรงริมน้ำตรงบ้านสวนเขาบอกว่าตรงนี้น่าจะมีแพลอยน้ำสักหน่อยแล้วก็มีหลังคาเราเลยบอกว่าโอเคเดี๋ยวกลับจากอเมริกาทำให้แล้วอีกอันคือสวนหน้าบ้านซึ่งทำไปแล้วเหลือแค่แพยังไม่ได้ทำ

อยากบอกอะไรคุณยาย?

ดีเจมะตูม : ไม่ต้องห่วงอะไรการที่ตูมกับแม่มาที่นี่ก็ต้องการให้ยายรู้ว่าเราสองคนเข้มแข็งมากขึ้นแล้วการบอกคนที่จากไปเราไม่รู้ว่าเขารับรู้ไหมแต่อยากบอกคนดูตอนนี้ว่าตูมเอาเรื่องของครอบครัวตัวเองมาตูมอยากให้ทุกคนดูแล้วได้อะไรกลับไปอยากให้เป็นวิทยาทานอยากให้ทุกคนใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุดกับคนที่คุณรักเพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้มันจะมาหรือเปล่า

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์มะตูมและแม่

https://youtu.be/-U1626-8F9E

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCmL7sBjm02WNURAOxGzq25w

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube