fbpx
Home
|
ภูมิภาค

เปิดใจ “พี่แจ๋ม” วีรสตรีไทยช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล

Featured Image
เปิดใจ”พี่แจ๋ม”วีรสตรีไทยช่วยแรงงานไทยในอิสราเอล บินกลับบ้านร่วมงานศพแม่ที่หนองบัวลำภู

 

 

 

 

 

เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 17 ต.ค. 2566 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางแจ๋ม อายุ 40 ปี อยู่บ้านม.3 บ้านหนองแวง ต.กุดดู่ อ.โนนสังข์ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก “Jam Vannachai” ที่ได้ทำการไลฟ์สด ขณะเข้าช่วยเหลือแรงงานไทยที่ประเทศอิสราเอล ในช่วงเกิดเหตุรุนแรงที่กลุ่มฮามาส และเป็นคนไทย ที่แรงงานไทยในอิสราเอลมีการพูดถึงและขอบคุณมากที่สุดในเวลานี้

 

 

 

นางวิภาวดี กล่าวว่า แต่งงานกับสามีชาวอิสราเอล ซึ่งมีอาชีพเป็นทนายความและเปิดสำนักงานทนายความ เพื่อรับปรึกษาและว่าความในอิสราเอล รวมถึง รับเรื่องร้องเรียนจากแรงงานไทยในอิสราเอลมากว่า 15 ปีแล้ว มีบุตรด้วยกัน 3 คน แต่ปัจจุบันได้เลิกกับสามีแล้ว และวันเกิดเหตุรุนแรงได้ไปอยู่กับแม่น้อง คนไทยอีกคน ที่ร่วมกันตระเวนช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล

 

 

 

“ช่วงเกิดเหตุรุนแรงที่กลุ่มกบฎฮามาสโจมตีอิสราเอลนั้น มีแรงงานไทยที่เคยติดต่อกับสำนักงานทนายความ โทรศัพท์มาหา แชทข้อความมาหา มาขอความช่วยเหลือ จึงจับมือคุยกับแม่น้องว่า เกิดมาชาติเดียว ตายครั้งเดียว เราจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนไทย จากนั้นก็พากันขับรถออกไปพบกับแรงงานที่ขอความช่วยเหลือมา แรงงานบางคน แคมป์ที่พักถูกเผาทำลายไม่เหลือเอกสารสำคัญติดตัว เมื่อเกิดเหตุรุนแรง ได้รับบาดเจ็บ ต้องการกลับบ้าน ก็ต้องดำเนินการจัดการติดต่อกับทุกฝ่าย เพื่อให้คนไทยได้กลับบ้าน

 

 

 

โดยเฉพาะโอโน่กับชาตรี แรงงานไทยที่ถูกยิง ไม่มีเอกสารติดตัว แต่ลงทะเบียนเดินทางกลับประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็มีแรงงานไทยที่ทราบเรื่อง ก็เดินทางมาหาที่สนามบิน จึงได้ติดต่อกับทุกฝ่ายจนทุกคนได้พาสปอร์ตขาว จากนั้นก็เดินทางกลับมาที่ประเทศไทยได้พร้อมกันทุกคน”

 

 

นางวิภาวดี กล่าวต่ออีกว่า การช่วยเหลือแรงงานไทยที่ร้องขอความช่วยเหลือมานั้น ไม่ง่าย เพราะอันตรายทุกจุด บางจุด ทหารก็ไม่ให้เข้า แต่จำเป็นต้องเข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนไทยออกมา ทหารก็เข้าใจ และรักษาความปลอดภัยให้ จนช่วยเหลือแรรงานไทยได้ ทุกครั้งที่เดินทางเข้าไปช่วยเหลือแรงงานไทยนั้น ไม่มีเครื่องลางของขลังหรือสิ่งศักดิ์ใด มีเพียงบอกกล่าวพระเจ้าให้เปิดทาง คุ้มครองให้ทุกอย่างที่ตั้งใจทำ ราบรื่นและปลอดภัย

 

 

 

“ขอให้คนไทยที่ทำงานในอิสราเอล มีสติ และมีความปลอดภัย เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ อย่าออกนอกพื้นที่ เพราะหากเกิดเหตุร้ายไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ ยอมรับว่า ทุกคนลำบาก แต่ถ้ามีสติ ตั้งใจ ทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ ส่วนสถานการณ์ในอิสราเอลนั้น ทุกวันนี้ ยังไม่มีความคลี่คลายลงเลย ขอให้ทุกคนระวัง รักษาตัวเองให้ดี และดีใจกับคนไทยที่ปลอดภัยและได้กลับบ้าน เสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกรายด้วย”

 

 

 

น.ส.วิภาวดี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กลับมาที่บ้านในครั้งนี้ เพราะมารดาเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงมาเคารพศพแม่และร่วมพิธีฌาปนกิจศพคุณแม่ และจะอยู่ที่บ้านจนถึงเดือน ธ.ค.2566 จึงจะเดินทางกลับประเทศอิสราเอล แต่ในช่วงที่กลับมาที่บ้าน แรงงานไทย และคนไทยที่อิสราเอล ยังคงติดต่อสื่อสารกันได้ตามปกติ และในพื้นที่ก็ยังมีแม่น้องคนไทยที่ ยังคอยให้ความช่วยเหลือคนไทยอยู่อีกด้วย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube