fbpx
Home
|
ภูมิภาค

สนามบินเชียงใหม่ขานรับนโยบายเปิดประเทศ

Featured Image
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขานรับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล เตรียมพร้อมบุคลากรให้ได้รับวัคซีน

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการให้บริการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามโครงการเชียงใหม่แซนด์บ็อกซ์ (Chiangmai Sandbox) ว่า ที่ผ่านมาได้ประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2564 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้เตรียมจัดการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบตามแผนฉุกเฉิน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในบทที่ 13 เรื่อง เหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ – กรณีเชื้อโรคติดต่อและการกักกันโรค ข้อ 13.2 กรณีควบคุมหรือป้องกันการแพร่ของโรคติดต่อ ณ ท่าอากาศยาน เพื่อทบทวนบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ และซักซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อให้การคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สอดคล้องกับคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 4/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 9) ขณะเดียวกันก็ยังคงดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และจังหวัดเชียงใหม่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้องมีการลงทะเบียนผ่านระบบ CM CHANA ล่วงหน้า ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม ยังคงต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ยกเว้นกรณีที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็ม และเข็มที่สองได้รับมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน จึงจะสามารถขอรับการผ่อนผันได้

สนามบินเชียงใหม่ขานรับนโยบายเปิดประเทศ

ส่วนสถานการณ์ด้านการบิน ณ ปัจจุบันมีเที่ยวบินในประเทศขึ้น-ลง เฉลี่ยวันละ 14-18 เที่ยวบิน ก่อนหน้าที่จะมีการระดมฉีดวัคซีน จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 1,200 – 1,400 คน แต่หลังจากที่รัฐบาลได้ระดมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นวันละกว่า 2,000 คน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube